ไข้เลือดออกยังน่าห่วง ยอดผู้ป่วยพุ่งสูง
ไข้เลือดออกยังน่าห่วง ยอดผู้ป่วยพุ่งสูง ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันทำลายลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน
นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ไข้เลือดออกในประเทศไทยว่า กรมควบคุมโรค (คร.) รายงานว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-9 มิถุนายน มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 17,242 ราย เสียชีวิตจำนวน 11 ราย โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดที่ภาคกลาง รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ คาดการณ์ว่าตลอดปี 2558 หากทุกฝ่ายไม่ร่วมมือกันควบคุมอย่างเข้มแข็ง อาจมีผู้ป่วยมากกว่า 70,000 ราย จากปี 2557 มีผู้ป่วย 40,999 ราย เสียชีวิต 48 ราย โดยสาเหตุของโรคเกิดจากยุงลาย ซึ่งกว่าร้อยละ 80 เป็นยุงลายในบ้านเรือนประชาชน สธ.ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันทำลายลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน ในฤดูฝนเป็นช่วงที่โรคเสี่ยงระบาด เนื่องจากยุงจะมีมากกว่าฤดูอื่น
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อาการของโรคไข้เลือดออก คือ มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หน้าแดง อาจพบจุดเลือดที่ผิวหนัง มักจะไม่ไอ ไม่มีน้ำมูกเหมือนไข้หวัด เว้นแต่จะเป็นไข้ทั้งสองชนิดในเวลาเดียวกัน แต่มีโอกาสเกิดได้น้อย ผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออก ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานโรค จะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ โดยหลังจากไปพบแพทย์และแพทย์ให้กลับมาดูแลที่บ้าน ให้เช็ดตัวลดไข้ หรือกินยาพาราเซตามอลลดไข้ ห้ามซื้อยาประเภทแอสไพริน หรือไอบูโปรเฟนมากินเองอย่างเด็ดขาด เนื่องจากยาทั้ง 2 ชนิดนี้อาจทำให้เลือดออกในอวัยวะภายในได้ง่ายขึ้น ให้ผู้ป่วยกินอาหารที่ทำให้ร่างกายสดชื่น เช่น น้ำเกลือแร่ น้ำผลไม้ และให้พักผ่อนมากๆ ช่วงที่ต้องให้ความใส่ใจผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด คือช่วงที่ไข้ลด ซึ่งมักจะอยู่ในวันที่ 3-4 หากพบผู้ป่วยซึมลง กินไม่ได้ แสดงว่าผู้ป่วยอาจเข้าสู่ภาวะช็อก ขอให้รีบพาไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาให้ทันท่วงที
ที่มา : มติชนออนไลน์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต