โพลระบุ “น้ำท่วม”ทำคนไทย ตกอยู่ในภาวะเครียด!

จากวิกฤติน้ำท่วมร้ายแรงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ สร้างความสูญเสียให้กับประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ความรุนแรงของเหตุการณ์น้ำท่วมที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้นั้น โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครที่อาจมีแนวโน้มจะประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนักระดับความรุนแรงเทียบเท่ากับ “น้ำท่วมปี 2538”


“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  จึงได้สำรวจความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จากเหตุการณ์น้ำท่วมโดยใช้การโทรศัพท์สัมภาษณ์และลงพื้นที่ในบางส่วนจากตัวแทน 15 จังหวัด ทั่วประเทศ  จำนวน 1,634 คน  ระหว่างวันที่ 10-15 ตุลาคม 2554 สรุปผลได้ดังนี้


1 .ความรู้สึกของประชาชน ต่อ การรับรู้ รับฟังข้อมูลข่าวสารน้ำท่วมเป็นอย่างไร?


อันดับ 1 ค่อนข้างเครียด 44.36%


เพราะกลัวบ้านตัวเองจะถูกน้ำท่วมและเห็นใจผู้ที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงของประเทศไทย ฯลฯ


อันดับ 2 เครียดมาก 29.37%


เพราะมีการนำเสนอข่าวน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานนับเดือน ทำให้เกิดการวิตกกังวลไปต่างๆ นานา ฯลฯ


อันดับ 3 ไม่ค่อยเครียด 16.69%


เพราะมีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมไว้แล้ว  มั่นใจว่าที่บ้านไม่ท่วม ส่วนราชการมีการป้องกันอย่างเต็มที่ ฯลฯ


อันดับ 4 ไม่เครียด   9.58%


เพราะคิดว่าเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรรับฟังอย่างมีสติและเตรียมรับมือหรือป้องกันจะดีกว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด  ฯลฯ


โพลชี้น้ำท่วมทำคนเครียด


2.“วิธีคลายเครียดและวิตกกังวล”  ของประชาชน กรณีน้ำท่วม


อันดับ 1 หยุดติดตามข่าวสารน้ำท่วมสักพัก หากิจกรรมอย่างอื่นมาทำแทน /พูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวเพื่อจะได้ระบายความวิตกกังวลออกมา /ไม่คิดวิตกกังวลอยู่คนเดียว 49.85%


อันดับ 2 ต้องทำใจ ยอมรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น / ให้กำลังใจตัวเอง มองโลกในแง่ดี และควรหาทางป้องกันหรือมีการเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วม 41.31%


อันดับ 3 ควรมองคนที่ลำบากหรือแย่กว่าเราเพื่อจะได้มีกำลังใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้   8.84%


3.“วิธีป้องกัน” กรณีที่มีโจรขโมยฉวยโอกาสช่วงน้ำท่วมในการลักขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือน


อันดับ 1 เพิ่มสายตรวจหรือกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตระเวน ตรวจตราพื้นที่ต่างๆให้มากขึ้น /มีบทลงโทษที่รุนแรง 63.42%


อันดับ 2 เก็บรวบรวมทรัพย์สินที่มีค่าไว้ในที่ปลอดภัย ปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนา 21.98%


อันดับ 3 คนในชุมชนหรือเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันควรช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล  14.60%


4.“วิธีป้องกัน” กรณีที่มีการขายสินค้าอุปโภค บริโภคเกินราคาในช่วงน้ำท่วม


อันดับ 1 กระทรวงพาณิชย์จะต้องมีการตรวจสอบราคาสินค้าอย่างเข้มงวด/เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อย 47.72%


อันดับ 2 มีการประกาศเตือนพ่อค้า แม่ค้า/พร้อมแจ้งมาตรการ บทลงโทษที่รุนแรงกับผู้ที่ฉวยโอกาสขายสินค้าเกินราคา 45.44%


อันดับ 3 ประชาชนเองไม่ควรซื้อสินค้ากับร้านที่ขายเกินราคา หากพบเจอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ของรัฐทันที   6.84%


5.ความคิดเห็นต่อการช่วยเหลือของ “ประชาชน” กับ “ประชาชนที่ถูกน้ำท่วม” เป็นอย่างไร?


อันดับ 1 คนไทยต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่ /การบริจาคเงิน สิ่งของ เครื่องใช้ และแรงกายแรงใจ 57.94%


อันดับ 2 รู้สึกซาบซึ้งถึงน้ำใจของคนไทยด้วยกัน คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรัก สามัคคี 33.67%


อันดับ 3 ยังมีคนบางกลุ่มที่ฉวยโอกาสจากเรื่องน้ำท่วมมาแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตนเอง   8.39%



6.สิ่งไหน/เรื่องใด?  ควรทำเป็นอย่างแรกหลังน้ำท่วม


อันดับ 1 ซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง อาคาร บ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหายให้เข้าสู่สภาพปกติ 54.50%


อันดับ 2 สำรวจความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมให้การช่วยเหลือและดูแลผู้ประสบภัยจนกว่าจะช่วยเหลือตัวเองได้ 23.67%


อันดับ 3 การเยียวยา ฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ประสบภัย เพื่อให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป 21.83%


7.การแก้ปัญหาระยะยาวเกี่ยวกับน้ำท่วมควรทำอย่างไร?


อันดับ 1 การศึกษา วางแผนระบบการระบายน้ำ เส้นทางน้ำต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ /การเตรียมการป้องกัน        น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในครั้งต่อไป 53.65%


อันดับ 2 ระดมความคิดเห็นทั้งผู้เชี่ยวชาญในไทยและจากต่างประเทศมาประชุมหารือเพื่อหาแนวทางป้องกัน และแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญและสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะ เรื่องงบประมาณ 23.65%


อันดับ 3 การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนเรื่องน้ำท่วมในการรับมือและป้องกันเมื่อจะต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วม /นำเรื่องน้ำท่วมขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วนหรือเป็นวาระแห่งชาติ 22.70%


8.จากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดเปลี่ยนของการสร้างความปรองดอง การร่วมมือกันระหว่าง “รัฐบาล” กับ “ฝ่ายค้าน” ได้หรือไม่?


อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 42.33%


เพราะการช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมกับเรื่องการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน ,ยังไม่เห็นทั้ง 2 ฝ่ายมีการร่วมมือกันอย่างจริงจัง  ฯลฯ


อันดับ 2 ได้ 29.55%


เพราะความสามัคคี ปรองดองเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ การร่วมแรงร่วมใจเป็นสิ่งสำคัญ ฯลฯ


อันดับ 3 ไม่ได้ 28.12%


เพราะต่างฝ่ายต่างมีวิธีการหรือมีแนวคิดที่แตกต่างกัน ,เป็นธรรมชาติของการเมืองไทยที่จะต้องมีการแบ่งขั้วทางการเมือง ฯลฯ


9.“บทเรียน” ที่คนไทยได้รับจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้


อันดับ 1 น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศ และก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างประเมินค่ามิได้ 33.98%


อันดับ 2 ภาครัฐจะต้องมีการดำเนินการป้องกัน แก้ไขเรื่องน้ำท่วมในระยะยาวอย่างจริงจังและจะต้องทำทันที  30.83%


อันดับ 3 วิกฤตการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการทำลายป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ /ขาดการสำรวจความพร้อมของการรองรับน้ำจากแหล่งต่างๆ ได้แก่ เขื่อน แม่น้ำ คูคลอง และทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ 18.77%


อันดับ 4 การเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับน้ำท่วมที่อาจจะมีขึ้นอีกในครั้งต่อไป /ประชาชนจะต้องศึกษา รู้จักดูแลตนเองในการเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับน้ำท่วม 16.42% 


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า 

Shares:
QR Code :
QR Code