แนะไม่ควรพาเด็กต่ำกว่า12ไปม็อบ อาจซึมซับความรุนแรง
แพทย์แนะพ่อแม่ไม่ควรพาเด็กลูกหลานอายุต่ำกว่า 12 ปี ยังไม่รู้ความ อารมณ์และความคิดยังไม่พัฒนาไปร่วมม็อบ เพราะอาจมีผลซึมซับพฤติกรรมความรุนแรงจากน้ำเสียงได้ แนะเลี้ยงลูกด้วยเหตุผล ปลูกการคิด วิเคราะห์บนหลักเหตุผล
พญ.ปราณี เมืองน้อย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีการพาเด็กเล็กไปร่วมชุมนุมทางการเมืองว่า การที่พ่อแม่ผู้ใหญ่จะมีความเชื่อทางการเมืองอย่างไรนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การนำความคิดความเชื่อของผู้ใหญ่ใส่มือเด็ก โดยที่พวกยังไม่สามารถคิดวิเคราะห์ได้เพียงพอ ก็เหมือนเป็นการระบายสีที่คุณชอบลงบนผ้าสีขาว โดยไม่เปิดทางเลือกให้เจ้าตัวน้อยได้ผ่านกระบวนการเติบโต เรียนรู้และค้นพบความเป็นตัวของตัวเอง เด็กๆ ควรมีโอกาสได้อ่านหนังสือ หาความรู้จากสื่อต่างๆ เพื่อค้นพบว่าเขามีรสนิยมทางการเมืองแบบไหน โดยมีผู้ใหญ่เป็นผู้ให้คำแนะนำด้วยเหตุผล ซึ่งจะทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้มากกว่าการชี้นิ้วบอกทา
พญ.ปราณีกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเด็กๆ เรียนรู้จากการเลียนแบบพฤติกรรมของคนมากกว่าคำสอนของพ่อแม่ เด็กๆ จะซึมซับ จดจำทุกคำพูด ทุกการกระทำ แม้บางครั้งอาจไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่คุณกำลังพูด แต่เด็กๆ ก็จับอารมณ์และน้ำเสียงได้ โดยเฉพาะในการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองที่มีความเป็นไปได้ว่าอารมณ์ของผู้พูดจะคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ การควบคุมอารมณ์และระวังคำพูดต่อหน้าเจ้าตัวน้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเด็กวัยต่ำกว่า 12 ปี ที่พัฒนาการด้านอารมณ์และความคิดยังพัฒนาไม่เต็มที่ หากได้ยิน
ได้ฟังการวิพากษ์วิจารณ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ หรือเห็นภาพการชุมนุม การปราศรัยที่ดุดันผ่านสื่อ เด็กจะไม่สามารถแยกแยะหรือจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้อย่างเหมาะสม ทำให้เด็กได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดนี้ จนอาจส่งผลให้เด็กๆ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป งอแงมากขึ้น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ขาดสมาธิในการเรียนหรือทำกิจกรรม จนไปถึงการเลียนแบบความรุนแรงทางวาจาหรือทางอารมณ์ของผู้ใหญ่
จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นกล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ คงไม่มีใครคัดค้านว่ามาจากการที่คนในสังคมไม่ทำตามหน้าที่ของตัวเองและกฎเกณฑ์ทางสังคมอย่างถูกต้อง ทำให้ต้องมีการคัดค้านมากมาย สำหรับพ่อแม่แล้ว หน้าที่ที่ดีที่สุดที่คุณทำได้ก็คือ การเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยให้เติบโตมาอย่างมีเหตุผล รู้จักคิดวิเคราะห์ รู้หน้าที่ แยกแยะผิดถูกได้ตามเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ เพื่อที่ว่าสังคมของเราต่อไปในอนาคตจะได้ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาเช่นนี้อีก หากพ่อแม่ทุกคนในสังคมนี้ร่วมมือกัน ความเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยสองมือของคุณเอง
“สำหรับเด็กโต พ่อแม่ควรใช้โอกาสนี้เป็นตัวอย่างที่ดี โดยการศึกษาหาข้อมูลให้กระจ่าง เพื่อทำการแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นเหตุเป็นผล เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าระบอบประชาธิปไตย การแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งที่กระทำได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องกระทำอย่างเป็นเหตุเป็นผลด้วย”
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
