ไข้หวัด 2009 วันนี้… ยังลอยนวล
การมาของไข้หวัดใหญ่ 2009 ถือว่าเป็นข่าวที่สะเทือนขวัญอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อมาแล้วใช่ว่าจะจากไป ง่าย ๆ เละทุกวันนี้ยังคงมีการระบาดอยู่
ยอดสะสมผู้ป่วยยืนยันว่าในเมืองไทย นับถึงวันที่ 23 ธันวาคม มีถึง 29,886 ราย และสียชีวิต 191 ราย และล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ขณะนี้การระบาดของโรคในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ยังไม่ยุติ อีกทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดยังมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้นในบางจังหวัด ทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เท่านั้นยังไม่พอ ในช่วงท่องเที่ยวปีใหม่ความแออัดของผู้คนอาจมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ได้
ส่วนการผลิตวัคซีนนั้นก็ยังผลิตได้ในจำนวนจำกัด
ประเทศไทยได้สั่งเข้ามา 2 ล้านโดส เพื่อนำไปใช้ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า คนท้อง คนอ้วนน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมขึ้นไป ผู้พิการช่วยตนเองไม่ได้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดอุดกั้น หอบหืด โรคหัวใจ ไตวาย หลอดเลือดสมอง โรคเลือดธาลัสซีเมีย โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เบาหวาน โดยจะให้วัคซีนในวันที่ 11 มกราคม 2553 นี้
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะเข้าสู่ร่างกายทางเยื่อบุจมูก ปาก ตา มันจะเพิ่มจำนวนในเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ และจะทำลายเซลล์ภายใน 1-4 วัน สามารถแพร่เชื้อได้โดยการไอจาม
การไอจามนั้นฝอยเล็ก ๆ จะกระจายไกลถึง 5 เมตรส่วนละอองใหญ่ ๆ จะไปได้ไกล 1-2 เมตร และก็ไม่ได้ลอยอยู่ในอากาศเท่านั้นยังไปอยู่ตามวัตถุ สิ่งของต่าง ๆ แก้วน้ำ ราวบันได ลูกบิดประตู เมาส์ คอมพิวเตอร์ หากเป็นพื้นผิวเรียบเชื้อจะอยู่ได้นาน 24-48 ชั่วโมง บนผ้าหรือกระดาษ 8-12 ชั่วโมง ฝ่ามือ 5 นาที ในที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวกอยู่ได้ราว 4 ชั่วโมง ถ้าในน้ำ 22 องศา จะอยู่ได้นาน 4 วัน หากเป็นน้ำ 0 องศาจะอยู่ได้นานถึงเดือนหนึ่ง
โดยปกติเชื้อจะแพร่หลังจากมีไข้ 3-7 วัน แต่ก็พบว่าสามารถแพร่เชื้อได้ก่อนมีอาการ 1 วัน
ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ บางคนไม่มีอาการก็สามารถแพร่เชื้อได้
กระทรวงสาธารณสุขจึงยังคงรณรงค์ป้องกันใน 4 เรื่องสำคัญ
1.ปิด ปิดปากปิดจมูกอย่างถูกต้อง และใส่หน้ากากอนามัยเมื่อป่วยเป็นหวัด
2.ล้าง ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ
3.เลี่ยง หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่แออัด ไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่กำลังป่วยหรือผู้มีอาการไอจาม
และ 4.หยุด ให้หยุดเรียน หยุดงาน เมื่อป่วยเป็นไข้หวัด รักษาตนเองให้หายป่วยโดยเร็ว และไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น
การป้องกันตัวเองเพื่อหยุดการแพร่กระจายของไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังจำเป็นอยู่
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
Update: 04-01-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: อภิชัย วรสิทธิ์ขจร