14 เม.ย.สร้างบ้านปลอดบุหรี่
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยรายงานการวิจัยจากศูนย์วิจัยพฤติกรรมสุขภาพ มหาวิทยาลัยลอนดอน ถึงแนวโน้มบ้านปลอดบุหรี่ในอังกฤษ โดยการสัมภาษณ์เด็กอายุ 4-15 ขวบที่ไม่สูบบุหรี่ จำนวน 13,365 คน พร้อมสัมภาษณ์ผู้ปกครอง ร่วมกับการยืนยันด้วยการตรวจสารโคตินิน สารที่บ่งบอกถึงว่ามีการได้รับควันบุหรี่มือสองหรือไม่ ในน้ำลายเด็ก พบว่า ในครอบครัวที่มีผู้ปกครองสูบบุหรี่หนึ่งคน สัดส่วนบ้านปลอดบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 21% ในปี 2539 เป็น 37% ในปี 2550 ในครอบครัวที่ผู้ปกครองทั้งคู่สูบบุหรี่ สัดส่วนบ้านปลอดบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 21% ในช่วงเวลาเดียวกัน ครอบครัวที่ผู้ปกครองไม่สูบบุหรี่ บ้านปลอดบุหรี่เพิ่มจาก95% เป็น 99% ในผู้ปกครองที่สูบบุหรี่ แต่ไม่สูบในบ้าน เฉลี่ยจะสูบวันละ 8.3 มวน เปรียบเทียบกับผู้ปกครองที่สูบบุหรี่ในบ้านจะสูบวันละ16.2 มวน
ศ.นพ.ประกิตกล่าวว่า การวัดระดับโคตินินในเด็กที่บ้านปลอดบุหรี่มี ค่าเท่ากับ 0.22 นาโนกรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร เทียบกับระดับ 1.67 นาโนกรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ในบ้านที่มีการสูบบุหรี่ คณะผู้วิจัยสรุปว่าบ้านปลอดบุหรี่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอังกฤษในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และเด็กๆ ในบ้านปลอดบุหรี่ได้รับควันบุหรี่มือสองลดลง แม้ทางการอังกฤษจะออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะและที่ทำงานเข้มงวดขึ้นลบล้างความเชื่อที่กล่าวอ้างว่า กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะจะทำให้คนสูบบุหรี่ในบ้านมากขึ้น ในส่วนของประเทศไทย แนวโน้มบ้านปลอดบุหรี่ก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 14.24% ในปีพ.ศ.2544 เป็น 44.1% ในปี พ.ศ.2550 แต่การสำรวจในปี พ.ศ.2552 ยังพบว่า มีคนไทยอายุมากกว่า 15 ปี 20.5 ล้านคนที่ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน จึงเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันทำบ้านให้ปลอดบุหรี่เริ่มตั้งแต่วันครอบครัว 14 เมษายนนี้
ที่มา : สำนักข่าว สสส.
Update 14-04-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่