เมื่อหนูมาหาคุณหมอฟันครั้งแรก

ต้องปรับทัศนคติ

เมื่อหนูมาหาคุณหมอฟันครั้งแรก

 

          คุณพ่อ คุณแม่หลายท่านคงเคยมีประสบการณ์ ในการพาลูกไปพบทันตแพทย์เป็นครั้งแรก  หรืออีกหลายๆ ท่านอาจกำลังคิดอยู่ว่าเมื่อไรจึงควรจะเริ่มพาลูกไปพบทันตแพทย์  และจะเลือกพบทันตแพทย์อย่างไร  หลายๆ ท่าน อาจไม่ทราบว่า  ทันตแพทย์สำหรับเด็ก เป็นสาขาความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่มีการรับรองโดยทันตแพทยสภาแห่งประเทศไทย  ซึ่งทันตแพทย์สำหรับเด็กต้องได้รับการฝึกฝนอบรมเพิ่มเติม เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการดูแลสุขภาพช่องปาก เข้าใจพัฒนาการและการใช้จิตวิทยาในการให้การรักษาและปรับพฤติกรรม รวมถึงประเมินการพัฒนาการของฟัน ช่องปาก และขากรรไกรของเด็กเล็กไปจนถึงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น  โดยอาจหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของชมรมทันตกรรมสำหรับเด็กแห่งประเทศไทย   

 

          ทำไมต้องมีทันตแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็ก ?

 

          งานทันตกรรมสำหรับเด็ก  นอกจากการให้การรักษา เช่น อุดฟัน รักษารากฟันเด็ก หรือการใส่ครอบฟัน   ยังรวมถึงการให้คำแนะนำแก่เด็กและครอบครัวในการป้องกันการเกิดโรคในช่องปาก โดยต้องมีการติดตามสุขสภาวะช่องปากและการพัฒนาของฟัน การเจริญเติบโตของใบหน้า และขากรรไกร ซึ่งเป็นการดูแลอย่างต่อเนื่อง  เป้าหมายที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ การปรับทัศนะคติของเด็กและครอบครัว ให้สามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้ด้วยตนเอง และมารับการตรวจฟันโดยทันตแพทย์ เป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ

 

          มาพบทันตแพทย์ครั้งแรกเป็นอย่างไร ?

 

          อาจเปรียบได้กับการไปโรงเรียน เป็นวันแรก การมาพบทันตแพทย์ครั้งแรกของเด็ก  จะเป็นการปูพื้นฐานการรักษาสุขภาพช่องปากที่ดีจนเป็นผู้ใหญ่  ทั้งนี้  คุณพ่อ คุณแม่จะมีบทบาทที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมของเด็ก  เช่น  การพูดคุยกับลูกให้มีทัศนะคติที่ดีในการมาพบทันตแพทย์  ผู้ปกครองควรเลือกพบทันตแพทย์ที่มีความคุ้นเคยในการดูแลเด็ก เพื่อให้เป็นประสบการณ์ที่ดีและได้รับข้อมูลการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะสม  เช่น การแปรงฟันที่ถูกวิธี  การใช้ยาสีฟันที่เหมาะสมสำหรับเด็ก การเลือกรับประทานอาหาร ของว่างหรือขนม และเครื่องดื่มที่ไม่ทำให้เกิดฟันผุ 

 

          ในครั้งแรกที่พบทันตแพทย์อาจเป็นเพียงการตรวจฟันโดยให้เด็กนอนบนตักผู้ปกครองเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย  จะเป็นการดีอย่างยิ่งที่ผู้ปกครองจะพาเด็กมาพบทันตแพทย์ก่อนจะเริ่มมีอาการปวดหากมีฟันผุแล้ว  ทันตแพทย์อาจเริ่มการรักษาจากงานที่ง่าย ใช้เวลาน้อยเพื่อปรับให้เด็กคุ้นเคยกับทันตแพทย์ บรรยากาศในห้องทำฟันและเครื่องมือทำฟันต่างๆ  รวมทั้งการอยู่บนเก้าอี้ทำฟัน  และเป็นการทำให้ทันตแพทย์ได้ทราบถึงบุคลิกภาพของเด็กและทัศนะของผู้ปกครอง  ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ทั้งครอบครัว เด็กและคุณหมอ  เพื่อให้การดูแลสุขภาพช่องปากของลูกสามารถทำได้เหมาะสมสำหรับแต่ละครอบครัว และควรมาพบทันตแพทย์ครั้งแรกหลังจากที่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน

 

          ในกรณีที่เด็กปรับตัวต่อการทำฟันยาก หรือมีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาทางทันตกรรมอย่างเร่งด่วน  ทันตแพทย์สำหรับเด็กอาจแนะนำให้ปรับพฤติกรรมทางเภสัชศาสตร์ เช่น การใช้ยาสงบประสาท  ก๊าซไนตรัสออกไซด์ร่วมกับการทำฟัน หรือการทำฟันภายใต้ยาสลบ  ซึ่งเป็นการรักษาที่ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และต้องทำงานร่วมกับบุคลากรการแพทย์อื่นๆ เช่น กุมารแพทย์  และวิสัญญีแพทย์  ในสถานพยาบาลที่มีเครื่องมือที่เหมาะสม  อย่างไรก็ตามการรักษาทางทันตกรรมโดยเภสัชศาสตร์  คงไม่ใช่ทางเลือกอันดับต้นๆ ของการรักษาทันตกรรมสำหรับเด็ก  เนื่องจากเป็นการรักษาที่ซับซ้อน และเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น

 

          ความสำเร็จในงานทางทันตกรรมสำหรับเด็ก มิได้จำกัดแต่เพียงรักษาโรคฟันผุจนเสร็จสิ้น สวยงาม  แต่รวมถึงการปรับทัศนคติของเด็กและผู้ปกครอง ให้สามารถดูสุขภาพช่องปากได้  และมารับการตรวจฟันโดยทันตแพทย์สำหรับเด็กเป็นประจำ  โดยมีเป้ามายให้เด็กและครอบครัวมีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง มีการพัฒนาการที่ดี  ซึ่งเป็นการลดการเจ็บป่วยของเด็ก ลดภาระของคุณพ่อ คุณแม่  และการสาธารณสุขของประเทศไทย

 

 

 

 

 

ที่มา : ทพญ.ดร. ปฏิมาพร  พึ่งชาญชัยกุล ภาควิชาทันตกรรมสำหรับเด็ก

          คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

 

 

 

 

Update : 21-10-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร

Shares:
QR Code :
QR Code