10 ความเชื่อผิดๆ ทำชีวิตติดพนัน
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
แฟ้มภาพ
คนไทยเคยเล่นการพนันมากถึง 40 ล้านคน ขณะที่ปี 2560 มีคนไทยเล่นพนันราว 29 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ถึง 1.5 ล้านคน และยังพบว่ามี ทั้งเด็ก เยาวชน สตรี และผู้สูงอายุมีแนวโน้มการเล่นพนันเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยพบนักพนันหน้าใหม่หรือเพิ่งเริ่มเล่นเป็นครั้งแรกถึง 6 แสนคน
ข้อมูลการศึกษาดังกล่าว โดย รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ที่เปิดเผยภายในการประชุมวิชาการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันปี 2561 “ชีวิตเสี่ยงพนัน…จะป้องกันเยาวชนอย่างไร?” ถือเป็นข้อมูลที่น่าตกใจ และน่าเป็นห่วงว่าสังคมไทยเข้าข่ายการเป็นสังคมแห่งการพนันแบบเต็มขั้น
นั่นเพราะสังคมไทยถูกมอมเมาด้วยการพนันทั้งที่ถูกกฎหมาย คือ สลากกินแบ่งรัฐบาล และการพนันที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นหวยใต้ดิน ไพ่ พนันฟุตบอล หรือการพนันหลากหลายประเภทที่สุดแท้จะสรรหามาเล่น โดยเฉพาะสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ รศ.ดรนวลน้อย ระบุว่า มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มปริมาณสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบก้าวกระโดด ทำให้วงเงินพนันสลากฯเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จาก 7 หมื่นกว่าล้านบาทในปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 1.4 แสนล้านบาทในปี 2560 และมีผู้เล่นพนันสลากฯ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14.2 คือ จาก 19 ล้านคน ในปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 21.4 ล้านคน ในปี 2560
ประเด็นสำคัญคือ แม้ภายในสังคมจะถูกห้อมล้อมไปด้วยการพนัน แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ตกลงไปในวงจรอุบาทว์และมัวเมาไปกับการพนัน เป็นสิ่งที่สะท้อนว่าการที่คนไทยติดพนัน นอกจากการถูกมอมเมาด้วยการพนันหลากชนิดแล้ว คนไทยกำลังอ่อนแอทางจิตใจจนต้องหันมาพึ่งการพนันหรือไม่
แน่นอนว่า การพนันส่งผลให้จิตใจได้รับความสุข สนุก และตื่นเต้น จากการลุ้นผลต่างๆ หากถูกก็ดีใจ แต่เช่นกันเมื่อไม่ถูกก็เกิดอาการผิดหวัง แต่สาเหตุที่ทำให้คนไทยติดพนันเพิ่มมาขึ้น รศ.ดร.นวลน้อย อธิบายว่า เกิดจากความเชื่อผิดๆ 10 เรื่องนี้ ที่ทำให้คนหันมาเล่นกันพนัน หรือคิดที่จะเข้ามาเล่นพนัน
ความเชื่อผิดๆ ทั้ง 10 เรื่อง รศ.ดร.นวลน้อย บอกว่า ประกอบไปด้วย 1. เชื่อว่า ทำให้การดูกีฬาสนุกขึ้น ที่พบเห็นโดยมากคือพนันทายผลฟุตบอล ซึ่งจริงๆ แล้ว การดูฟุตบอลก็สนุกก็ลุ้นอยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่ฟุตบอล แต่กีฬาทุกประเภทก็มีความสนุกในตัวของมัน กับการร่วมลุ้นร่วมเชียร์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องพึ่งการพนันเพื่อทำให้สนุกเลย
2. เป็นเหยื่อของการท้าทาย ถูกท้าไม่ได้ เหมือนโดนหยามศักดิ์ศรี ความเชื่อนี้ก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนหันมาเล่นพนัน เพราะถูกท้าไม่ได้ จึงต้องเข้ามาร่วมเล่นเพื่อไม่ให้เกิดการเสียศักดิ์ศรีว่าไม่กล้า จนในที่สุดก็หลุดเข้ามาอยู่ในวงจรการพนัน
3. คิดว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เล่นเองเจ็บเอง เพราะเป็นเงินของตัวเอง เล่นได้ก็ได้เอง เล่นเสียก็เสียเอง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะเมื่อเกิดเป็นหนี้ขึ้นมาแล้ว ย่อมส่งผลกระทบถึงคนอื่น เพราะหาเงินมาใช้หนี้พนันไม่ทัน ซึ่งข้อมูลที่น่าตกใจคือ จาการศึกษาพบว่า เมื่อเป็นหนี้พนันจะใช้หนี้อย่างไร 56% บอกว่ายืมเพื่อน 33% ยืมครอบครัว 28% ญาติ 8.1% เงินกู้นอกระบบ และ 4.8% คือขาย จำนอง หรือจำนำทรัพย์สิน จะเห็นได้ว่าสุดท้ายก็ต้องไปรบกวนคนอื่นอยู่ดี หากเป็นเพื่อนอย่างมากก็ถูกตัดเพื่อนไป หรือครอบครัวอาจชักดาบไม่ใช้คืนได้ แต่ที่น่าหวงคือเงินกู้นอกระบบ เพราะใช้หนี้คืนได้ยาก ก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น
4. คิดว่าเอาอยู่ เงินหมดก็เลิกเล่น ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงเลย เมื่อเล่นเสียก็จะเกิดความรู้สึกว่าอยากเล่นอีกเพื่อให้ได้เงินคืนก่อน สุดท้ายก็ยิ่งเล่นยิ่งเสียและกลายเป็นหนี้ก็จะวนปัญหากลับไปที่ข้อ 3
5. มั่นใจในข้อมูล เปิดสื่อ เชื่อกูรู ดูเพื่อน เพราะมีข้อมูล คำแนะนำต่างๆ โดยเฉพาะพวกผลฟุตบอล เมื่อเห็นว่าเดาถูก เป็นไปตามข้อมูล และเห็นคนถูกเข้ามากๆ หรือตัวเองเดาถูกเข้ามากๆ จากข้อมูลที่มี ก็เริ่มคิดว่าถ้าตัวเองเล่นเองก็คงถูก ก็คงได้เงิน ก็เลยร่วมวงเข้ามาเล่นด้วย
6. เชื่อว่าแทงผ่านเว็บไซต์ดังๆ น่าเชื่อถือไม่มีโกง ซึ่งกระบวนการโกงสามารถมีได้ ไม่ใช่ว่าเป็นเว็บไซต์ดังๆ แล้วจะไม่มีการโกง
7. แรกๆ เล่นได้ มักจะมองว่าจะได้แบบนี้ตลอดไป ความเชื่อนี้จะยิ่งทำให้เกิดการเล่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความจริงแล้ว การเล่นพนันมีทั้งได้และเสีย ซึ่งจะต้องทำให้คนตระหนักในจุดนี้ เพราะคนมักมองแค่เรื่องเล่นแล้วได้อย่างเดียว แต่ไม่คำนึงว่าเมื่อเล่นแล้วก็มีโอกาสเสียด้วย
8. เล่นได้ ดวงกำลังมา ต้องตักตวง ความเชื่อนี้ยิ่งทำให้เล่นหนักมากยิ่งขึ้น เหมือนดวงมาแล้วก็ต้องรีบยิ่งเล่นให้ได้เงินมากยิ่งขึ้น
9. เล่นเสีย ต้องเอาคืน เดี๋ยวดวงก็มา เพื่อที่จะได้เล่นต่อ เป็นการหาเหตุผลให้เราเล่นต่อ
และ 10. ทัศนคติการพนันได้เงินง่าย ทำงานเหนื่อยกว่าจะได้เงิน ซึ่งจริงๆ แล้วการพนันได้เงินง่ายก็จริง แต่ก็เสียไปง่ายด้วยเช่นกัน
รศ.ดร.นวลน้อย กล่าวว่า การจะแก้ปัญหาการพนันส่วนหนึ่งต้องแก้ความเข้าใจผิดตรงนี้ หรือสร้างความตระหนักในเรื่องเหล่านี้ด้วย และต้องให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของการพนันมากๆ เพื่อสร้างความยับยั้งชั่งใจในการเข้าสู่การเล่นพนัน ซึ่งทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองและครูอาจารย์ที่โรงเรียนมีส่วนสำคัญในการให้ความรู้ ดูแล และป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่การพนันมากยิ่งขึ้น