เมืองสิงห์บุรีต้นแบบสังคมสูงวัย
คุณภาพชีวิตดีขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติได้สำรวจข้อมูลประชากรไทยทั่วประเทศ พบว่าปัจจุบันมีผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปประมาณ 7.4 ล้านคน และคาดการณ์ว่าในปี 2573 จะเพิ่มเป็น 17.7 ล้านคน หมายความว่า ในอนาคตอีกไม่ใกล้ไม่ไกลนับจากนี้ สังคมไทยจะเข้าสู่ “สังคมของผู้สูงอายุ”อย่างเต็มรูปแบบ ในจำนวนผู้สูงอายุเหล่านี้เมื่อสำรวจเป็นรายจังหวัด พบว่า จ.สิงห์บุรี มีสัดส่วนของประชากรผู้สูงอายุมากที่สุดในประเทศ โดยเมื่อปี 2547 ร้อยละ 14.81 ปี2549 ร้อยละ 15.3 และปี 2552 ร้อยละ 16.2 ตามลำดับ
จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประกอบด้วยเทศบาลเมืองสิงห์บุรี เทศบาลตำบลทับยา เทศบาลตำบลถอนสมอองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โพประจักษ์ อบต.บ้านจ่าอบต.บ้านแป้ง และ อบต.ท่างาม จ.สิงห์บุรี กับมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุระดับท้องถิ่นใน จ.สิงห์บุรี เพราะแต่ละองค์กรเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพในอนาคต
การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุเน้นครอบคลุมงาน 5 ด้านได้แก่1.ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงระยะยาว2.พัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุด้านการเรียนรู้ มีงานทำ และมีรายได้3.พัฒนาศักยภาพเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนวัยสูงอายุ (กลุ่มคนวัยทำงานอายุ 50-59 ปี)4.จัด/ปรับอาคาร สถานที่ และสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ 5.จัดทำฐานข้อมูลผู้สูงอายุ(ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2553-วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556) ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นไปตามมติของสมัชชาผู้สูงอายุปี 2552
อย่างเช่นที่เทศบาลตำบลทับยา ซึ่งมีผู้สูงอายุประมาณ 700 คน ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก พ.อ.อ.สมศักดิ์ กลิ่นคง นายกเทศมนตรีทับยา บอกว่า เทศบาลได้ร่วมมือกับสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สิงห์บุรี และชุมชน ต.ทับยา จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ มีการออกตรวจสุขภาพคัดกรองโรค และทำกายภาพบำบัด ส่งเสริมให้ครอบครัวมีบทบาทหลักในการดูแลผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น พบปะสังสรรค์ออกกำลังกาย รวมถึงสร้างอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ผู้สูงอายุอย่างเหมาะสมเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุข
ขณะที่ น้ำทิพย์ โตสงัด นายก อบต.โพประจักษ์ บอกว่า อบต.โพประจักษ์ได้จัดโครงการสวัสดิการผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี 2546 โดยอาศัยความร่วมมือชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นรูปแบบการจัดสวัสดิการและการดูแลผู้สูงอายุที่หลากหลาย มีกิจกรรมดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง เช่น เชิญแพทย์พยาบาลไปตรวจรักษาสุขภาพผู้สูงอายุประจำทุกเดือน เพื่อคัดกรองโรค เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ และรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ขณะที่ สสจ.สิงห์บุรีเข้าไปอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ดูแลและส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุในหมู่บ้าน เช่น จัดกิจกรรมออกกำลังกายที่ลานกีฬาหมู่บ้านทุกเย็น ทำกายภาพบำบัด ส่วนกลางวัน ชวนผู้สูงอายุทำกิจกรรมส่งเสริมอาชีพเช่น ทำจักสาน ทอเสื่อ ทอพรม ทำดอกไม้จันทน์ นอกจากนี้ อบต.โพประจักษ์ยังมีการสำรวจหมู่บ้านที่ทรุดโทรม ไม่มั่นคง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุ ก็จะเข้าไปซ่อมแซมให้
สมศักดิ์ มุกทอง ประธานชมรมผู้สูงอายุรพ.ท่าช้าง ต.โพประจักษ์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ผู้สูงอายุจำนวนมากอยู่ในภาวะยากลำบาก ขาดที่พึ่ง เพราะไร้ลูกหลานดูแล อีกทั้งสวัสดิการของรัฐยังกระจายไม่ทั่วถึง และไม่ตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ แต่หลังจากมีโครงการนี้ทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสังคม
วันนี้ ใน จ.สิงห์บุรี แทบไม่มีผู้สูงอายุที่อยู่อย่างยากลำบาก หรือไร้การดูแล เพราะทุกคนในหมู่บ้านเริ่มเห็นถึงความสำคัญ และช่วยดูแลซึ่งกันและกัน ต้นแบบดีๆ เช่นนี้ หากทุกจังหวัดจะนำไปเป็นตัวอย่างและจัดการในพื้นที่ก็คงดีมิใช่น้อย
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
update: 30-08-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ