แนะวิธีรับมือโรคเบาหวานด้วยตัวเองในช่วงน้ำท่วม
รมว.สาธารณสุข เผยยอดคนไทยป่วยเป็นเบาหวาน 1.5 ล้านราย ห่วงน้ำท่วมเดินลุยน้ำทำเท้าเน่าเปื่อย แนะพกน้ำตาลก้อนติดตัวกินช่วงภาวะน้ำตาลต่ำในช่วงน้ำท่วม…
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบทั่วโลกมีผู้ป่วยเบาหวานแล้วกว่า 300 ล้านคน โดยส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่ประชากรมีรายได้ต่ำ สำหรับประเทศไทยจากการคัดกรองประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป พ.ศ. 2554 พบผู้ป่วยโรคเบาหวาน 1,581,857 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อน 277,020 ราย คิดเป็นร้อยละ 18 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งหมด ซึ่งในจำนวนผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนพบผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนที่ไต ร้อยละ 25 รองลงมาพบภาวะแทรกซ้อนที่ตา ร้อยละ 23 นอกจากนี้ ยังพบว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคเบาหวานเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 14 พ.ย. ของทุกปีเป็นวันเบาหวานโรค (world diabetes day) เพื่อสร้างกระแสตื่นตัวให้ประชาชนทั่วไปรวมถึงประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้ตระหนักถึงภัยคุกคามจากโรคเบาหวาน ให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพรมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบภาวะอุทกภัยในหลายจังหวัด ดังนั้น จึงได้กำหนดประเด็นการรณรงค์เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน คือ “ร่วมใจ รู้เตรียม รู้ระวัง รู้สะอาด ลดภัยเบาหวาน” เพื่อชักชวนให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษา ผู้ที่ควบคุมโรคได้ไม่ดี ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ หันมาสนใจเพิ่มความระมัดระวังตัวเองช่วงน้ำท่วม โดยเฉพาะบาดแผลที่เกิดขณะน้ำท่วม รวมถึงการขาดยาจากการเดินทางลำบาก
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเตรียมรับมือกับโรคเบาหวานในระหว่างน้ำท่วมนั้น ผู้ที่เป็นเบาหวานจะต้องเตรียมยาให้เพียงพออย่างน้อย 1 – 2 เดือน หากตรวจสอบพบว่ามียาน้อยกว่า 5 วัน ให้รีบติดต่อสถานพยาบาล เตรียมหาสถานที่พักที่ใกล้กับสถานพยาบาล ควรอพยพเมื่อทางการแจ้งให้อพยพออกนอกพื้นที่ พกน้ำตาล น้ำหวาน หรือลูกอม 4-5 ชิ้นไว้ประจำตัวตลอดเวลา เมื่อภาวะน้ำตาลต่ำ จะมีอาการหิว ใจสั่น เหมือนจะเป็นลม ให้ทานน้ำตาล น้ำหวานหรือลูกอม 1 ชิ้น อาการจะดีขึ้นขณะเดียวกันต้องตรวจดูเท้าทุกวันว่ามีรอยแผลหรือไม่ เมื่อลุยน้ำควรล้างทำความสะอาดเท้าและขา เช็ดให้แห้งทุกครั้ง หากมีแผลให้รีบรักษา และต้องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะ และเมื่อมีอาการน้ำตาลสูง ได้แก่ อาการกระหายน้ำ ปัสสาวะมาก อ่อนเพลีย น้ำหนักลด หรือมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ที่ศูนย์พักพิงหรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
