โพลล์หลังบอลโลกรูดม่าน ปชช.เทคะแนน “ศธ.-ไอซีที-ตำรวจ”ทำงานเยี่ยม

            ศปค.-เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน เปิดผลโพลล์หลังบอลโลกรูดม่าน  เผย ปชช.ส่วนใหญ่เทคะแนนให้ก.ศึกษา ไอซีที ตำรวจ ผลงานดีเยี่ยม พบปมที่ทำให้จับผีพนันยากขึ้น ทั้งเทคโนโลยีล้ำ-บทลงโทษไม่แรง

 

โพลล์หลังบอลโลกรูดม่าน ปชช.เทคะแนน “ศธ.-ไอซีที-ตำรวจ”ทำงานเยี่ยม

             วันนี้ (22 ก.ค.) ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ในงานเสวนา เปิดผลโพลล์…ผลงานรัฐ…โดนหรือดับกับพนันบอลจัดโดย เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับ เครือข่ายครอบครัว เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา และเครือข่ายขบวนการตาสับปะรด  โดย นางกีรติกา แพงลาด ผู้แทนศูนย์ประสานงานเครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา(ศปค.) กล่าวว่า  จากการที่ ศปค. ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ได้ทำการสำรวจความคิดเห็น เกี่ยวกับปัญหา และผลกระทบต่อการเล่นพนันฟุตบอลโลก 2010 ครั้งที่ผ่านมา ในกลุ่มประชาชนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปทั้งผู้หญิงและผู้ชายหลากหลายอาชีพจำนวน 1,060 ราย  ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค. 2553  พบว่า มีประเด็นที่น่าดีใจคือ 53.11% พบว่าคนรอบข้าง คนในครอบครัว ไม่มีหนี้สินที่เกิดจากการเล่นการพนันทายผลการแข่งขัน ขณะที่อีก 25.57% กลับไม่ทราบว่าคนรอบข้างมีหนี้จากการเล่นพนันฟุตบอลหรือไม่ ส่วนในกลุ่มที่รู้ว่ามีคนรอบข้างและคนในครอบครัวเล่นการพนันนั้น ได้เล่นพนันบอลตั้งแต่ 2,000 บาท มากกว่า 20,000 บาทก็มี

 

              นางกีรติกา กล่าวอีกว่า ผลสำรวจพบว่า สื่อมีส่วนในการชี้นำให้เล่นพนันเพิ่มขึ้น โดยสื่อโทรทัศน์ชี้นำมากที่สุด 38.30 % รองลงมา คือหนังสือพิมพ์กีฬา 27.74 % โดยอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การแก้ไขปัญหาการพนันฟุตบอลไม่ประสบผลสำเร็จคือ 31.04% มองว่าเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้จับกุมได้ยาก 21.98 % ยังเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเจ้ามือหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง และ16.79 % ระบุว่าบทลงโทษตามกฎหมายไม่รุนแรง ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งหรือ  60.47% เห็นด้วยและอยากให้มีการรณรงค์เชียร์บอลไม่พนัน รวมถึงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

       

             “กลุ่มตัวอย่างเกือบ 1 ใน 3 หรือ 25.75% พอใจกับบทบาทการทำหน้าที่ของสถานศึกษาและกระทรวงศึกษาในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการแล่นพนันทายผลฟุตบอล 23.68% พอใจการทำงานของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร(ไอซีที) และอีก 22.64% ยกให้เป็นบทบาทการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกลุ่มตัวอย่าง 62.08% เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ต้องการให้มีการปรับปรุงกฎหมายการพนันให้ทันสมัย และเพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงมากขึ้น เพราะปัญหาที่มาจากเล่นพนันฟุตบอลที่พบนั้นทั้งต้องหาเงินใช้หนี้พนันด้วยวิธีผิดๆ เพราะมีหนี้สิน และถูกทวงหนี้ ขู่กรรโชก ถูกทำร้าย จนบางรายต้องขายหรือจำนำของมีค่า จนทำให้เกิดความขัดแย้ง ทะเลาะกับครอบครัวและคนรัก บางรายถึงขั้นบังคับให้แฟนมีเพศสัมพันธ์เพื่อใช้หนี้พนันนางกีรติกา กล่าว

 

              นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน  กล่าวว่า หลังเทศกาลบอลโลกจบลงสิ่งที่เป็นปัญหาตามมาคือเรื่องของปัญหาอาชญากรรม ซึ่งล้วนเป็นผลพวงมาจากการเล่นพนันทั้งสิ้น ซึ่งสอดคล้องกับการติดตามข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 922 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีการนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับการใช้หนี้พนันบอล รวมทั้งสิ้น 16 ข่าว แบ่งเป็น ข่าวเกี่ยวกับการปล้น จี้ชิงทรัพย์ ขโมย จำนวน 11 ข่าว  และข่าวที่เกี่ยวกับการค้ายาบ้า จำนวน 3 ข่าว และยังคงมีอีกหลายกรณีไม่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนว่า ประชาชนต้องการเห็นภาครัฐมีนโยบาย บทลงโทษการเล่นพนันที่ชัดเจน  และเจ้าหน้าที่ต้องเข้มแข็ง ดังนั้นควรมีมาตรการเพื่อยับยั้งการเล่นพนันอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจาก พ.ร.บ.การพนัน ของไทยใช้มาเป็นเวลานาน ควรปรับปรุงมาตรการต่างๆ ให้เข้มงวดขึ้น 

 

              “หากให้ประเมินผลงานของทุกภาคส่วนของรัฐบาลต่อกรณีการพนันในฟุตบอลโลก ต้องถือว่ายังไม่ตรงจุดเท่าที่ควร เนื่องจากภาพรวมของผลงานการจับกุม ปราบปราม หรือป้องกันแก้ไข ยังขัดแย้งกับความรับรู้ของประชาชน หากยังปล่อยให้การทำงานอยู่ในสภาพนี้ สิ่งที่น่ากังวลคือ สังคมไทยจะเกิดปัญหาใหญ่ โดยที่กฎหมายไม่สามารถจัดการอะไรได้ เพราะปัญหาการพนันเล่นบอลนับวันยิ่งมีความชัดเจนมาก โดยเฉพาะการเล่นพนันบอลออนไลน์ ทั้งนี้ รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเครือข่ายภาคประชาชนให้มากขึ้นตามไปด้วยนายธนากร กล่าว

 

ที่มา: สำนักข่าว สสส.

Update:22-07-53

อัพเดตเนื้อหาโดย:คีตฌาณ์ ลอยเลิศ

Shares:
QR Code :
QR Code