เส้นทางจักรยาน ยิ่งปั่น (ป่า) ยิ่งสนุก
แฟ้มภาพ
ทุกวันนี้การปั่นจักรยานกำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่า เส้นทางปั่นจักรยานในประเทศกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาปรับปรุงให้ได้มาตรฐาน แต่ยังพอมีเส้นทาง และพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการปั่นที่อยู่หลายแห่ง เพื่อรองรับนักปั่นให้ไปสัมผัสเส้นทางสักครั้ง “ปั่นป่า” ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางในป่าเขา ที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
‘ไป ปั่น ป่า’
ฤดูหนาวแบบนี้ การเดินทางท่องเที่ยวป่าเขาด้วยจักรยาน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เชื่อว่า นักปั่นหลายๆ คน น่าจะชื่นชอบ ซึ่งทาง 'วารสาร สารสองล้อ ฉบับเดือน พฤศจิกายน 2558' ได้แนะนำ 2 เส้นทางปั่นป่า ที่น่าสนใจ ดังนี้
เส้นทางที่ 1 คือ บ้านพุระกำ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ชุมชนไทยภูเขาที่อยู่ในพื้นที่โครงการตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ โดยจุดเริ่มต้นการปั่นจักรยานคือ บริเวณใกล้กับวัดห้วยม่วง ปั่นผ่านชุมชนและโรงเรียนที่เป็นถนนยางดำไปสักระยะ ก็เข้าสู่เส้นทางปั่นป่าเพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านพุระกำ เป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร โดยตลอดเส้นทางเป็นดิน เลน หินลอย และเป็นเนินขึ้นลงตลอดเส้นทาง
เส้นทางปั่นยังผ่านฝายกั้นน้ำขนาดใหญ่และอุโมงค์ต้นไม้ หลังจากนั้นนักปั่นต้องออกแรงจูง แบกและเข็นจักรยานข้ามผ่านสายน้ำเพื่อมุ่งหน้าสู่บ้านพุระกำ บรรยากาศโดยรอบของบ้านพุระกำเป็นเนินเขา และมีสายน้ำไหลผ่านหมู่บ้านถือว่าเป็นการปั่นที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่สุด
เส้นทางที่ 2 คือ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าราชบุรี ห้วยอะนะ แต่ต้องขออนุญาตสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าก่อนเข้าไปใช้พื้นที่ โดยจุดเริ่มต้นการปั่นจักรยาน คือ ปั่นย้อนกลับไปเส้นทางที่เข้ามาบ้านพุระกำ มุ่งหน้าสู่ชุมชนมาถึงถนนดำ และเข้าสู่ถนนดินผ่านเนินที่เป็นทางเข้าห้วยอะนะ มีความชันและยาวกว่าเนินบ้านพุระกำ 2-3 เท่า เมื่อมาถึงห้วยอะนะ จะพบกับลานหญ้าสำหรับกางเต็นท์ ที่อยู่ริมห้วยน้ำ หลังจากใช้เวลาปั่นมาทั้งวัน นักปั่นก็สามารถพักผ่อนกายใจ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเส้นทางปั่นที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ และอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อย่างจังหวัดราชบุรี ก็ถือเป็นเส้นทางปั่นเพื่อสุขภาพ ที่นักปั่นไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
‘ยิ่งปั่น ยิ่งดี ยิ่งสนุก’
จากคู่มือปั่นจักรยาน สำหรับประชาชน (เมืองปั่นได้ เมืองปั่นดี) ที่ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. จัดทำขึ้น บอกไว้ว่า การปั่นจักรยานมีผลดีในหลายๆ ด้านแน่นอนว่า ด้านสุขภาพต้องมาเป็นอันดับแรก เพราะการปั่นจักรยานเป็นประจำทุกวันๆ ละ 30 นาที จะช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือด การหายใจดีขึ้น หัวใจและปอดทำงานได้ดี ช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับแข็งแรง เผาผลาญพลังงานได้ดี และยังลดความเสี่ยงการเกิด โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนลงพุง
เพื่อสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่แข็งแรง หาเวลาว่างออกไปปั่นจักรยานกันนะคะ หรือจะเริ่มปั่นจักรยานบนเส้นทางสิริมงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา ในวันที่ 11 ธ.ค. 2558 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.bikefordad2015.com
เรื่องโดย พิมพ์ชนก ศรเพชร Team Content www.thaihealth.or.th
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วารสาร สารสองล้อ ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2558 โดย สมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย
และ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย
