เสริมพลังสร้างคนอาสาทำดี

          การพัฒนาคนให้มีหัวใจของ "การทำดี" ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการพัฒนาชุมชนให้ขับเคลื่อนไปยังเป้าหมาย และเป็นหน้าที่ของประชาชนไทยที่พึงมี


/data/content/26967/cms/e_dfijloswxz67.jpg


          "ค่ายเติมรัก เสริมพลัง Smart Camp" ที่จัดขึ้นโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) ภายใต้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นั้น ได้รวมพลังศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชน (ศจค.) จำนวน 93 ศูนย์ทั่วประเทศ มีเป้าหมายเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างเครือข่าย เรียนรู้กระบวนการทำงานเป็นทีม เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง


         /data/content/26967/cms/e_hlorsyz46789.jpg น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน กล่าวถึงที่มาของการรวมศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชนว่า เนื่องจากภาคีได้ขยายกว้างออกไปทั่วประเทศและมีจำนวนที่มากขึ้นทุกๆ ปี ทำให้ภาคีแต่ละแห่งไม่ได้ทำความรู้จักกัน และสานสัมพันธ์กันอย่างทั่วถึง จึงเป็นโจทย์ให้ทางสำนักได้หาจุดเชื่อมของภาคี เพื่อประสานและยกระดับของการทำงานร่วมกัน


          "ภาคีที่เป็นแม่ข่าย หรือ ศจค. นั้น จะต้องขับเคลื่อนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กว่า 2,000 แห่ง ถ้าภาคีไม่เกื้อกูลกันจะทำให้ไม่เกิดพลังในการขับเคลื่อนงาน อีกทั้งเรามีการออกแบบการทำงานระดับเครือข่ายใหม่ ค่ายครั้งนี้จึงเป็นเหมือนต้นทางที่ดีในการสื่อสารถึงภาคี และเป็นการสรุปบทเรียนจากการทำงานที่ผ่านมา 3 ปี เราพบว่าภาคีส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาเรื่องการสร้างทีม และการพัฒนาขีดความสามารถ ของตัวเอง "ค่ายเติมรัก เสริมพลัง Smart Camp" จึงเกิดขึ้น"


          "คน" เป็นจุดสำคัญในการพัฒนางาน ค่ายจึงออกแบบรูปแบบกิจกรรมเพื่อเน้นการพัฒนาตัวเองเป็นสำคัญ โดยมีหลัก "อาสาทำดี" เป็นหัวใจหลักในการทำงานของศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชน


          "การทำดีเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นหน้าที่ของพลเมืองไทยทุกคน อาสาทำดี ที่เป็นหนึ่งในฐานกิจกรรมนั้น มีหลักคิดว่า ถ้าเราใช้เงินในการบริหารจัดการ จะเป็นกระแสบริโภคนิยมที่มีเงินเป็นตัวตั้ง แต่เมื่อดูพื้นที่ในชุมชนแล้วพบว่า ยังมีคนที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ ยังมีความเหลื่อมล้ำทางสังคมอยู่ ทางสำนักจึงตกลงกันว่า งานพัฒนาประเทศควรจะต้องใช้แนวคิดเรื่อง "อาสา" และ "ทำดี" รวมกันเป็น "อาสาทำดี" เพื่อเน้นย้ำให้ ภาคีฯ ตระหนักว่า เราจะช่วยกันทำให้พื้นที่ที่เราไปเยือนนั้นดีขึ้น" ผอ.สำนัก 3 กล่าว


          จากการสำรวจพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว พบว่า ต้องพัฒนาในเรื่อง 1.การซ่อมสะพานข้ามลำน้ำ 5 /data/content/26967/cms/e_abejnqsuxy57.jpgสะพาน ที่ชำรุด เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เป็นเส้นทางเดินป่าได้อย่างปลอดภัย 2.สร้างฝายชะลอน้ำให้แข็งแรงด้วยการเทปูนและเรียงหิน 3.สร้างโป่งเทียมเพื่อรองรับกับจำนวนช้างป่าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมในค่ายยังปลูกฝังเรื่องการทำดีลงไปด้วย เช่น กล่องข้าวอาสาทำดีที่ชาวค่ายแต่ละคนต้องรับผิดชอบในการตักอาหารรับประทาน ล้างกล่องข้าวให้สะอาด พร้อมเก็บขยะรักษาความสะอาดในค่ายด้วย เป็นต้น


          คุณขวัญเรือน ตาปราบ ตัวแทนศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชน เทศบาลตำบลบ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เล่าถึงการเรียนรู้ที่ได้รับจากกิจกรรมในค่ายว่า ได้เรียนรู้ถึงการเป็นอาสา เพราะในฐานกิจกรรมจะสอนให้เรามีจิตอาสาต่อเพื่อนในทีม และอาสาที่จะมาเป็นตัวแทนของทีม "อาสาทำดี" นั้น เป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม หลังออกจากค่ายไปก็จะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้นั้นถ่ายทอดให้คนรอบข้าง เพื่อนร่วมงาน และชุมชนต่อไป


          ด้าน คุณศุภรุจ จันทร์จุลเจิม ตัวแทนองค์การบริหารส่วนตำบลช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรีเล่าความประทับใจในค่ายว่า ก่อนจะเริ่มค่ายมีการจัดทีมเหย้า ทีมเยือนข้ามจังหวัด เพื่อให้เราทำความรู้จักและ


          เรียนรู้ร่วมกันในค่าย ทีมเราได้จับคู่กับทีมพื้นที่ภาคใต้ ทำให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรื่องภาษา วัฒนธรรมประเพณี รวมถึงการเกษตรของแต่ละพื้นที่ โดยทุกๆ กิจกรรมที่จัดขึ้น สอนเรื่อง การทำงานเป็นทีม การอาสาทำดีที่คอยช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน


          "หลังจบงานนี้เราจะยังคงสานสัมพันธ์เพื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันต่อไป เพราะมิตรภาพ ไม่ได้จบแต่ในค่ายเท่านั้น" ศุภรุจ ทิ้งท้ายความประทับใจ


 


 


       ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

Shares:
QR Code :
QR Code