“ไอบ๊อกๆ” รู้จัก “โรคครูป” ระบาดในฤดูฝน
ที่มา: หมอหน่อย-Dr.Noi The Family
โรคครูป (Croup) ระบาดหน้าฝน เด็กๆ เป็นกันเยอะ อาการเด่นของโรคคือ ไอบ๊อกๆ คล้ายเสียงหมาเห่า ไข้ต่ำ เสียงหายใจดังวี้ดๆ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
โรคครูป (Croup) หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Laryngotracheobronchitis เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนทที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงอายุ 6 เดือนถึง 3 ปี ซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสและมีอาการเด่นคือ ไอเสียงก้อง (barking cough) เสียงแหบ และเสียงดังวี้ดๆ (stridor) ขณะหายใจเข้า
โรคครูป สาเหตุ
สาเหตุหลักของโรคครูปคือการติดเชื้อไวรัส ซึ่งไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่
- ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza virus) : เป็นสาเหตุหลักของโรคครูปในเด็กเล็ก
- ไวรัสอะดีโน (Adenovirus) : อาจทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
- ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) : มักพบในเด็กเล็กและสามารถทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจส่วนล่างได้
- ไวรัสหัด (Measles virus) : สามารถทำให้เกิดอาการคล้ายโรคครูปได้
- ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A (Influenza A) : มักทำให้เกิดอาการที่รุนแรงและพบบ่อยในเด็กอายุ 3-7 ปี
การติดเชื้อเหล่านี้มักติดต่อผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม และสามารถแพร่กระจายได้ง่ายในที่แออัด
อาการเด่นของโรคครูป อาการของโรคครูปมักเริ่มต้นด้วยอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น ไข้ต่ำ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และไอเล็กน้อย หลังจากนั้นประมาณ 1-2 วัน เด็กอาจเริ่มมีอาการเด่นดังนี้
- ไอเสียงก้อง (Barking cough) : เสียงไอที่มีลักษณะคล้ายเสียงสุนัขเห่า
- เสียงแหบ : เกิดจากการอักเสบของกล่องเสียง
- เสียงวี้ด (Stridor) : เสียงหายใจเข้าแหบๆ ซึ่งเกิดจากการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้น
- หายใจลำบาก : อาจพบในกรณีที่อาการรุนแรง
ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวัง
แม้ว่าโรคครูปส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 3-7 วัน แต่ในบางกรณีอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น
- ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) : ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ
- ภาวะหายใจล้มเหลว : ระบบหายใจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
- การติดเชื้อแบคทีเรียที่หลอดลม : การติดเชื้อแบคทีเรียที่หลอดลมส่วนต้น
- ภาวะน้ำท่วมปอด หรือภาวะปอดบวมน้ำ : เกิดจากการมีของเหลวในถุงลมปอดมากผิดปกติ
- ภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิต : ในกรณีที่รุนแรงมาก
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันที
แนวทางการดูแลที่บ้าน การดูแลเด็กที่ป่วยเป็นโรคครูปที่บ้านสามารถทำได้ดังนี้
- ให้เด็กดื่มน้ำมากๆ : เพราะช่วยป้องกันการขาดน้ำและช่วยให้ลำคอชุ่มชื้น
- ใช้เครื่องเพิ่มความชื้น (humidifier) : ช่วยให้ลมหายใจชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคืองของทางเดินหายใจ
- ให้เด็กนั่งในห้องที่มีอากาศเย็น : อากาศเย็นสามารถช่วยลดการอักเสบของทางเดินหายใจ
- ให้ยาลดไข้: เช่น พาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการไข้
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด : เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มเติม
- หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรพาเด็กไปพบแพทย์ทันที
เมื่อไหร่ควรพาไปพบแพทย์ด่วน
- หายใจลำบาก : หายใจเร็วหรือหอบเหนื่อย
- เสียงวี้ดๆ (Stridor) : เสียงหายใจเข้าแหบๆ
- ผิวหนังมีสีคล้ำ : เช่น ปากหรือเล็บเป็นสีม่วง
- ไข้สูง : ไข้ไม่ลดลงแม้ให้ยาลดไข้
- อาการไม่ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน หรือมีอาการแย่ลง
หากสงสัยว่าเด็กอาจมีอาการของโรคครูป ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและอย่าลังเลที่จะพาไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการอย่างละเอียด เพราะการรักษาแต่เนิ่นๆ คือกุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้