เพลงข้ามทะเลลำพูสู่เกาะกูด
กิจกรรมสร้างรอยยิ้ม ความสนุกสนาน ประทับใจตั้งแต่แรกเจอ
“เด็กบางคนยังไม่รู้จักเครื่องดนตรีด้วยซ้ำไป””ผมอยากให้หน่วยงานภายนอก ใครก็ได้เข้ามาทำกิจกรรมกับเด็กๆ ไม่ต้องมาบริจาคสิ่งของให้พวกเราก็ได้ แต่ให้มาทำกิจกรรมกับเด็กๆ ก็พอ พวกดนตรี ศิลปะต่างๆ หรือสอนเทคนิคการคิดเลขก็ได้ เพราะเด็กเหล่านี้ไม่เคยได้รับโอกาสอย่างนี้เลย ไม่รู้จักการทำความรู้จักกับบุคคลภายนอกด้วยซ้ำ”
คำบอกเล่าของผอ.โรงเรียนบ้านอ่าวพร้าว 1 ใน 2 ของครูทั้งหมดในโรงเรียนที่ต้องสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นป.1-ป.6 และอาจนับได้ว่าโรงเรียนบ้านอ่าวพร้าว ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลเกาะกูดกิ่งอำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด เป็นโรงเรียนสุดท้ายชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย
ชมรมเกสรลำพู คือกลุ่มเยาวชนในย่านบางลำพูที่มีจิตอาสา สนใจเข้าไปสร้างกิจกรรมให้กับน้องๆ เหล่านี้ เพื่อหวังให้เด็กๆ รู้ซึ้งถึงดนตรีที่ไม่ใช่แค่ตัวโน้ต แต่ดนตรีสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของชีวิต เปลี่ยนแปลงชุมชน จึงคิดโครงการ “ส่งเสียงเพลงข้ามทะเลเทความสุขให้น้อง”ภายใต้โครงการ “ดนตรีสร้างสุข ปี 3 ดนตรีเพื่อการเปลี่ยนแปลง”โดยการสนับสนุนจากแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกเพื่อสื่อศิลปวัฒนธรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์(สสส.) และธนาคารออมสิน
การเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง จากรถสู่เรือข้ามเกาะ ก่อนจะเดินเท้ากันต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่โรงเรียนบ้านอ่าวพร้าว โรงเรียนระดับประถมศึกษาที่ก่อตั้งมาเพียง 10 ปี ปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 40 คน มีครู 2 คน
พี่และน้องทำความรู้จักหลังแรกพบกัน ผ่านกิจกรรมเรียกรอยยิ้มและความสนุกสนานความประทับใจแรกที่น้องๆ มอบให้พี่ๆ เต็มไปด้วยความสุข
เมื่อพี่และน้องรวมหัวใจเป็นหนึ่งเดียว พี่ๆเริ่มสอนให้น้องๆ รู้จักรักษ์ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ด้วยการเก็บขยะรอบโรงเรียน ชุมชนริมทะเล รอบบ้านของตนเอง ก่อนจะชักชวนกันทำเครื่องดนตรีจากวัสดุเหลือใช้ใกล้ตัว
เพียงไม่นาน เสียงเขย่า เสียงเคาะตามจังหวะเพลงจากมือน้อยๆ ก็เริ่มขึ้น เคล้าคลอไปกับเสียงเพลง
น้องๆ ต่างภูมิใจในฝีมือของตน ที่สำคัญได้เรียนรู้ว่าขยะที่ไร้ค่ารอบเกาะซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของตนเอง แปรเปลี่ยนเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นมา
เช้าวันรุ่งขึ้น น้องๆ ต่างเดินทางมาโรงเรียนพร้อมกระเป๋าสัมภาระเพื่อมาเข้าค่ายใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน คำทักทายเสียงใสดังขึ้นไม่ขาดสายนับตั้งแต่นักสำรวจตัวน้อยเดินเข้ามา”สวัสดีค่ะ””สวัสดีครับ พี่” พร้อมรอยยิ้มใส ก่อนเริ่มต้นกิจกรรมค่ายในแต่ละฐานที่ให้น้องๆ หมุนเวียนกันเรียนรู้ จากฐานพยาบาลเบื้องต้น สู่ฐานการยังชีพและฐานอื่นๆ อีกมากมาย
ต่อด้วยกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์รักษ์สิ่งแวดล้อมปลูกป่าชายเลน มือน้อยๆ เตรียมต้นกล้าไม้ไว้ปลูกลงดินร่วมกัน
เด็กน้อยชาวเกาะกระโดดลงน้ำ ลงมือปลูกต้นไม้ของตนอย่างขะมักเขม้น ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนาน มิตรภาพและความผูกพันระหว่างพี่กับน้องผลิบาน
นอกจากกิจกรรมแล้ว พี่ๆ ยังสนับสนุนสิ่งที่โรงเรียนต้องการเพื่อเกิดประโยชน์ อาทิ การสนับสนุนสร้างบันไดขึ้นชั้นเรียนในโรงเรียนการมอบชุดอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์การเรียน เพื่อสร้างพัฒนาการแก่เด็กนักเรียน
ฟ้าเริ่มมืด พี่ๆ น้องๆ ล้อมรอบเป็นวงเพื่อร่วมกิจกรรมยามค่ำคืนภายใต้แสงเทียนอันอบอุ่นที่มีพ่อแม่และพี่น้องคนในชุมชนมาร่วม น้องๆแต่ละคนต่างแสดงความสามารถกันเต็มที่ เรียกเสียงหัวเราะดังลั่น สลับกับบรรยากาศซึ้งๆ จากเสียงกีตาร์ใสๆ ฝีมือพี่ๆ
ก่อนที่พี่ๆ จะข้ามเกาะกลับกรุง คุณครูและน้องๆ ฝากความประทับใจมาถึงกัน
“ผมเป็นครูสอนหนังสือที่นี่มากว่า 10 ปีแล้ว ไม่ค่อยมีใครสนใจมาทำกิจกรรมให้เด็กๆ เหล่านี้ ยอมรับว่าเด็กเหล่านี้เป็นเด็กด้อยโอกาส การเดินทางมาทำกิจกรรมในครั้งนี้ เด็กๆ ที่นี่ดีใจมากๆ
การปิดทองหลังพระ แม้จะไม่มีใครเห็น แต่ถ้าเราปิดทุกวันๆ ก็จะมีคนเห็น นี่ไงครับ ได้ทำให้น้องๆ จากชมรมเกสรลำพูมาสร้างกิจกรรมให้กับพวกเรา” คุณครูสมัคร์ รู้รักดี หรือครูเอ๋กล่าว”ขอให้พวกพี่ๆ อย่าลืมพวกเราและโรงเรียนนี้ และถ้ามีโอกาสขอให้พี่ๆ มาสร้างความสุขให้กับเราอีกนะคะ”
“หนูขอบคุณพี่ๆ ทุกคนค่ะ ตั้งแต่หนูมาโรงเรียนนี้ได้มาเจอพวกพี่ๆ น่ารักมากเลยค่ะ ขอบคุณที่นำความสุข ความสนุกมาให้กับพวกเราครับ”
น้องใบเตย น้องโย่ น้องโก น้องตาล น้องเจน น้องดาวและน้องคนอื่นๆ กว่า 20 คน ร่วมบรรยายความรู้สึกที่แสนประทับใจในคืนวันนั้นก่อนเข้านอน
“โรงเรียนของหนู อยู่ไกลไกล๊ไกล อยากให้คุณๆ หันมอง….โรงเรียนของหนู”
บทเพลงจากเสียงร้องใสๆ เข้ากับเครื่องดนตรีธรรมชาติ ยังคงดังอยู่ในใจพี่ๆ
นับแต่ออกเดินทางจากเกาะกูด บ้านอ่าวพร้าว สู่บ้านบางลำพู
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
update : 18-05-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่