ไข้เลือดออกระบาดกรุงฯ 3 เดือนแรกเพิ่ม 3 เท่า

ไข้เลือดออกระบาดกรุงฯ ผอ.สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เผย 3 เดือนแรกเพิ่ม 3 เท่า-ชี้ 60% แหล่งยุงลายอยู่ในบ้าน แนะหากสงสัยป่วยเป็นไข้เลือดออก รีบพบแพทย์ ช้าอาจเสียชีวิตได้

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นางวันทนีย์ วัฒนะ ผอ.สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้ มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนน่าเป็นห่วง และหากเข้าฤดูฝน จำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจะเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ ปกติแล้วช่วงต้นปีจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกต่ำลง แต่ปีนี้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเห็นตัวเลขแล้วไม่น่าสบายใจ  ดังนั้น สำนักอนามัยจึงได้หารืออย่างเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาโรคไข้เลือดออกระบาด ถึงแม้ในขณะนี้จะเป็นช่วงหน้าแล้ง แต่ไข่ยุงก็สามารถที่จะเพาะพันธุ์ได้ 

ทั้งนี้  ขอความร่วมมือกับประชาชนให้ช่วยกันกำจัดและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง โดยการกำจัดลูกน้ำที่อยู่ในแจกันดอกไม้ ตุ่ม อ่างน้ำ ซึ่ง 60-70 เปอร์เซ็นต์ แหล่งเพาะพันธุ์ยุงส่วนใหญ่จะอยู่ในบ้าน ขณะเดียวกันสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ศูนย์บริการสาธารณสุขและอาสาสมัคร จะเข้าเก็บขยะที่ตกค้างภายนอกบ้านเรือนประชาชน  รวมทั้งพ่นยากำจัดยุงอย่างต่อเนื่องด้วย 

อย่างไรก็ตาม  หากสงสัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออก หรือมีไข้ขึ้นสูง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องขวา ถ่ายเป็นสีดำ รวมทั้งมีจุดแดงขึ้นตามตัว  ขอให้พบแพทย์ทันที  หากปล่อยไว้อาจจะเกิดภาวะช็อก  เกล็ดเลือดต่ำ  และอาจเสียชีวิตได้

กลุ่มงานระบาดวิทยา กองควบคุมโรค กรุงเทพมหานคร ได้รายงานตัวเลขสถิติโรคไข้เลือดออก โดยในเดือน ม.ค.-วันที่ 16 มี.ค. พบว่ามีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา จำนวน 2,464 ราย เสียชีวิต 1 ราย แบ่งเป็นเดือน ม.ค. จำนวน 1,632 ราย ก.พ. จำนวน 707 ราย และล่าสุด วันที่ 16 มี.ค. จำนวน 125 ราย

ขณะที่ปี  2555  มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจำนวนทั้งสิ้น 10,081 ราย เสียชีวิต 6 ราย แบ่งเป็นเดือน ม.ค. จำนวน 310 ราย ก.พ. จำนวน 275 ราย มี.ค. จำนวน 276 ราย เม.ย. จำนวน 256 ราย พ.ค. จำนวน 211 ราย มิ.ย. จำนวน 340 ราย ก.ค. จำนวน 704 ราย ส.ค. จำนวน 1,031 ราย ก.ย. จำนวน 1,063 ราย ต.ค. จำนวน 1,666 ราย พ.ย. จำนวน 2,260 ราย และ ธ.ค. จำนวน 1,689 ราย อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบแล้วในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. จะเห็นตัวเลขได้อย่างชัดเจนว่า มีผู้เข้ารับการรักษาโรคไข้เลือดออกสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

 

Shares:
QR Code :
QR Code