“โรคติดเกม” ในมือถือ “รหัสโรค” พันธุ์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ทำความรู้จัก “โรคติดเกม” รหัสโรคสายพันธุ์ใหม่ยุคดิจิทัล
พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต เล่าเรื่อง “โรคติดเกม” ที่อาจจะถูกบันทึกลงในบัญชีจำแนกโรคฉบับใหม่ International Classification of Diseases 11 หรือ ICD-11 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในอนาคต หรือประมาณปี2565ว่า เด็กที่เข้าข่ายติดเกมในมือถือ จะมี 3 อาการที่ส่งผลกระทบต่อการควบคุมคุณภาพชีวิต ได้แก่
ลำดับอาการ
1. การควบคุมตนเอง คือ ไม่สามารถควบคุมได้ อยากเล่นตลอดเวลา
2. การให้ความสำคัญ คือ ให้การเล่นเกมในมือถืออันดับหนึ่ง เรื่องเรียน เรื่องงาน เป็นอันดับรองลงมา
3.การรู้ว่ามีผลกระทบแต่ยังใช้ คือ เล่นเกมในมือถือ ไม่หลับ ไม่นอน ตื่นไปเรียน ไปทำงานไม่ทัน
เด็กเล่นเกมในมือถือมากแค่ไหน ถึงเข้าข่ายเป็น “โรคติดเกม” ?
พญ.วิมลรัตน์ อธิบายว่า ทางการแพทย์ยังไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ทันที หากพบเด็กเล่นเกมเพียง 1-2 สัปดาห์ แต่…แม้จะไม่เข้าข่ายเป็นโรค พ่อ-แม่ก็ต้องเป็นด่านแรกในการจัดการปัญหา ป้องกันไม่ให้เกิดโรคในอนาคตต่อไป เพราะ ถ้าปล่อยให้ลูกเล่นเกมแบบคุมเวลาไม่ได้ จะสุ่มเสี่ยงกระทบต่อการดำเนินชีวิตอย่างมาก ขณะที่ “โรคติดเกม” ต้องใช้ระยะเวลาพิสูจน์นานนับปีว่าลูกเข้าข่ายเป็นหรือเปล่า ไม่ใช่แค่เห็นลูกเล่นเกมเพียง 1-2 สัปดาห์ พญ.วิมลรัตย์ ย้ำอีกว่า แม้แพทย์จะไม่วินิจฉัยว่าเป็นโรค หรือ รหัสโรค ยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดครอบครัวจำเป็นต้องมีการจัดการบางอย่าง เพื่อป้องกันให้เด็กมีสุขภาวะที่ดี
แยกแยะแบบไหน “ติดเกม” หรือ “ติดโซเชียลมีเดีย” ในมือถือ ?
การแยกอาการติดเกม ติดมือถือในทางการแพทย์ หากแบ่งจริงๆ จะใช้คำว่า “ติดออนไลน์” กับ“ไม่ติดออนไลน์” พญ.วิมลรัตน์ เล่าว่า การดูแลเคสเด็กที่ต้องใช้มือถือแบบขาดไม่ได้ ส่วนใหญ่ที่เลิกยากเพราะ “เกมในโทรศัพท์” มันต้องเล่นให้จบ สะสมคะแนน หากออกเกมก่อนเพื่อน อาจถูกต่อว่าไม่ให้เข้ากลุ่มอีกต่อไป จนเป็นข้อผูกมัด สร้างความกลัว ส่งผลทำให้อาจเข้าข่ายเป็น “โรคติดเกม” ขณะที่มีคนอีกกลุ่มจะ “ติดโซเชียลมีเดีย” เช่น ยูทูป รายการ คนกลุ่มนี้จะ “เลิกง่ายกว่า” เพราะในทางปฏิบัติสามารถเปิดดูคลิปย้อนหลังได้ ไม่มีพันธะผูกพันเหมือนการเล่นเกม
พญ.วิมลรัตน์ ฝากถึงพ่อ-แม่ และครอบครัว ยุค Digital Native ว่า….
“วัยรุ่นติดเกมจะมีโลกส่วนตัวสูง หลักการสำคัญพ่อ-แม่ต้องควบคุมเวลาเล่นมือถือของเขาให้ได้ โดยที่ความสัมพันธ์ในครอบครัวยังดีอยู่ เพื่อสุขภาวะที่ดี”
ปัญหาเด็กติดมือถือและเด็กติดเกม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ขับเคลื่อน เชิญชวนพ่อ-แม่ยุคใหม่ต้อง ฉลาดรู้ รอบรู้ ในการใช้มือถือให้มีค่าและเกิดประโยชน์ เพื่อให้ไม่เป็นอันตรายกับลูกและสังคมในโลกยุคดิจิทัล
ติดตามข่าวสารได้ที่ : เปิดโครงการคุณเปลี่ยน ลูกเปลี่ยน แก้ปัญหาติดมือถือ http://ssss.network/uad4x ฟุตบอล