ไทยเดินหน้า “มหานครปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” สสส.-กทม. จับมือ อิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์ บังคับใช้กฎหมาย ยกระดับเมืองปลอดควัน ปกป้องสุขภาพคนกรุงเทพฯ
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก สสส.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. 2568 ที่สำนักเทศกิจ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ มูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ จัดงาน “ประชุมเชิงปฏิบัติการเมืองปลอดบุหรี่ ถอดบทเรียนความสำเร็จการบังคับใช้กฎหมายเมืองอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์” ซึ่งเป็นเมืองต้นแบบ ที่ได้รับรางวัล ASEAN Smoke-Free Award 2024 ระดับเหรียญทองจากสำนักเลขาธิการอาเซียน เพื่อยกระดับการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควัน พร้อมมุ่งพัฒนาเมืองปลอดบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพ สร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย พร้อมผลักดันบังคับใช้กฎหมายอย่างยั่งยืน
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสุขภาพประชาชนจากควันบุหรี่มือสองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ซึ่งองค์การอนามัยโลกประเมินว่า ประเทศไทยได้ 6 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 ในการป้องกันประชาชนจากควันบุหรี่ในที่สาธารณะ ปัจจุบันมีคนไทยที่ไม่ได้สูบบุหรี่ 34 ล้านคน แต่คนเหล่านี้ยังคงได้รับควันบุหรี่มือสองจากคนรอบตัว โดยเฉพาะในบ้าน ซึ่งถือเป็นอัตราสูงเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก จากข้อมูลผลสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 6 ปี 2562 พบคนไทย 70% ได้รับควันบุหรี่มือสอง โดยเพศหญิงได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่มือสองในบ้าน 68% ขณะที่เพศชายอยู่ที่ 47% ปัญหาควันบุหรี่มือสองและมือสามไม่เพียงส่งผลต่อผู้สูบ แต่กระทบต่อสุขภาพของประชาชนทุกคน การป้องกันและลดความเสี่ยงจากควันบุหรี่จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งครอบครัว ชุมชน ภาครัฐ เพื่อสร้างสังคมไทยที่ปลอดภัยจากควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ปัญหาบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องของใครคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทั้งสังคมที่ต้องร่วมมือกัน โดย สสส. พร้อมขับเคลื่อน “เป้าหมายกรุงเทพฯ มหานครปลอดบุหรี่” ร่วมกับ กทม. เพื่อสร้างเมืองที่ปกป้องสุขภาพประชาชนด้วยมาตรการที่เข้มแข็ง มีระบบเข้าถึงง่าย และรองรับความต้องการของประชาชนทุกช่วงวัย ผ่านการดำเนินงาน 3 ด้าน 1.สนับสนุนเครื่องมือ นวัตกรรม ระบบสำรวจการสูบในเยาวชน ระบบรายงานพื้นที่เสี่ยง และการสื่อสารที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ 2.พัฒนาศักยภาพบุคลากร ครู แกนนำชุมชน ผู้บริหารเขต และอาสาสมัคร ให้มีทักษะการให้คำปรึกษา จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดควัน ป้องกันเยาวชนเข้าถึงบุหรี่ 3.สนับสนุนความร่วมมือเชิงนโยบายและงบประมาณ ขับเคลื่อนพื้นที่ปลอดบุหรี่ในโรงเรียน ตลาด ชุมชน ควบคู่กับการพัฒนาระบบช่วยเลิกบุหรี่ที่เข้าถึงได้ในทุกพื้นที่ เพราะการที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครปลอดบุหรี่ ไม่ใช่แค่การลดจำนวนผู้สูบ แต่คือการสร้างเมืองที่ทุกคนหายใจได้อย่างปลอดภัย
ดร.วรชล ถาวรพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร เดินหน้าสู่การเป็น “มหานครปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า” อย่างเต็มรูปแบบ ให้เป็นมาตรฐานความปลอดภัยของเมืองหลวง เพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อเด็กและเยาวชน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ปลอดภัยจากควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีมาตรการ 4 ด้าน 1.สร้างพื้นที่ปลอดควัน กำหนดพื้นที่สาธารณะ โรงเรียน สถานพยาบาล แหล่งชุมชน และจุดรวมตัวของประชาชนให้เป็นเขตปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ควบคู่การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง 2.ปกป้องเด็กและเยาวชนจากผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ ผ่านการสื่อสารและสร้างการรู้เท่าทันในสถานศึกษา 3.เพิ่มช่องทางเลิกบุหรี่ให้เข้าถึงง่ายขึ้น ผลักดันประชาชนเลิกบุหรี่ได้จริงอย่างยั่งยืน 4.สร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมกันกำหนดแนวทางป้องกัน ควบคุมและลดการสูบบุหรี่ ความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้กรุงเทพมหานครก้าวสู่เมืองสุขภาพดีที่ประชาชนปลอดภัยจากควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างแท้จริง
Councilor Alan Zaldivar สมาชิกสภาและประธานคณะกรรมการสุขภาพ เมืองอิโลอิโล ประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างเมืองอิโลอิโลและกทม. จะช่วยยกระดับการควบคุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ด้านการป้องกัน ความร่วมมือนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการสร้างอาเซียนปลอดบุหรี่ ช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น และยังสามารถต่อยอดเป็นต้นแบบนำร่องให้ประเทศอื่น ๆ ต่อไป
Mr.Inigo D.Garingalao ผู้อำนวยการบริหาร คณะทำงานเมืองอิโลอิโลปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ความสำเร็จของเมืองอิโลอิโลปลอดบุหรี่ไม่ได้มาจากการออกกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เมืองอิโลอิโลได้จัดตั้งทีมบังคับใช้กฎหมายเฉพาะกิจ (Task Force) ทำงานร่วมกับหน่วยงานเทศกิจและตำรวจ ในการเฝ้าระวังอย่างเป็นระบบ พร้อมสร้างกลไกในการออกกฎหมาย การจัดสรรบุคลากร งบประมาณ ไปจนถึงการดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืน เมืองอิโลอิโลยินดีให้คำแนะนำแก่กรุงเทพฯ ในการจัดตั้งกลไก ตรวจสอบ เฝ้าระวัง และลงโทษอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กฎหมายไม่เป็นเพียงตัวอักษร แต่สามารถสร้างสุขภาพที่ดีให้ประชาชนได้จริง
นพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กรมควบคุมโรค มุ่งมั่นในการทำงานเคียงข้างกทม. ในการยกระดับมาตรการควบคุมบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยเดินหน้าพัฒนามาตรการพื้นที่ปลอดบุหรี่ สร้างศักยภาพบุคลากรด้านควบคุมยาสูบ พร้อมขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกในสถานศึกษา พื้นที่สาธารณะ และระบบขนส่งมวลชน เพื่อปกป้องประชาชนจากควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ความร่วมมือดังกล่าวมุ่งสู่การสร้างสภาพแวดล้อมปลอดควันบุหรี่อย่างแท้จริง และช่วยผลักดันให้กรุงเทพฯ ก้าวสู่การเป็นต้นแบบเมืองปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ชีวิตในอากาศบริสุทธิ์และมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
