เป็นตะคริวบ่อยกลางดึก สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
ที่มา: นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 68 นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความให้ความรู้เรื่องสุขภาพผ่านเพจ “หมอเจด” โดยกล่าวถึงอาการ “ตะคริวกลางดึก” ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งขณะนอนหลับ ออกกำลังกาย เดินนาน หรือนั่งทำงานต่อเนื่องนานเกินไป
นพ.เจษฎ์ ระบุว่า สาเหตุหลักมาจากกล้ามเนื้อหดตัวแรงเกินไปและคลายไม่ออก ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังขาดสมดุลของน้ำ เกลือแร่ และพลังงานที่ใช้ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ พร้อมแจกแจง 5 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดตะคริว ได้แก่
1️⃣ กล้ามเนื้อทำงานหนักหรือเกร็งค้างนานเกินไป – พบได้ในผู้ที่ออกกำลังกายหรือเดินมาก แต่ไม่ยืดเหยียดกล้ามเนื้อหรือนอนพักเพียงพอ ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อสูญเสียพลังงานและเกลือแร่ จนเกิดการเกร็งแน่นเฉียบพลัน
2️⃣ ดื่มน้ำน้อย เหงื่อออกมาก – น้ำในร่างกายมีบทบาทสำคัญในการส่งสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ เมื่อร่างกายขาดน้ำและแร่ธาตุ เช่น โซเดียมและโพแทสเซียม สมดุลจะเสีย ส่งผลให้เกิดตะคริวได้ง่าย
3️⃣ ขาดแร่ธาตุสำคัญ โดยเฉพาะแมกนีเซียม – แมกนีเซียมช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่วนแคลเซียมช่วยให้หดตัว หากขาดแมกนีเซียม กล้ามเนื้อจะหดแต่คลายไม่ออก จึงมักเกิดตะคริวขณะนอนกลางคืน
4️⃣ อยู่ในท่าเดิมนานเกินไป เช่น กลั้นปัสสาวะ ยืนนาน หรือนั่งนาน – ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี กล้ามเนื้อขาดออกซิเจนและปล่อยกรดแลคติกออกมา ส่งผลให้เกิดอาการปวดเกร็ง
นอกจากนี้ หมอเจษฎ์ยังชี้ว่า ผู้ที่มักเป็นตะคริวตอนกลางคืน มักเกิดจากการที่กล้ามเนื้อลดการเคลื่อนไหว เลือดไหลเวียนช้าลง อีกทั้งอุณหภูมิร่างกายที่ลดลงในเวลากลางคืนทำให้กล้ามเนื้อเกร็งง่ายขึ้น
นพ.เจษฎ์ แนะนำแนวทางป้องกันว่า ควรเริ่มจากการดูแลตัวเองในเรื่องง่าย ๆ เช่น ดื่มน้ำให้เพียงพอ ยืดกล้ามเนื้อก่อนนอน พักผ่อนให้เพียงพอ เสริมแร่ธาตุจำเป็นอย่างแมกนีเซียม ซึ่งช่วยคลายกล้ามเนื้อและส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท พร้อมทิ้งท้ายว่า “เพียงเราใส่ใจเล็ก ๆ ในทุกวัน ไม่ปล่อยให้ความเหนื่อยล้ากลายเป็นเรื่องปกติ ร่างกายก็จะตอบแทนด้วยสุขภาพที่ดีขึ้น”
