11ก.ค.วันประชากรโลก ส่งเสริมการเกิด-เจริญเติบโต
ที่มา : มติชน
แฟ้มภาพ
นับตั้งแต่ประเทศไทยได้ประกาศนโยบายประชากร เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2513 พบว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในงานวางแผนครอบครัว โดยได้รับความร่วมมือใน การดำเนินงานจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ ที่ทำงานทางด้านวางแผนครอบครัว
จากข้อมูลมหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2561 พบว่า ความสำเร็จในงานวางแผนครอบครัว ประกอบกับวิถีชีวิตของประชากรเปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่ทั้งหญิงและชาย มีค่านิยมที่จะอยู่เป็นโสดมากขึ้น จึงทำให้อัตราเพิ่มประชากรลดลง จากร้อยละ 2.7 ในปี 2513 เหลือเพียง ร้อยละ 0.2 ในปี 2561 ส่งผลให้อัตราเจริญพันธุ์รวมอยู่ในระดับต่ำ โดยผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15-49 ปี มีบุตรเฉลี่ยเพียง 1.58 คน ซึ่ง ต่ำกว่าระดับทดแทน และอัตราการเกิด มีเพียง 10.7 ต่อประชากรพันคน
กรมอนามัยร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้จัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัย การเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2569) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโต อย่างมีคุณภาพขึ้น โดยมีรัฐบาลสนับสนุนและส่งเสริมการเกิดเพิ่มขึ้นด้วยความสมัครใจ เพื่อเพียงพอสำหรับทดแทนประชากร และการเกิดทุกรายมีการวางแผน มีความตั้งใจและมีความพร้อมในทุกด้าน นำไปสู่การคลอดที่ปลอดภัย ทารกแรกเกิดมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ
นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดี กรมอนามัย กล่าวว่า การเกิดที่มีคุณภาพคือการเกิดจาก การตั้งครรภ์ที่ตั้งใจและวางแผน ในเมื่อการเกิดในประเทศไทยปัจจุบันมีจำนวนเพียงปีละ 7 แสนกว่ารายเท่านั้น จึงอยู่ในวิสัยที่การเกิดทุกรายจะได้รับการเอาใจใส่ ดูแลได้ ถ้าเราให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของการเกิดทุกราย การวางแผนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ทางด้านประชากรจึงมีความสำคัญ โดยกรมอนามัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2569) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมให้การเกิดทุกรายมีการวางแผน มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ และได้รับความช่วยเหลือในการมีบุตร ส่งเสริมให้ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย ได้รับการดูแล หลังคลอดที่ดี เด็กได้รับการเลี้ยงดูในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย พร้อมที่จะเรียนรู้ ในช่วงวัยต่อไปอย่างมั่นคง
"ที่ผ่านมาได้มีกิจกรรมส่งเสริมให้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 20-34 ปี ทุกคนที่พร้อมตั้งใจ และวางแผนจะมีลูกเข้าถึงบริการเตรียมความพร้อมก่อนสมรสและ มีบุตร การฝากครรภ์คลอด หลังคลอดคุณภาพ การส่งเสริม พัฒนาการเด็กปฐมวัย รวมทั้งการจัดทำโครงการพิเศษ "สาวไทยแก้มแดง" และ "มหัศจรรย์ 1,000 วัน" นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นให้ประชากรกลุ่มเปราะบาง และด้อยโอกาส เข้าถึงบริการวางแผนครอบครัว สร้างระบบบริการที่ครอบคลุมให้คำปรึกษาความรู้ บริการคุมกำเนิดที่เข้าถึงง่าย และระบบการดูแลช่วยเหลือส่งต่อเมื่อเกิดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ลดปัญหาการยุติการตั้งครรภ์ ที่ไม่ปลอดภัย การป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำในวัยรุ่นด้วยการสนับสนุนบริการคุมกำเนิดชนิดกึ่งถาวรด้วยการใส่ห่วงอนามัยและฝังยาคุมกำเนิดแก่วัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ให้กับสถานบริการเครือข่ายของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)"
กรมอนามัยยังให้ความสำคัญเพื่อพัฒนาการให้บริการที่เป็นมิตรสอดคล้องกับความต้องการของวัยรุ่น (Youth Friendly Health Services) โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้วัยรุ่นสามารถเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ได้อย่างแท้จริง ตามแนวทางการประชุมระหว่างประเทศ เรื่องประชากรและ การพัฒนาหรือ ICPD – The International Conference on Population and Development และเรื่องสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDG เป้าหมายที่ 3 เพื่อให้คน มีชีวิตที่มีคุณภาพและมีสุขภาวะที่ดีทุกคนทุกเพศทุกวัย