“ไพบูลย์”ชี้ปฏิรูปต้องทำร่วมหลายส่วน

ประชาชนใหญ่สุด

“ไพบูลย์”ชี้ปฏิรูปต้องทำร่วมหลายส่วน

 

         นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ประธานมูลนิธิหัวใจอาสา กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อธุรกิจเพื่อสังคมประเทศชาติไม่ติดหล่ม สังคมไม่ติดลบ” ว่า การปฏิรูปประเทศจำเป็นและควรทำแต่ต้องทำหลายส่วนและหลายมิติของประเทศ โดยประชาชนถือว่าเป็นส่วนใหญ่ที่สุด ภาคธุรกิจทุกกิจการที่เป็นธุรกิจถือว่ามหาศาลทั่วประเทศ ทุกประเภท ทุกขนาดทุกพื้นที่ และภาครัฐที่ได้รับอำนาจมาจากประชาชนและได้รับอำนาจทั้งสามฝ่ายจะปฏิรูปประเทศต้องร่วมมือกันและช่วยกันคิด การจะปฏิรูปอะไรต้องเริ่มจากตัวเองก่อน


          วันนี้โฟกัสการปฏิรูปไปอยู่ที่ภาคธุรกิจและภาคอื่นๆ คือธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งต้องปฏิรูปทั้งวิธีคิดและวิธีทำ การมองต้องแบบมองกว้าง คิดไกล ใฝ่สูงส่ง มองทุกอย่างให้เป็นระบบ คิดในเชิงบวกรุก และคิดในทางสร้างสรรค์ เป็นการปฏิรูปวิธีคิดไม่ง่ายแต่ทำได้ คิดให้เป็นพลวัตของสรรพสิ่ง ในสังคมและในโลก


          การปฏิรูปประเทศไทย ภาคสังคม เศรษฐกิจและการเมือง ทั้ง 3 ฝ่ายจะต้องร่วมกันคิดจากตัวเองว่าจะช่วยกันปฏิรูปได้อย่างไร และควรแสวงหาแนวร่วมกับภาคอื่นๆ ด้วยการรวบรวมพลังสร้างสรรค์เข้ามาร่วมมือ เป็นหุ้นส่วนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะภาคธุรกิจต้องปฏิรูปทั้งวิธีคิดและวิธีทำ จากมองแคบ คิดใกล้ ใฝ่ต่ำเตี้ย เป็นมองภาพกว้าง คิดไกล ใฝ่สูงส่ง จากมองเป็นสิ่ง แยกรวม เป็นมองสังคมทั้งหมด จากคิดธุรกิจเพื่อธุรกิจ เป็นธุรกิจเพื่อสังคม


          การปฏิรูปวิธีทำ ต้องเปลี่ยนความคิดจากที่ว่าทำธุรกิจเป็นของธุรกิจ โดยธุรกิจเพื่อธุรกิจ แต่ให้เปลี่ยนเป็นแบบธุรกิจเพื่อสังคม ทำธุรกิจที่มีคุณภาพคือ 1.ธุรกิจที่มีธรรมาภิบาลมีความถูกต้อง 2.การทำธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต้องสังคม 3.ถูกต้องชอบธรรมดีงามในทุกกระบวนการของธุรกิจ ตั้งแต่เริ่มการตั้งโรงงาน การเลือกคน การผลิตสินค้า การผลิต และการบริการทุกขั้นตอน 4.การทำธุรกิจที่มีกิจการเพื่อสังคมซึ่งมีความสำคัญขนาดที่ รัฐบาลคณะกรรมการกิจการเพื่อสังคม ทั้งนี้บางธุรกิจได้มีการดำเนินการไปแล้วเกี่ยวกับการบริการเพื่อสังคม  เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำ

 
          การปฏิรูปความคิดจากเดิมศูนย์รวมอยู่ กทม.เป็น 1.กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ให้สร้างความร่วมมือและเอาพื้นที่จังหวัดเป็นตัวตั้ง เริ่มจากภาคประชาชน และมีแต่ละองค์มาเป็นตัวแทน เป็นเครือข่ายพหุภาคีเพื่อขับเคลื่อนจังหวัด แต่ชุมชนท้องถิ่นคือฐานรากที่แท้จริง ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ การปฏิรูปจากฐานขึ้นมาเป็นไปได้โดยกลไกที่จังหวัดทุกจังหวัด นอกจากนี้ต้องปฏิรูปการทำงาน การคิด ให้เอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง 2.ให้ประชาชนในพื้นที่เป็นเจ้าของเรื่องสำคัญ เพราะเรื่องในจังหวัดเป็นเรื่องของประชาชน 3.ทุกฝ่ายต้องประสานความร่วมมือ เป็นการสัมพันธ์ในแนวราบทุกคนร่วมมืออย่างเสมอกัน


          “การปฏิรูปฐานรากที่ท้องถิ่นจะเกิดขึ้นได้ต้องมีกลไกที่เอื้ออำนวยไปในตั้งทุกจังหวัด ต้องเปลี่ยนวิธีคิดจากเอาหน่วยงานเป็นตัวตั้งเป็นเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง ให้ชุมชน ประชาชนในพื้นที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ไปส่งเสริมสนับสนุน ขณะเดียวกันทุกฝ่ายทั้งภาครัฐภาคธุรกิจต้องประสานความร่วมมือให้เป็นความสัมพันธ์แนวราบ ไม่คิดว่าใครเหนือกว่าใคร


          ซึ่งเอาทั้งสามส่วนมาประสานความร่วมมือกัน ให้ประชาชนเป็นเจ้าของเรื่องและส่วนอื่นเป็นส่วนสนับสนุน และถือว่าภาคธุรกิจมีความสำคัญและเชื่อว่า เป็นหนึ่งในภาคที่มีความสำคัญและมีพลังสูงจะมีบทบาทสูงในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่สังคมน่าอยู่

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

 

 

update: 08-07-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ

Shares:
QR Code :
QR Code