0-6 ปี นาทีทอง พัฒนาสมองเด็ก
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
เเฟ้มภาพ
สภาพสังคมเร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้ความใกล้ชิดของครอบครัวยุคใหม่ลดน้อยลง มีเพียงเด็ก 1 ใน 3 เท่านั้นที่ถูกเลี้ยงดูจากพ่อแม่ ที่เหลือถูกเลี้ยงดูโดยปู่ย่าตายาย ผู้ปกครอง ช่วงวัย 0-6 ขวบ สำคัญต่อการพัฒนาสมองด้านความสัมพันธ์ ความรู้ปลอดภัย และตัวตน
ปัจจุบัน มีเด็กเพียง 1 ใน 3 หรือราว 30% ที่ได้อยู่กับพ่อแม่จริงๆ นอกนั้นคืออยู่กับปู่ย่าตายาย ผู้ปกครอง เด็กไม่มีความผูกพันที่มั่นคงกับคนเลี้ยงดู และเจอปัญหาการเลี้ยงดูในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตามใจ เพราะพ่อแม่จะรู้สึกว่าตนเองไม่มีเวลา จึงทดแทนโดยการซื้อของให้ ตามใจ พาไปเที่ยว ด้านปู่ย่าตายาย ไม่มีแรงจะบ่น ก็จะจบด้วยการตามใจ ซึ่งเป็นการสร้างและพัฒนา “เด็กไร้วินัย” กลายเป็นเด็กที่มีปัญหาเพราะโตมาจากการถูกตามใจ
อีกแบบคือการใช้อำนาจ ใช้ความรุนแรงตี ด่า เปรียบเทียบ ใช้การเลี้ยงดูเชิงลบ ซึ่งเป็นปัญหาที่หยั่งรากลึกมากับคนไทย คือ “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” สุดท้ายต้องมาชดใช้ กับสิ่งที่ได้ลงมือไป เพราะเด็กจะเติบโตมากับความไม่มั่นคงในตัวเอง ไม่แน่ใจกับความสัมพันธ์ที่มี เริ่มดื้อ ไม่เชื่อฟัง สู้ หนี หรือยอม
แพทย์หญิงจิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และเจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน กล่าวในงานแถลงข่าวโครงการ “Central-UNICEF Together for Every Child” ว่า เด็กที่อยู่ในความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย จะตอบสนอง 3 รูปแบบ คือ สู้ หนี หรือยอม
“เด็กที่สู้” ก็จะสู้โดยการใช้กำลังกลับคืน แต่หากรู้ว่าสู้ไม่ได้ ก็จะต่อสู้ด้วยการดื้อ และเด็กจะอยู่ในภาวะนั้นมากเมื่อเขาสู่วัยรุ่น อยากให้กลับบ้านเร็วไม่กลับ อยากให้เรียนหนังสือไม่เรียน เพราะลึกๆ เหมือนได้เอาคืน เป็นรูปแบบที่พ่อแม่เจอเยอะมาก บางคนดื้อเงียบ ไม่เถียง แต่ก็ไม่ทำ
อีกรูปแบบหนึ่งก็คือ “เด็กหนี” เป็นเด็กที่โกหก ปกปิดความผิด ไม่ชอบอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ให้ทำอะไรก็จะบอกว่าทำไม่ได้ ทำไม่เป็น ไม่รู้ ไม่ลอง ทำการบ้านก็จะเลื้อย แต่จริงๆ คือ หนี ไม่อยากเข้าไปในความเครียดตรงนั้น และสุดท้าย คือ “เด็กยอม” พ่อแม่มักจะเชื่อว่าตีแล้วได้ผล เด็กจะยอม แต่จริงๆ แล้วทุกครั้งที่เด็กยอม สิ่งที่แลกคือตัวตน เขารู้สึกไม่มีพาวเวอร์ ไร้ซึ่งอำนาจ สะสมความเป็นผู้แพ้ และโตขึ้นมาแบบรู้สึกว่าฉันไม่ได้เรื่อง ฉันสู้เขาไม่ได้ ฉันไม่มีความหมาย ฉันไม่ได้เป็นที่รัก
เด็กพวกนี้จะโตมาเป็นเด็กซึมเศร้าที่เราเจอกว่า 17 % ของวัยรุ่นทั่วโลก ส่วนคนไทยมีราว 17-20 % หรือ 1 ใน 5 ของวัยรุ่น เพราะโตมาในเเบบเด็กที่ไม่มีตัวตน อยากถูกยอมรับ ไขว่คว้าหาความรัก อยากมีเเฟน อยากมียอดไลก์ในโซเชียลเยอะๆ มันเป็นปัญหา รากของมัน คือ การถูกเลี้ยงดูในเเบบที่ไร้ตัวตนในวัยเด็ก แพทย์หญิงจิราภรณ์ กล่าว