แนะเลิกเหล้าบุหรี่ ลดติดเชื้อปอดอักเสบ

ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์


แนะเลิกเหล้าบุหรี่ ลดติดเชื้อปอดอักเสบ thaihealth


แฟ้มภาพ


โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น การไปรับเชื้อบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น มีการไอจาม หรือหายใจรดกัน การสูบบุหรี่ การดื่มเหล้าทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลง  เป็นต้น ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน และลดปัจจัยเสี่ยงที่สุขภาพ


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปอดอักเสบที่พบได้บ่อยคือปอดอักเสบจากการติดเชื้อ ส่วนใหญ่เกิดจากการรับเชื้อในชุมชน ได้แก่ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา โดยเชื้อจะเข้าสู่ปอดทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ สามารถรับเชื้อได้จากการไอจาม หรือหายใจรดกัน ซึ่งจะเอาเชื้อที่อยู่ในรูปละอองฝอยขนาดเล็กเข้าสู่ปอด การสำลักเชื้อที่อยู่บริเวณทางเดินหายใจส่วนบนลงสู่ปอด เช่น สำลักน้ำลาย อาหาร หรือสารคัดหลั่ง การแพร่กระจายของเชื้อตามกระแสโลหิต และการลุกลามจากการติดเชื้อของอวัยวะข้างเคียง


โรคดังกล่าวสามารถพบได้ทุกกลุ่มแต่พบบ่อยในผู้มีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ 1.เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 2.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หอบหืด 3.ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ 4. ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการให้เคมีบำบัด หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกันเป็นเวลานาน 5.ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ป่วยจะมีอาการ ไอ มีเสมหะ เจ็บหน้าอกขณะหายใจหรือไอ มีไข้ เหงื่อออกมาก หายใจลำบาก หอบ คลื่นไส้อาเจียน หนาวสั่น ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การหายใจล้มเหลว ไตวายเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีอาการรุนแรงจนนำไปสู่การเสียชีวิตได้


นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวว่า การรักษาปอดอักเสบเป็นการรักษาร่วมกับป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ทางแพทย์จะรักษาผู้ป่วยด้วยวิธี 1. ให้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย 2.รักษาแบบประคองอาการ สำหรับโรคที่ยังไม่มียาต้านไวรัสโดยตรง เช่น การติดเชื้อ RSV 3.การรักษาภาวะแทรกซ้อน มักเกิดในกรณีของกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการรุนแรงมาก เช่น ภาวะหายใจล้มเหลว


สำหรับการป้องกัน ได้แก่ 1.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ แบ่งเป็นวัคซีนแบบโพลีแซคคาไรด์ สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงและผู้สูงวัย และวัคซีนแบบคอนจูเกต สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 สัปดาห์–5 ขวบ ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและผู้มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป


2. ไม่สูบบุหรี่ เพราะบุหรี่จะทำลายกระบวนการป้องกันในระบบทางเดินหายใจ 3.ดูแลสุขอนามัยทั่วไป เช่น ล้างมือ หลีกเลี่ยงการไปอยู่ในบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น 4. หลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ควันไฟ ควันจากท่อไอเสีย หรืออากาศเย็น 5.เมื่อเป็นหวัดควรรักษาให้หายขาด 6.ไม่ดื่มเหล้า 7.สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

Shares:
QR Code :
QR Code