570,000 คนร่วม ‘เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน’

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า


570,000 คนร่วม ‘เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน’ thaihealth


แฟ้มภาพ


          เป็นระยะเวลากว่าสองทศวรรษมาแล้ว ในการดำเนินงานเชิงนโยบายของ สสส. เพื่อสร้างสังคมไร้ควัน ขับเคลื่อนจังหวัดปลอดบุหรี่ จนถึงกำหนดพื้นที่สาธารณะให้เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ เพื่อลดควันบุหรี่มือสองในสถานที่ต่างๆ  และ หลังจากที่พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ ยาสูบฉบับใหม่ ถูกประกาศใช้เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้มีความเชื่อ และเกิดความหวังขึ้นอย่าง เป็นรูปธรรมว่า "โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน" ของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ หรือ สสส. ที่ได้ทำงานมาแล้วหนึ่งปี จะต้องเกิดความเข้มแข็งยิ่งขึ้นในแนวทางของการทำงานปีที่สองในวันนี้


          "โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน" ดำเนินงานครบรอบ1 ปี เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีรายชื่อผู้รับการเลิกบุหรี่จากทั่วประเทศกว่า 570,000 รายชื่อ และจากการประชุมคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบครั้งล่าสุดที่ประชุมมีมติให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมผลักดันโครงการ 3 ล้าน 3 ปีฯ เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความ เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น


          ด้วยเหตุนี้ สำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย มูลนิธิ เครือข่ายหมออนามัย สมาคมหมออนามัย สมาคมวิชาชีพสาธารณสุข  สมาคมอาสาสมัครเพื่อสังคมไทย (อสม.) และ ภาคีเครือข่าย จึงได้จัดประชุมวิชาการ "บุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ" ครั้งที่ 16 เรื่อง "บุหรี่: ภัยคุกคามต่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" โดยมีการสรุปผลงานเลิกบุหรี่ 3 ล้าน 3 ปี ภาคีร่วมใจ สู่การบรรลุเป้าหมายเลิกบุหรี่ 3 ล้านคน


570,000 คนร่วม ‘เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน’ thaihealth


          นพ.สุเทพ เพชรมาก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยฯ มียุทธศาสตร์ดำเนินงาน 3 ประการ คือ 1.การใช้กลไก "เครือข่ายหมออนามัย และ อสม." ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็น กลุ่มที่ใกล้ชิดประชาชนในระดับพื้นที่มากที่สุด  2.สร้าง "กิจกรรมลงมือทำ" ควบคู่ไปกับ "กิจกรรมรณรงค์สร้างกระแส" โดยที่กิจกรรม รณรงค์มุ่งให้ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง "ทัศนคติ" ส่วนกิจกรรมลงมือทำมุ่งเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมด้วยกระบวนการกลุ่ม โดยโครงการนี้ จะทำการ "สร้างกลุ่มลงมือทำพฤติกรรม บางอย่างร่วมกัน" ซึ่งในที่นี้ คือ การตั้ง "กลุ่มคนรักษ์สุขภาพ ทำกิจกรรมออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ เลิกบุหรี่ ร่วมกับการเลิกเหล้า" และ 3.เน้น "ลงมือทำสร้างพฤติกรรมอย่าง ต่อเนื่อง" ควบคู่ไปกับ "รณรงค์สร้างกระแสใหญ่ เป็นระยะ" โดยโครงการนี้จะจัดให้มีการทำกิจกรรม ออกกำลังกายในระดับตำบลทุกสัปดาห์ และจะเชิญคนสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เลิกบุหรี่-เลิกเหล้า ร่วมกันทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลการดำเนินโครงการ ใน 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานเดินไปข้างหน้าคือ ทุกภาคส่วนร่วมกันจับมือสร้างแรงขับเคลื่อนให้งานดำเนินได้คล่องตัวขึ้น


570,000 คนร่วม ‘เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน’ thaihealth


          ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รอง ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวถึงการแก้ไขปัญหา เรื่องบุหรี่ในประเทศไทยว่า ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาว่า เราใช้มาตรการต่างๆ มาขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็น การออกกฎหมาย การบังคับใช้กฏหมายระบบการเลิกบุหรี่ การพยายามให้เกิดคลินิกดูแลเรื่องบุหรี่ รวมไปถึงการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ด้วยการเข้าไปให้ความรู้ในกลุ่มเยาวชน จนพัฒนาเป็นหลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหรี่ จังหวัดควบคุมยาสูบทั่วประเทศ  และจากการขับเคลื่อนผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ทำให้เห็นการทำงานและพลังของเครือข่ายหมออนามัย และ อสม. ที่เข้าไปให้ ความรู้และเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ จนขณะนั้น ได้รายชื่อสนับสนุน พ.ร.บ.ดังกล่าวกลับมาถึง 10 กว่าล้านรายชื่อภายในระยะเวลา รวดเร็ว ณ จุดนี้จะเห็นได้ว่าพลังของเครือข่าย หมออนามัย และ อสม. เป็นพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนงานโครงการต่อไป หลายคนอาจมีความคิดเห็นว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จได้ยาก แต่ สสส.เชื่อว่าถ้า ทุกหน่วยงานจับมือกันเดินไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายเดียวกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก


          ในการสนับสนุนโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยฯ เพื่อลดการอัตราการสูบของประชาชน ด้วยตระหนักว่า การสูบบุหรี่เป็นพิษต่อร่างกาย ควันบุหรี่ส่งผลต่อคนใกล้ชิด บุหรี่จึงไม่ใช่สินค้าปกติเหมือนกับสินค้าทั่วไป ซึ่งโครงการนี้ มีความมุ่งหวังเพื่อที่จะให้ผู้คนเลิกสูบบุหรี่ ให้มากที่สุด โดยตั้งเป้าหมายไว้ให้คนเลิกสูบบุหรี่ 3 ล้านคนในเวลา 3 ปี ในปี 2559-2562 คนที่สนใจจะเลิกบุหรี่สามารถ สมัครได้ที่สาธารณสุขกรุงเทพฯ สาธารณสุข ประจำหมู่บ้าน ตลอดจนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน และสาธารณสุขอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ เว็บไซต์  http://www.quitforking.com


 


  

Shares:
QR Code :
QR Code