เยี่ยมแผนงานพัฒนาวิชาการและกลไกคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ
ผู้จัดการ สสส.สานต่อภารกิจเยี่ยมภาคีต่อเนื่อง เลาะรั้วจามจุรี เยือนแผนงาน “พัฒนาวิชาการและกลไกคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ” มุ่งคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาสังคม จากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย
วันที่ 14 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมทีมงาน เดินทางสู่ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเยี่ยมเยียนแผนงาน “พัฒนาวิชาการและกลไกคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.)” มี รศ.ภก.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ ผู้จัดการแผนงาน และ ผศ.ภญ.ดร.วรรณา ศรีวิริยานุภาพ รองผู้จัดการแผนงาน ให้การต้อนรับ
รศ.ภก.ดร.วิทยา กล่าวว่า ขอขอบคุณคุณหมอและทีมงานที่ให้เกียรติมาเยี่ยม ทางแผนงานฯมีโอกาสได้ร่วมงานกับ สสส.มาตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคนั้น เป็นงานที่ค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากมีสินค้าอันตรายใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน ด้านการดำเนินงานที่ผ่านมา มีผลงานที่ได้รับการยอมรับมากมาย เช่น มาตรการควบคุมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก, มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน มาตรการป้องกันการใช้นํ้ามันทอดซํ้าเสื่อมสภาพ, มาตรการเฝ้าระวังยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ, มาตรการป้องกันภัยจากลวดดัดฟันแฟชั่น และที่กำลังเป็นกระแสคือ อันตรายจากสารบีพีเอ หรือสารบิสฟีนอล-เอ (bisphenol-a)ในขวดนมทารก ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ความเบี่ยงเบนทางเพศ ความเปลี่ยนแปลงทางการเจริญพันธุ์ ทำให้มีประจำเดือนเร็วขึ้น เป็นต้น ปัจจุบันเราได้ปรับแนวทางการทำงาน มามุ่งเน้นที่งานวิชาการและกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น
“คคส.เปรียบเสมือน “น้ำมันหล่อลื่น” ทำหน้าที่จุดประกาย กระตุ้น สานและเสริมพลังผู้บริโภค และองค์กรผู้บริโภคทุกภาคส่วนให้มีขีดความสามารถ และพัฒนาระบบคุ้มครองผู้บริโภคที่เอื้อต่อสุขภาวะ เพื่อผลักดันให้เกิดองค์กรอิสระในการดูแลคุ้มครองผู้บริโภค โดยการสร้างและจัดการความรู้ เพื่อสนับสนุนการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ ส่งเสริมประสิทธิภาพกลไกการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ การสนับสนุนเครือข่ายวิชาการเพื่อการจัดการสินค้าและบริการที่ไม่ปลอดภัย และสร้างความร่วมมือกับท้องถิ่น เอกชน และสื่อมวลชนเพื่อให้เกิดการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างยั่งยืน” ผู้จัดการ คคส. กล่าว
ดร.วิทยา กล่าวอีกว่า ด้วยความที่เป็นนักวิชาการ ทำให้มีจุดอ่อนในการทำงานอยู่บ้าง เช่น การบริหารจัดการสำนักงาน ระบบบัญชีการเงิน ระบบการจัดการข้อมูล และการพัฒนาศักยภาพนักวิชาการเพื่อนำเสนองานวิจัยบนเวทีนานาชาติ ซึ่งต้องให้ สสส.เข้ามาช่วยสนับสนุนในเรื่องเหล่านี้
ด้าน ทพ.กฤษดา กล่าวว่า ภารกิจเยี่ยมภาคี เกิดขึ้นจาก สสส.ต้องการจะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างภาคี จากผู้ให้ทุน กับผู้รับทุน กลายเป็นเพื่อนที่จะร่วมกันทำงานสร้างสุขภาวะที่ดีแก่สังคม นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหา เพื่อหนุนเสริมการทำงานของแผนงาน และพัฒนาศักยภาพคนทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ สสส.เชื่อว่า หากภาคีมีความเข้มแข็ง ก็จะส่งผลให้ สสส.เข้มแข็งตามไปด้วย
“สสส.กำลังจะพัฒนาระบบจัดการข้อมูลความรู้ เพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางให้ภาคีต่างๆ ได้เข้ามาใช้ร่วมกัน ส่วนการพัฒนาศักยภาพนักวิชาการ เรามีแผนงานพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะด้านการสร้างเสริมสุขภาพของไทยระดับนานาชาติ หรือ tglipซึ่งมีแผนจะเปิดอบรมด้านการนำเสนอและการสื่อสารภาษาอังกฤษ เพื่อเปิดโอกาสให้นักวิจัยหรือนักวิชาการไทย ได้พัฒนาทักษะของตนในการเผยแพร่ผลงานสู่เวทีนานาชาติ ทั้งยังมีสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์ ที่จะช่วยสนับสนุนภาคีด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น” ผู้จัดการ สสส. กล่าว
เรื่อง: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน teamcontent www.thaihealth.or.th