เลือกซื้อผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกอย่างไร ให้ปลอดภัยจากไข้หวัดนก
ตั้งแต่เข้าฤดูฝนมา อากาศก็เปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกและแนวชายแดนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มมีนกอพยพหนีความหนาวเย็นในต่างแดนเข้ามาอาศัยในประเทศไทย
สคร.3 ชลบุรี กรมควบคุมโรค จึงมีคำแนะนำในการป้องกันตัวเองและการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์ปีกที่ปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนก
สัตว์นำโรค : นกเป็ดน้ำ นกอพยพ และนกตามธรรมชาติที่มีเชื้อส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ส่วนเป็ด ไก่ ในฟาร์มและในบ้านสามารถติดเชื้อจากนกอพยพเหล่านี้ได้และมักแสดงอาการ
วิธีการติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน : คนสามารถติดเชื้อจากสัตว์ได้จากการสัมผัสสัตว์ป่วยโดยตรง และโดยทางอ้อมจากการสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งจากสัตว์ที่เป็นโรคเช่น อุจจาระ น้ำมูก น้ำตา น้ำลายของสัตว์ป่วย จากการเฝ้าระวังโรค ยังไม่มีการติดต่อระหว่างคนและคน ผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรค ได้แก่ผู้ทีมีอาชีพและใกล้ชิดสัตว์ปีก เช่น ผู้เลี้ยง ฆ่า ขนส่ง ขนย้าย ผู้ขายสัตว์ปีกและซากสัตว์ปีก สัตวบาล และสัตวแพทย์ รวมถึงเด็กๆที่เล่นและคลุกคลีกับสัตว์
แนวทางปฏิบัติสำหรับประชาชนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนก
ผู้บริโภคไก่และผลิตภัณฑ์จากไก่
1. เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจและโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร การบริโภคเนื้อสัตว์ รวมทั้งเนื้อไก่และไข่ไก่ โดยทั่วไปจึงควรรับประทานเนื้อที่ปรุงให้สุกเท่านั้น
2. เนื้อไก่และไข่ไก่ที่มีอยู่ตามท้องตลาดขณะนี้ ถือว่ามีความปลอดภัย สามารถบริโภคได้ตามปกติ แต่ต้องรับประทานเนื้อไก่และไข่ที่ปรุงสุกเท่านั้น งดการรับประทานอาหารที่ปรุงกึ่งสุกกึ่งดิบ
3. เชื้อไวรัสไข้หวัดนกทำลายได้ง่าย ด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เชื้อจะถูกทำลายภายใน 30 นาที ฉะนั้นไม่ควรกินไก่สุก ๆ ดิบ ๆ ที่เนื้อแดงมีเลือดปน และหากจำเป็นต้องหั่นไก่เพื่อปรุงอาหารหลังหั่นเสร็จแล้ว ให้ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือผงซักฟอกทันที
4. การกินไข่ ไม่ควรกินไข่ลวก ควรกินแบบไข่ต้มสุก ไม่เป็นแบบยางมะตูม ให้กินไข่ดาวที่สุก ไข่ควรจะล้างทำความสะอาด เช็ดให้แห้งก่อนเก็บในตู้เย็น หลังจากนั้นให้ล้างมือ ฟอกสบู่ให้สะอาด
ผู้ประกอบอาหาร
1. ควรเลือกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์จากไก่จากแหล่งที่มีการรับรองมาตรฐานหรือร้านค้าประจำ และเลือกซื้อไก่สดที่ไม่มีลักษณะบ่งชี้ว่าอาจตายด้วยโรคติดเชื้อ เช่น เนื้อมีสีคล้ำ มีจุดเลือดออก เป็นต้น สำหรับไข่ ควรเลือกฟองที่ดูสดใหม่ และไม่มีมูลไก่ติดเปื้อนที่เปลือกไข่ ก่อนปรุงควรนำมาล้างให้สะอาด
2. ไม่ใช้มือที่เปื้อนมาจับต้องจมูก ตา และปาก และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจับต้องเนื้อสัตว์ และเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อน
3. ควรแยกเขียงสำหรับหั่นเนื้อไก่ และมีเขียงสำหรับหั่นอาหารที่ปรุงสุกแล้ว หรือผัก ผลไม้ โดยเฉพาะ ไม่ใช้เขียงเดียวกัน
แนวทางปฏิบัติถ้าพบนกหรือไก่ที่เลี้ยงตาย
1. อาการไข้หวัดนกในสัตว์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่อาการที่พบได้ทั่วไปคือ สัตว์ซูบผอม ซึม ไม่กินอาหาร ขนยุ่ง ไอจาม ไข้ หายใจลำบาก น้ำตาไหลมาก หน้าบวม หงอนมีสีคล้ำ และอาจมีอาการของระบบประสาทและท้องเสีย รายที่รุนแรงจะตายกระทันหันไม่แสดงอาการ
2. เมื่อพบว่าสัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด หรือนกที่เลี้ยงไว้ในบ้านป่วยตายอย่างรวดเร็ว หรือผิดปกติมากกว่า 1 ตัวขึ้นไป หรือมีนกตกลงมาตายในบริเวณบ้าน หรือใกล้บ้าน ให้ทำการทำลายซากสัตว์ปีกดังกล่าว ทำการเผาหรือฝัง โดยขุดหลุมลึกประมาณ 1 เมตร ใส่ซากสัตว์ปีกลงไป แล้วราดทับด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เช่น น้ำคลอรีน หรือปูนขาว แล้วฝังกลบทับให้แน่น โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสซากไก่โดยตรง ให้สวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย เช่น สวมถุงพลาสติก/ถุงมือ สวมผ้าปิดจมูกในขณะที่เก็บ และล้างมือให้สะอาดทันทีหลังเก็บซากสัตว์แล้ว
3. ควรเก็บตัวอย่างซากสัตว์ที่ตายส่งตรวจหาสาเหตุการตาย โดยใส่ถุงพลาสติก 2 ชั้น มัดปากถุงให้แน่น เก็บใส่ภาชนะแช่น้ำแข็ง ส่งป้องปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยโรคของกรมปศุสัตว์ที่อยู่ใกล้ที่สุด หลังการเก็บซากสัตว์ ต้องทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
หากสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทร 1422 และศูนย์ปฏิบัติการกรมควบคุมโรค โทร 0 2590 3333”
ที่มา : กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สคร.3 ชลบุรี