โฟร์โมสต์โละ ‘ไฮไฟว์’ มุ่งขายแต่นมวัว

จ่อร่วม สสส. ดันคนไทยดื่มเพิ่ม

 

 โฟร์โมสต์โละ ‘ไฮไฟว์’ มุ่งขายแต่นมวัว

          นายฮ้านส์ เฮ้าสตร้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟรีสแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตัดสินใจเลิกทำตลาดนมถั่วเหลือง “ไฮไฟว์” ที่ปัจจุบันโฟร์โมสต์มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 6% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 5 พันล้านบาท และหันมามุ่งเน้นการทำตลาดนมโคพร้อมดื่ม ซึ่งโฟร์โมสต์เป็นผู้นำตลาด

 

          โดยเฉพาะในตลาดนมยูเอชที ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 54% ของมูลค่าตลาดรวม 6 พันล้านบาท ประกอบกับในปีที่ผ่านมา ตลาดนมโคพร้อมดื่มได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ รวมไปถึงการปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากนมดิบราคาแพง โดยภายใน 2 ปีที่ผ่านปรับขึ้นไปแล้วกว่า 10% ทำให้ตลาดรวมนมพร้อมดื่มมีการเติบโตในเชิงปริมาณเพียง 2% เช่นเดียวกับโฟร์โมสต์แม้จะเติบโตมากกว่าตลาดแต่เป็นตัวเลขหลักเดียว

 

          ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจะกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมการบริโภคนมเพิ่มขึ้น ภายใต้แนวคิด “โฟร์โมสต์ ดื่มได้ตลอด ดื่มเลย” เพื่อเป้าหมายให้การเติบโตในเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือให้เติบโตอย่างน้อยเกิน 10% ขณะที่ตลาดรวมนมในเชิงมูลค่าในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งมาจากราคาที่แพงขึ้นเป็นหลัก

 

          ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทได้จัดโครงสร้างแบรนด์ครั้งใหญ่ โดยทุกผลิตภัณฑ์นม ไม่ว่าจะเป็นนมพร้อมดื่มโฟร์โมสต์ นมเปรี้ยวโยโมสต์ นมจุลินทรีย์โอเมก้าทรี และนมแคลซีเม็กซ์ จะมีการทำตลาดภายใต้แบรนด์หลักคือ โฟร์โมสต์ แบรนด์เดียว

 

          ทั้งนี้ ได้เตรียมงบการตลาด 200 ล้านบาท สำหรับการโฆษณาและโรดโชว์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคนมโคกันมากขึ้นให้ทัดเทียมกับคนมาเลเซีย ที่ปัจจุบันมีการบริโภคนมเฉลี่ย 18 ลิตรต่อปี ขณะที่คนไทยบริโภคเฉลี่ยเพียง 12 – 13 ลิตรต่อปี ประกอบกับเมื่อปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท สำหรับเพิ่มกำลังการผลิตนมพร้อมดื่มยูเอชทีถึงเท่าตัวคือ 2,000 ล้านแพ็ก ซึ่งจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในต้นปี 53

 

          นอกจากนี้ มีแนวคิดที่จะขอความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ของรัฐบาล เพื่อร่วมกันทำแคมเปญกระตุ้นให้คนไทยบริโภคนมเพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

 

 

update 16-03-52

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code