5 TIPS วัยเก๋ารับมือหน้าฝน ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่เจออุบัติเหตุ
ที่มา : เว็บไซต์กรมกิจการผู้สูงอายุ
เมื่อเข้าหน้าฝน หลายคนๆอาจชอบเพราะจะได้คลายร้อน ชุ่มช่ำ ยิ่งเวลาที่เรานอนฟังเสียงในตกอยู่ในห้องนอนอุ่นๆ ยิ่งทำให้ไม่อยากลุกออกจากเตียงเลยทีเดียวใช่ไหมคะ แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่ไม่ชอบหน้าฝน เพราะทำให้เฉอะแฉะ ต้องคอยระมัดระวังเวลาไปไหน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และที่สำคัญคือ ทำให้เราป่วยง่าย!
การเจ็บป่วยในหน้าฝนเป็นสิ่งที่เด็กและผู้สูงอายุเกือบทุกคนต้องเจอเลยทีเดียว เพราะสองวัยนี้เป็นวัยที่มีสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่แข็งแรงเหมือนคนหนุ่มสาว จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ วันนี้น้องสุขจึงมีข้อเตือนใจมาฝากตาจ๋ายายจ๋าในการใช้ชีวิตในช่วงหน้าฝนให้มีความสุข ไร้โรค ไม่เจ็บป่วย และไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่ละข้อก็ง่ายมากๆ เพราะสิ่งที่สำคัญคือการเตรียมพร้อมและไม่ประมาท มาดูกันเลยจ้า
1. ตรวจเช็คยานพาหนะให้สมบูรณ์
หากผู้สูงอายุท่านไหนที่ยังเก๋า ยังแข็งแรงพอที่จะไปไหนมาไหนเองได้ ก็ต้องคอยตรวจเช็คสภาพของยานพาหนะเราก่อนที่จะออกจากบ้านทุกครั้ง เช่น รถยนต์ ควรเช็กแต่ละส่วนให้เตรียมพร้อมกับการรับฝนหนัก และหลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่ที่น้ำท่วมด้วยนะคะ ยกตัวอย่างใบปัดน้ำฝน ไม่ควรทำให้เกิดเสียงดังขณะปัด ปัดแล้วไม่เกิดคราบน้ำบนกระจก เพราะนั่นจะหมายถึงว่าใบปัดน้ำฝนของเราเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว และจะทำให้เราเห็นทางไม่ชัดเจน ถ้าฝนตกหนักก็จะทำให้เกิดอันตรายได้ ระบบเบรก ต้องตรวจดูว่าผ้าเบรกของรถเราสึกแล้วหรือยัง โดยสังเกตตอนเหยียบเบรกว่ามันจมลึกกว่าปกติหรือเปล่า ส่วนยางรถยนต์ ก็ควรเติมลมยางให้พอดี เพราะมันจะส่งผลเรื่องการเกาะถนนเวลาที่เราขับรถด้วยความเร็วบนถนนที่เปียกลื่น ถ้ายางไม่ดี ก็จะทำให้เกิดอันตรายได้ค่ะ
2. อย่าลืมพกร่มทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
ร่มเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในหน้าฝน แต่น้องสุขเชื่อว่าก็เป็นสิ่งที่ทุกคนลืมพกอยู่บ่อยครั้งเช่นเดียวกัน ใช่ไหมจ้ะ หน้าฝนแบบนี้ควรมีร่มพกพาแบบดีๆ ใหญ่ๆ สักคัน เอาไว้ติดกระเป๋าก่อนออกไปไหนตลอดเวลา เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะต้องเจอฝนตอนไหน ดังนั้นก็พกไว้ให้เป็นนิสัยไปเลย ไม่เปียกแน่นอนจ้า อีกทั้ง ร่มบางชนิดยังสามารถกันแดดได้อีกด้วย ถ้าจะซื้อทั้งทีแล้ว ตาจ๋ายายจ๋าท่านไหนที่ชอบออกนอกบ้าน ก็ควรเลือกร่มที่ใช้กันแดดในตัวไปด้วยก็ดีนะจ้ะ เพราะถ้าไม่เจอฝน เราก็ยังใช้กันแดด ไม่ต้องเจอกับแดดจ้าๆ เสี่ยงต่อการเป็นลมได้ด้วย
3. รองเท้าสำคัญในการเดินบนพื้นหน้าฝน
หน้าฝนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก ยิ่งกับผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อการลื่นล้มได้อย่างง่ายๆ ยิ่งต้องดูแลในเรื่องของรองเท้าที่สวมใส่เป็นพิเศษ ควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าที่ทำจากวัสดุคุณภาพดี ในหน้าฝนควรเลือกใส่รองเท้าที่สามารถกันลื่นได้ เช่น วัสดุประเภทยาง ที่จะทำให้การเดินบนพื้นลื่นๆของเรานั้นมั่นคง ไม่ลื่นง่าย เพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากการลื่นล้มเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายมาก และมีความเสี่ยงถึงชีวิตได้เลยถ้าเราประมาทและไม่ดูแลตัวเอง
4. หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัด
ในหน้าฝนเป็นฤดูที่เชื้อโรคต่างๆ สามารถแพร่กระจายไปได้อย่างง่ายมาก และเราก็ไม่รู้ว่าใครเป็นโรคติดต่อบ้าง ผู้สูงอายุส่วนมากที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วนั้นเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุด เช่น โรคปอดบวม ที่จะพบมากในฤดูฝนโรคปอดบวมเกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และมักเป็นโรคแทรกซ้อนหลังป่วยไข้หวัด เพื่อป้องกันการเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดบวม ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย และที่สำคัญคือ หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนแออัดจ้า
5. โรคไข้หวัดใหญ่ที่มากับฝน
ในหน้าฝนเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นภาวะที่มีความชื้นสูง ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคนานาชนิดได้ง่ายขึ้นกว่าสภาวะปกติ ซึ่งแน่นอนว่าโรคฮิตที่มักพบในฤดูนี้คือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจอย่างโรคไข้หวัดนี้เอง ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส และเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายได้จากการไอและจาม ผู้สูงอายุและเด็กจึงควรได้รับการดูแลเป็นนพิเศษ คอยสังเกตตัวเองและคนใกล้ตัวว่าถ้ามีอาการน้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก จาม อ่อนเพลีย มีไข้ต่ำๆ หรือไอแห้งๆ ควรพบแพทย์แต่เนิ่นๆ และรับการรักษาโดยเร็ว
สามารถติดตามบทความและข้อมูลอ้างอิงต่อได้ที่…https://www.dop.go.th/th/know/15/882