10 กิจกรรมสร้างสรรค์ กันลูกออกจากหน้าจอ
ที่มา : หนังสือสร้างสุข ปีที่ 10 ฉบับที่ 147 มกราคม 2557
แฟ้มภาพ
แน่นอนว่า การปล่อยให้ทีวี แท็ปเล็ต มือถือ เลี้ยงลูกนั้นไม่ได้ช่วยเรื่องพัฒนาการของเด็กแม้แต่นิดเดียว และยังส่งผลให้เด็กพูดช้ากว่าปกติด้วย กิจกรรมนอกบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเติมจินตนาการ พัฒนาการเข้าสังคม การใช้ชีวิตแก้ปัญหาต่างๆให้เด็กได้
1.เข้าค่ายภาษาอังกฤษ นอกจากได้เรียนรู้พัฒนาทางด้านภาษาเพื่อนำไปใช้ต่อเติมในการเรียนตามหลักสูตร ยังทำให้เด็กได้ใช้ภาษาจริงๆ กล้าพูด กล้าคิดไม่ว่าจะผิดหรือถูก การเข้าค่ายยังเป็นการได้ออกไปทำกิจกรรมกับคนอื่นๆ เรียนรู้การเข้าสังคมได้ไปในตัว ซึ่งค่ายภาษาอังกฤษไม่จำเป็นต้องต่างประเทศเท่านั้น เพราะมีหลายโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้เด็กเข้ารับพัฒนาทักษะด้านภาษาได้มากขึ้น
2.เล่นกีฬา ไม่ว่าจะเป็นกีฬาอะไรก็ตาม ถือเป็นการฝึกให้เด็กได้ใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ ได้มีกิจกรรมทางกาย และเรียนรู้แพ้ ชนะ อภัย ซึ่งเป็นพื้นฐานการใช้ชีวิตในสังคมอย่างหนึ่ง เด็กที่เล่นกีฬานอกจากจะมีร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการสร้างนิสัยการเสียสละ การทำงานเป็นทีม รู้จักเรื่องการอดทนมากขึ้นได้ด้วย
3.เรียนดนตรี/ร้องเพลง สุนทรีด้านดนตรีเป็นสิ่งช่วยสร้างจินตนาการเด็กได้อย่างดี มีผลโดยตรงต่อพัฒนาการทางสมอง ร่างกาย และจิตใจ เพราะจะช่วยสร้างสมาธิ พัฒนาทักษะการฟัง การสื่อสาร พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็ก ซึ่งเด็กที่เรียนดนตรีมักจะทำให้มีความร่าเริง แจ่มใส มองโลกในแง่ดี
4.วาดรูประบายสี ศิลปะเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ที่ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ สร้างสมาธิ ทำให้เกิดจินตนาการได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถพาเด็กไปวาดภาพระบายสีในสวนสาธารณะต่างๆ ที่จะทำให้เกิดความเพลิดเพลินทั้งครอบครัว ซึ่งทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาว่างร่วมกัน
5.ปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ปลูกฝังให้เด็กได้ใช้เวลาว่างเป็นประโยชน์ และได้เรียนรู้ที่จะรักษาสภาพแวดล้อม ธรรมชาติ จากจุดเล็กๆ ในบ้านเรือนต่อไปยังการอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศต่อไปในอนาคตและยังเป็นการปลูกฝังการพึ่งพาตัวเองในการปลูกพืชผักสวนครัวรับประทานเองในครัวเรือนแบบห่างไกลสารเคมี
6.ไหว้พระ ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา เป็นการปลูกฝังการให้ การไม่เบียดเบียนผู้อื่น และเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมประเพณีของชาวพุทธ ซึ่งการเข้าวัดทำบุญ ยังเป็นการให้เด็กได้ซึมซับคุณธรรม จริยธรรมได้ ส่งเสริมให้เด็กสามารถควบคุมอารมณ์ กล่อมเกลาจิตใจให้มีความอ่อนโยน และเป็นการทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข
7.ชมพิพิธภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หรือ ด้านวัฒนธรรม จะเป็นการสร้างประสบการณ์ในการแสวงหาความรู้ เปิดโลกการเรียนรู้ เพราะความรู้นั้นไม่ได้อยู่เพียงในตำราเรียน การได้เห็นของจริง การจำลองสถานการณ์และจัดกิจกรรมต่างๆในพิพิธภัณฑ์จะเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้เด็กได้อย่างดี
8.ท่องเที่ยวเส้นทางธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันและเรียนรู้สิ่งต่างๆ สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตของกันและกันได้ใช้เวลาในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆระหว่างทาง ซึ่งจะทำให้เด็กรู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยวิธีต่างๆ
9.ประดิษฐ์ของเล่น ไม่ว่าจะเป็นของใช้ หุ่นทำมือ รถไฟจากกล่องนม เก้าอี้จากขวดน้ำ เป็นการช่วยพัฒนาทักษะทั้งแง่ความคิดสร้างสรรค์ การใช้กล้ามเนื้อมัดต่างๆของเด็ก ทำให้รู้จักคุณค่าของสิ่งของใกล้ตัวและความประหยัด
10.เลี้ยงอาหารกลางวันเด็กด้อยโอกาส หรือ ผู้สูงอายุ นอกจากเป็นการแบ่งปันโอกาสให้กับผู้อื่น ยังเป็นการสอนให้เด็กรู้จักการให้ การเสียสละ การถ่อมตน ซึ่งจะเป็นการสร้างพัฒนาทางด้านสังคมให้เด็กและปลูกฝังความมีจิตอาสาให้กับเด็ก