เยาวชนสงขลาต้นแบบพลเมือง – รักษาหาดสมิหลา

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


เยาวชนสงขลาต้นแบบพลเมือง - รักษาหาดสมิหลา thaihealth


ยุคสมัยเปลี่ยนไป เนื่องจากสังคมให้โอกาสเด็กเป็นส่วนหนึ่งของการวางรากฐานพัฒนาประเทศมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ใกล้ตัวก่อน จนสามารถรวมกลุ่มกันออกมาปกป้องและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติของตัวเอง พร้อมวิถีชุมชนและอัตลักษณ์ของพวกเขาให้ดำรงอยู่ต่อไป


อย่างเช่นกลุ่มเยาวชนเล็กๆ กลุ่มบีชฟอร์ไลฟ์ หรือกลุ่มพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา ที่รวมพลังอนุรักษ์ชายหาดสมิหลามาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี จนสามารถออกมาเผยแพร่องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการติดตามสภาพหาดสมิหลาทั้งระบบ เพื่อเชื่อมโยงความรัก ความผูกพันของคนที่นี่ที่มีต่อระบบนิเวศหาดสมิหลา และนำเสนอผลงานอนุรักษ์ชายหาดนี้อย่างยั่งยืน


ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ถูกถ่ายทอดผ่านงาน "The World Beach Day แลเล แลหาด" ครั้งที่ 6 ที่ห้องประชุมสกายรูม โรงแรมวีว่า จังหวัดสงขลา ภายใต้โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา เมื่อเร็วๆ นี้ สนับสนุนโดยมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และช่วงค่ำได้มีการจัดนิทรรศการชุด "พลเมืองสงขลา กับอนาคตหาดสมิหลา" ณ โรงสีแดง (หับ โห้ หิ้น) จ.สงขลา พร้อมด้วยการจัดเสวนาในหัวข้อ "รักษาหาดทรายอย่างไรให้ยั่งยืน" โดยมีนายอนุชิต ตระกูลมุทุตา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เกียรติเป็นประธานจัดงาน


อาจารย์พรรณิภา โสตถิพันธุ์ ผู้อำนวยการสงขลาฟอรั่ม กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ถือว่าเป็น 1 ใน 72 โครงการ ซึ่งกลุ่มบีชฟอร์ไลฟ์ได้ทำงานการศึกษาหาดสมิหลาทั้งระบบแบบเอาจริงเอาจังต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจจุบัน ซึ่งโครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลาเน้นให้เด็กมีส่วนร่วมกับบ้านเกิดหรือชุมชนอย่างมีชีวิตจริง กระบวนการที่มีส่วนร่วมของเด็กที่จะมีต่อบ้านเกิดนั้นเกิดจากการเรียนรู้และปฏิบัติจริง โดยให้เด็กเลือกเองว่าเด็กอยากจะเปลี่ยนแปลงหรืออยากจะพัฒนาสิ่งใดในบ้านเกิดของเขา


เยาวชนสงขลาต้นแบบพลเมือง - รักษาหาดสมิหลา thaihealth


สำหรับกลุ่มบีชฟอร์ไลฟ์ เขาเลือกหาดสมิหลาเป็นห้องเรียนและห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ จากการปลูกฝังในเรื่องของจิตสำนึกพลเมืองและเรื่องการมีส่วนร่วม และได้นักวิชาการคือ ดร.สมปรารถนา ฤทธิ์พริ้ง อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน) ที่มีความรู้ด้านทรัพยากรชายฝั่ง ได้ถ่ายทอดสู่การปฏิบัติการจริงไปพร้อมๆ กับเด็กๆ กลุ่มนี้มาถึง 4 ปีแล้ว การทำงานเพื่อส่วนรวมไม่ได้ทำแค่ความรู้สึกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีเหตุผลทางวิชาการ และมีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้จากสิ่งที่ได้ปฏิบัติจริงด้วย


ในวงการการศึกษาเราก็ต้องการให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาส ได้สัมผัสกับการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง คิดว่าโมเดลที่เด็กนำเสนอจะได้ขยายไปสู่กลุ่มอื่นๆ ที่มีหาดทราย ชายทะเลอยู่ข้างบ้าน


"ประเทศไทยเรามีชายฝั่งอยู่เกือบ 3 พันกิโลเมตร มี 23 จังหวัดที่มีชายฝั่งและชายหาด แต่องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับหาด คนไทยยังรู้น้อยมาก เราคิดว่าถ้าหน้ามรสุม หาดพัง ก็คงเอาเขื่อน เอาของแข็งมาลงเท่านั้น เราไม่มีทางเลือกอื่นเลย เพราะเรายังขาดองค์ความรู้ในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น การเริ่มต้นของกลุ่มนี้ถือว่าเป็นการบุกเบิกและเป็นการสร้างสรรค์ที่ช่วยเหลือเกื้อกูล ปกปักรักษาหาดทรายของประเทศไทยให้อยู่คู่กับประเทศไทยได้"


ผู้อำนวยการสงขลาฟอรั่มกล่าว และว่า สำหรับปัญหาที่หาดสมิหลาเผชิญอยู่ในขณะนี้คือ การกัดเซาะชายฝั่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีความรุนแรงในเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ มีความพยายามในการปกป้องชายหาดตั้งแต่ปี 2545 ถึงปัจจุบัน


ในโครงการนี้ได้สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของเยาวชนท้องถิ่นในการติดตามการเปลี่ยนแปลงชายหาด โดยมีพื้นที่ศึกษาตามแนวชายฝั่งระยะประมาณ 7.8 กิโลเมตร ด้านเหนือของแหลมสนอ่อน จรดโครงสร้างเขื่อนสันทราย และคลื่นปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา แต่เยาวชนต้องมีองค์ความรู้และอุปกรณ์ที่ใช้ในการสำรวจ ซึ่ง ดร.สมปรารถนา ฤทธิ์พริ้ง ในฐานะที่ปรึกษา ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ตรวจวัดรูปตัดชายหาดอย่างง่าย มีราคาถูกและสามารถหาได้ในท้องถิ่น เพื่อให้อาสาสมัครที่เป็นเยาวชนสามารถเข้าใจและใช้งานได้อย่างถูกต้อง โดยดัดแปลงมาจากหลักการ Water Level Method


กลุ่มเยาวชนกลุ่มบีฟฟอร์ไลฟ์ ประกอบด้วย น.ส.พิชญา อักษรช (เป้), น.ส.เพรซเชิซ เอเบลเล อีเลคชุคภู (เกรซ), น.ส.จันทิรา ศรีรักษ์ (บีม), นายชนิน วงบุดดา (เอฟ), น.ส.ธันวา สิทธิพันธุ์ (กำไล), นายอนากร ศรีดำ (ขลุ่ย), นายอารัช ขวัญเจริญ (รัช) และผู้ร่วมก่อตั้ง นายอภิศักดิ์ ทัศนี (น้ำนิ่ง) ในเวทีนี้ เยาวชนได้ร่วมกันนำเสนอการผลสำรวจ ติดตามสภาพหาดสมิหลาทั้งระบบ ประจำปี 2558


เยาวชนสงขลาต้นแบบพลเมือง - รักษาหาดสมิหลา thaihealth


 โดยนายอภิศักดิ์ ทัศนี หรือน้ำนิ่ง ตัวแทนกลุ่มเยาวชนกลุ่มบีฟฟอร์ไลฟ์ สะท้อนข้อมูลที่เยาวชนร่วมกันจัดเก็บมีประโยชน์อย่างไรว่า ข้อมูลที่ได้มา มีอยู่ ใครใช้อะไร อย่างไร ตรงไหน ถึงแม้จะยังไม่ใช่ข้อมูลที่เก็บตามหลักวิชา แต่ก็สามารถทำให้เราเห็นภาพได้ว่า ถ้าต่อไปเราจะจัดโซนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่บริเวณหาดสมิหลา-ชลาทัศน์ ที่มีคนนั่งกินข้าว เล่นน้ำ ก่อกองทราย เราจะทำอะไร อย่างไรตรงนั้น เราจะจัดโซนอย่างไร หรือแม้กระทั่งพื้นที่แหลมสนอ่อนที่เป็นคนทอดแหตกปลา ไม่มีคนเข้าไปนั่งพักผ่อนมากนัก เราจะโซนนิงตรงนั้นให้มีการใช้ประโยชน์ที่สอดคล้องกับพื้นที่ได้อย่างไรจากฐานข้อมูลที่เรามี อันนี้คิดว่าน่าจะเป็นขั้นต่อไป เพราะการจัดโซนนิงมันก็มีประโยชน์ในการดูแลชายหาดสมิหลาของเราได้


น.ส.จันทิรา ศรีรักษ์ (บีม) น้องใหม่ล่าสุด ตัวแทนกลุ่ม ร่วมสะท้อนการเรียนรู้ว่า เริ่มจากไปวัดชายหาด สิ่งที่ได้จะได้ความรู้ เวลาที่เราขับรถผ่าน เราก็จะเห็นหาดที่มีคนไปเล่นน้ำตรงนั้น มันก็ยังใช้ได้อยู่ใช่หรือไม่ เราก็ไม่ได้มีความคิดว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงอะไร แต่พอเราได้ลงไปวัดหาดเอง ในมุมที่ไม่มีใครเห็น เช่น ป่าสน มันไม่เหมือนกับที่เราเห็นเลย ก็เลยได้รู้และมีจิตสำนึกว่า นี่บ้านเรา ทำไมเราไม่เริ่มทำอะไรหรือแก้ปัญหาเหล่านี้ จนเกิดแนวทางแก้ไขออกมา"


ในช่วงเย็นได้มีเวทีเสวนาในหัวข้อ "รักษาหาดทรายอย่างไรให้ยั่งยืน" โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ 1.ผศ.ดร.สมปรารถนา ฤทธิ์พริ้ง อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ บางเขน 2.คุณ สุภาพร มาลัยลอย ผู้จัดการมูลนิธิยุติธรรมสิ่งแวดล้อม หรือ EnLaw 3.คุณวัลลภ หมัดโส๊ะ อาสาสมัคร ร่วมด้วยแกนนำเยาวชน 4.นายอภิศักดิ์ ทัศนี (น้ำนิ่ง) และอลิสา บินดุส๊ะ (น้ำฝน) โดยมีนายบัญชร วิเชียรศรี (แมน) ดำเนินรายการ


คุณสุภาพร มาลัยลอย ร่วมสะท้อนว่า อยากจะร่วมกับคนในพื้นที่ภาคใต้ในการที่จะทำอย่างไรที่จะปกป้องทรัพยากรธรรมชาตินี้ไว้ให้มันอยู่สวยงาม และชุมชนได้ใช้ประโยชน์ ไม่ใช่สวยงามแบบอนุรักษ์ ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่ชุมชนใช้ประโยชน์ได้ด้วย แล้วก็ไม่ใช่หยุดนิ่งเพียงแค่นั้น แต่การพัฒนาควรจะมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการที่ร่วมกันกำหนด และร่วมกันกำกับเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้วย


 คุณอลิสา บินดุส๊ะ (ฝน) สะท้อนว่า ฐานข้อมูลของหาดสมิหลาที่กลุ่มบีชฟอร์ไลฟ์ก็มีทำแล้ว คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดที่จะรักษาหาดให้มันยั่งยืนจริงๆ ประการต่อมาต้องทำให้คนสงขลาเข้าใจว่าหาดมันมีระบบอย่างไร และอยากเรียกร้องไปที่หน่วยงานราชการหรือองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องทำความเข้าใจกับหาดทั้งหมดด้วย เพราะหากทุกองคาพยพรับทราบตรงกันก็จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน


นี่คือหนึ่งตัวอย่างของการมีส่วนร่วมของพลังเยาวชน ซึ่งถือเป็นต้นแบบที่จะให้ทุกคนตื่นตัว และกลายเป็นพลเมืองเพื่อไปปกป้องทรัพยากรเริ่มจากใกล้ตัวเองก่อนต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code