3 ข้อแนะนำ เหนือ-อีสาน รับมือฝุ่นจิ๋ว
ที่มา : MGR Online
แฟ้มภาพ
สธ.ห่วงอากาศปิด 13-15 ก.พ. แนะตรวจสอบสภาพอากาศ แนะครอบครัวที่มีเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ จัดห้องสะอาดปลอดฝุ่น ห่วงพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน บางจังหวัด ค่าฝุ่นสูงเกินมาตรฐาน ออก 3 คำแนะนำปฏิบัติตัวรับมือฝุ่น PM2.5
วันนี้ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า วันที่ 13-15 ก.พ. ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอาจมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันผลกระทบที่มาจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเยื่อบุตาอักเสบ แนะนำให้จัดห้องสะอาดปลอดฝุ่น (Clean Room) โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยง ซึ่งทำได้ไม่ยาก โดยจัดเตรียมห้องที่มีประตูหน้าต่างปิดมิดชิด ไม่มีสิ่งของมาก เพราะจะเป็นที่กักเก็บฝุ่น และใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดแทนการกวาด เพื่อป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย
"ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองในอากาศจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือ AirVisual สังเกตความเข้มของแถบสีที่แสดง หากเป็นสีส้มและสีแดงจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยคุณภาพอากาศระดับสีส้มคือเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรลด
การทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง หากคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง เป็นระดับที่มีผลต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปและกลุ่มเสี่ยงให้งดการทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้ง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาก N 95 เพื่อป้องกันฝุ่นเมื่อต้องออกไปยังพื้นที่เสี่ยง" นพ.สุขุม กล่าวและว่า นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนสังเกตตนเองหากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ หรือสอบถามข้อมูลในการดูแลสุขภาพจากค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน PM 2.5 เพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลบางพื้นที่เริ่มดีขึ้น แต่พื้นที่ภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางจังหวัดเริ่มได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง แพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำพูน ตาก และขอนแก่นที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันตนเองที่ถูกต้อง ดังนี้ 1) ตรวจเช็กค่าฝุ่น โดยดูที่คุณภาพอากาศ PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน Air4thai หรือติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศทางเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ หรือติดตามรับฟังข่าวสารทางช่องทางอื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอ ให้สังเกตุที่สีเป็นหลัก โดยเฉพาะสีส้มและสีแดงซึ่งเป็นค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพ
2) ประเมินตนเองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ อาทิ มีอาชีพอยู่กลางแจ้งต้องสัมผัสฝุ่นเป็นเวลานานหรืออาศัยในพื้นที่เสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ โรคหัวใจและหลอดเลือด 3) ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันฝุ่น โดยกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท งดกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน หากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นสูงให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากาก N95 แต่ต้องใส่ให้ถูกวิธีหากพบอาการผิดปกติจากฝุ่นละออง หายใจติดขัด แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ ควรต้องพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้พกยาติดตัวตลอดเวลา ที่สำคัญ คือ ทุกคนต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวต่อไป