เลิกบุหรี่แห่งชาติ สร้างฝันให้เป็นจริง!
เพื่อสุขภาพของคุณเองและคนที่รัก
ในแต่ละปีมีคนไทย 42,000 ราย ที่ต้องเสียชีวิตลงด้วยสาเหตุจากการสูบบุหรี่ และยังมีผู้คนอีกนับแสนที่ต้องเจ็บป่วยด้วยโรคภัยจากพิษของควันร้ายที่มาจากบุหรี่ ขณะที่ผู้สูบบุหรี่กว่า 9.5 ล้านคน หากไม่เลิกบุหรี่ 1 ใน 3 จะเจ็บป่วยและเสียชีวิตลงเช่นกัน
มหันภัยร้ายของบุหรี่เป็นที่ตระหนักดีของคนทั่วโลก ทำให้องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ทุกวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่งในปีนี้ก็เช่นกัน ทั่วโลกร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์เชิญชวนให้ผู้สูบบุหรี่ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ ภายใต้สโลแกน “tobacco health warnings” ส่วนประเทศไทยเองก็จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์งดสูบบุหรี่เช่นกัน โดยกำหนดคำขวัญประจำปีว่า “บุหรี่มีพิษ ร่วมคิดเตือนภัย” พร้อมเชิญชวนให้เลิกบุหรี่ด้วยการใช้บริการโทร 1600 สายด่วนเลิกบุหรี่แห่งชาติ
รศ.ดร.จินตนา ยูนิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ (national quitline) หรือโทร.1600 สายเลิกบุหรี่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2545 – 2549 มีผู้สูบบุหรี่โทรเข้ามาใช้บริการเลิกบุหรี่ผ่านทางโทรศัพท์หมายเลข 1600 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 18 ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า การใช้บริการเลิกบุหรี่ผ่านการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์หมายเลข 1600 ทำให้ผู้สูบบุหรี่สามารถเลิกบุหรี่ได้อย่างเห็นผล โดยพบว่า กว่าร้อยละ 50 ของผู้สูบที่เข้ารับบริการสายด่วนเลิกบุหรี่จะเลิกสูบบุหรี่ได้มากกว่าผู้ที่อ่านคู่มือเลิกบุหรี่ด้วยตนเอง
จากการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้บริการของผู้เลิกบุหรี่ผ่านทาง 1600 สายเลิกบุหรี่ พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2552 มีผู้ใช้บริการ 2,383 คน เป็นเพศชาย 1,942 คน (ร้อยละ 81.5) เพศหญิง 439 คน (ร้อยละ 18.4) โดยพบว่าผู้ที่มาใช้บริการร้อยละ 77.8 เคยเลิกบุหรี่มาแล้ว
โดยผู้สูบบุหรี่ที่มาขอรับบริการที่มีอายุมากที่สุด คือ 82 ปี และน้อยที่สุด คือ 9 ปี มีจำนวนบุหรี่ที่สูบเฉลี่ย 15.38 มวนต่อวัน โดยมากที่สุดสูบ 90 มวนต่อวัน และน้อยที่สุดสูบ 2 มวนต่อวัน โดยผู้สูบบุหรี่ที่มาขอรับบริการให้เหตุผลในการเลิกบุหรี่ว่า เพื่อสุขภาพ ร้อยละ 45.9 เพื่อครอบครัว ร้อยละ 48.6 รู้สึกไม่ดี ร้อยละ 19.3 สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย ร้อยละ 35.1 สังคมไม่ยอมรับ ร้อยละ 15.3
นอกจากนี้ยังให้บริการข้อมูลข่าวสาร เรื่องการเลิกบุหรี่ทางไปรษณีย์ และบริการข้อมูลข่าวสารทางเว็บไซต์ ภายใต้ชื่อ www.thailandquitline.or.th โดยบริการให้คำปรึกษาและข้อมูลข่าวสารจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนการให้บริการทางโทรศัพท์ 1600 สายเลิกบุหรี่ เปิดให้บริการระหว่างเวลา 07.30 – 20.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ จะเสียค่าใช้จ่ายจากการใช้บริการโทรศัพท์ตามระบบจริง
ผู้อำนวยการศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติกล่าวด้วยว่า คนกรุงเทพฯ สูบบุหรี่ 684,249 คน เฉลี่ยสูบ 10.21 มวนต่อคนต่อวัน คิดเป็นจำนวนบุหรี่ 6,986,386 มวน หรือ 348,977 ซองต่อวัน และมีคนไทยต้องเสียชีวิตชั่วโมงละ 4.7 ราย หรือวันละ 115 ราย ขณะที่ภาครัฐเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูบบุหรี่มากกว่า 50,000 ล้านบาท ถือเป็นการสูญเสียทั้งบุคลากรและทรัพย์สินที่มีมูลค่ามหาศาล
การรณรงค์และเชิญชวนให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพของตนเองและคนรอบข้างถือเป็นสิ่งที่ดียิ่ง และขอเชิญชวนให้คนไทยทุกคนเลิกสูบบุหรี่และเลิกสูบยาสูบ เพื่อคนที่รักและตัวคุณเองด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์
update 01-06-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก