เปิดใจสองแชมป์ “นักสื่อสารสุขภาวะรุ่นใหม่” ชวนเยาวชนไทยเซย์โนบุหรี่ไฟฟ้า

ข้อมูลจาก : งานแถลงข่าว “World Kidney Day ถ้ารักไต อย่าให้ไตวาย”
ภาพโดย พงศ์ศุลี จีระวัฒนรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ

                    โครงการ Design Hero 2024 : OK (E) CIGARETTES ? Wake Up and Understand the Hazards of Vaping and E-Cigarettes ภายใต้โครงการรู้เท่าทันสื่อ รู้เท่าทันสุขภาวะ โดยสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในการปลุกพลังเยาวชนให้ลุกขึ้นมาเป็นนักสื่อสารสุขภาวะรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในประเด็นที่กำลังเป็นภัยคุกคามอย่างบุหรี่ไฟฟ้า

                    จากผู้สมัคร 472 ทีมทั่วประเทศ โครงการได้คัดเลือกและสนับสนุนจนเหลือ 15 ทีม และในที่สุดก็มี 4 ทีมที่โดดเด่นจนได้รับรางวัลชนะเลิศ

                    มาฟังเรื่องราวและมุมมอง ของสองทีมแชมป์ที่สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจ นั่นคือ ทีม Lost Sock และทีม JT

ทีม JT : สื่อสารอย่างสร้างสรรค์ เข้าใจง่าย และเข้าถึงใจวัยรุ่น

                    ทีม Lost Sock มาพร้อมกับแนวคิดการออกแบบสื่อที่เน้นความสร้างสรรค์ เข้าใจง่าย และเข้าถึงใจกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นผ่านการเลือกใช้ภาษาและรูปแบบการนำเสนอที่สนุกสนาน มีชีวิตชีวา และไม่ยัดเยียด ทำให้ผลงานของพวกเขาสามารถดึงดูดความสนใจและสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                    “พวกเราเห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวมาก มีเพื่อนๆ หลายคนลองสูบเพราะความเข้าใจผิดหรือไม่รู้ถึงอันตรายที่แท้จริง เลยอยากใช้ความสามารถของเรา นั่นคือการแต่งเพลงแร็พ และการทำคลิปสั้นมาเป็นสื่อในการสื่อสารเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม”

                    พีรกานต์ อุทัยเลิศ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล หนึ่งในสมาชิกของทีมเล่าถึงที่มาของการเข้าร่วมโครงการนี้

                    โดยเขาและ อิทธิพล ศรีกำแหง เพื่อนอีกหนึ่งคนจากคณะเดียวกันร่วมกันผลิตผลงาน “ศิลปินปลอดควัน” เป็นคลิปสั้น ผสมการเล่าเรื่องผ่านเพลงแร็พจำนวน 3 ตอน 3 เรื่องราวที่ถ่ายทอดให้เห็นพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้าในแง่มุมต่าง ๆ

                    พีรกานต์เล่าถึงผลงานของเขาว่า “เนื้อหาในพาร์ทแรกผมจะเชื่อมโยงจากเรื่องราวที่เราเคยเห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีผลกระทบต่อคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่สาธารณะ  เหตุการณ์ที่ 2 เราต้องการสื่อว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้ส่งผลกระทบกับคนที่สูบเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อคนและสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น สัตว์เลี้ยง เราก็เลยนึกถึงแมว เพราะถูกเลี้ยงให้ห้องแคบ ๆ อีกส่วนของการนำเสนอ คืออยากบอกให้สังคมรู้ว่าปัจจุบันไม่ใช่แค่ผู้ชายที่สูบ แต่ผู้หญิงก็สูบได้ ส่วนเหตุการณ์ที่ 3 เป็นการสื่อถึงพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้าว่ามีผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร”

                    ซึ่งคอนเซ็ปต์ตอนแรก ไอเดียของพวกเขาคืออยากทำหนังสั้น แต่หลังจากได้เข้าร่วมเวิร์คช็อปในโครงการ Design Hero 2024 มุมมองพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไป

                    นอกจากการถ่ายคลิป คิดคอนเส็ปท์ ด้วยตัวเองทั้งหมดแล้ว ทั้งสองยังรับผิดชอบในส่วนของเพลงแร๊พด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดจากความชอบส่วนตัวของพวกเขา ทั้งสองมีความฝันว่าในอนาคตอยากเป็นศิลปินเพลงแร็พและกำกับมิวสิควิดีโอของตัวเองได้

                     “ทั้งเนื้อร้องและดนตรีเป็นสิ่งที่เราทํากันใหม่หมดเลย เพื่อให้คนสนใจเราเลือกใส่ทํานองที่ค่อนข้างติดหูหน่อย”

                    ส่วนที่มาว่า ทำไมผลงานถึงต้องชื่อว่า “ศิลปินปลอดควัน” อิทธิพลเผยแนวคิดว่า เกิดจากไอเดียที่อยากให้คนเห็นว่า การจะเป็นศิลปินนั้นสามารถสร้างผลงานที่ดี หรือมีชื่อเสียงได้ โดยไม่จำเป็นต้องสูบบุหรี่

                    “บางคนมองว่าอยากเท่ต้องสูบบุรี่ แต่ผมมองว่า มันไม่เกี่ยวเลย อยู่ที่แต่ละคน อย่างศิลปินหลายคนที่ผมชื่นชอบรู้จักเขาก็เท่ได้ โดยไม่ต้องสูบบุหรี่ อย่าง เดอะทอย เขาสามารถแต่งเพลงได้ ร้องเพลงโดยไม่ต้องสูบบุหรี่ เพราะฉะนั้นบุหรี่ไม่จำเป็น อยู่ที่ผลงานมากกว่า เราอยากเปลี่ยนค่านิยมตรงจุดนี้” อิทธิพล กล่าว

                    ซึ่งทั้งสองเผยว่า แม้เขาไม่มีประสบการณ์เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าโดยตรง แต่ก็ตระหนักถึงอันตรายบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังทำร้ายคนรอบตัวพวกเขา “พวกผมไม่ได้สูบเอง แต่เพื่อน ๆ คนใกล้ตัวก็มีบ้างเขาสูบ  เราพอรู้ว่ามันมีอันตรายต่อสุขภาพ เราก็คอยเตือนเขาตลอด แต่บางคนเขาก็ยังไม่เลิก แต่ผมสองคนไม่คิดสูบแน่นอนครับ ยิ่งมาทำโครงการนี้เราได้รู้ถึงอันตราย ยิ่งรู้สึกว่าไม่คิดอยากลองสูบเลย”

                    เมื่อถามถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัล ทีม Lost Sock กล่าวว่า “รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ผลงานของเราได้รับการยอมรับ มองว่าเป็นอะไรที่สร้างจุดเปลี่ยน สร้างกําลังใจให้เรา ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต และเป็นครั้งแรกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ให้เยาวชนห่างไกลจากบุหรี่ไฟฟ้า  ก็ทําให้รู้สึกว่าอยากทํางานแบบนี้ต่อไป

ทีม Lost Sock: นำเสนออย่างมีพลัง

                    Lost Sock  คือกลุ่มสาวน้อยวัยใส 3 คน ได้แก่ สิมิลัณ นฤภัย ณนิดา พิชวงศ์ และลสลิลทิพย์ ต.ไชยสุวรรณ จากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่ เจ้าของแชมป์ The Best of T-Shirt Design

                    พวกเธอโดดเด่นด้วยการนำเสนอข้อมูลที่แน่น เนื้อหาชัดเจน และมีพลัง ซึ่งเกิดจากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างละเอียด เพื่อให้ผลงานของพวกเขามีความน่าเชื่อถือและสามารถสร้างผลกระทบต่อผู้รับสารได้อย่างแท้จริง

                    “บุหรี่ไฟฟ้าเข้ามามีมีอิทธิพลกับเด็กเยอะขึ้นค่ะ ก็เลยอยากจะทําให้เห็นว่า ปัญหานี้ทุกคนควรมีส่วนในความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่สถาบันครอบครัว แต่ทั้งสังคมทั้งโซเชียล หรือแม้แต่เพื่อน มองว่าทุกอย่างมีอิทธิพลที่จะทำให้เด็กสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้” ณนิดาหนึ่งในสมาชิกในทีมเล่าถึงแนวคิดในการออกแบบผลงาน

                    “ซึ่งคอนเส็ปท์ที่เราคิดไว้คืออยากจะให้มันเป็นการเล่าเรื่องพร้อมกับการตั้ง คําถามที่พวกเราอยากจะถาม

                    กลับไปหาสังคมว่าแบบนี้มันถูกต้องจริง ๆ แล้วใช่ไหม” สิมิลัณกล่าวเสริม “เรามองว่าการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับบุหรี่ไฟฟ้า เราเลยพยายามนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย เพื่อให้เยาวชนสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง” ลสลิลทิพย์ ร่วมขยายที่มา

                    “แต่นอกจากเราอยากบอกว่าบุหรี่มันไม่ดี เราก็พยายามทําความเข้าใจว่าคนที่สูบเขามีปัญหาหรือเหตุผลอะไรที่ทำให้เลือกสูบ ซึ่งตอนที่คิดคอนเส็ปท์ เราเองก็พยายามมองกลับไปถึงสาเหตุที่ทําไมเขาถึงหันมาสูบ เสร็จแล้วเรา ก็เลยมองว่า เออ บางทีคนที่สูบก็อาจมีเหตุผลที่เกิดจากความที่เขาเครียด เพราะบุหรี่มันใส่สารที่ช่วยทําให้สมองเราผ่อนคลาย แต่ความจริงแล้วมันมีวิธีที่ดีกว่านั้น เชื่อว่าถ้าเราเข้าใจถึงที่มาปัญหาของเขาเราก็อาจจะมีทางเลือกอื่นให้เขาแทนการหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้ค่ะ”

                    ซึ่งทีม Lost Sock ได้นำเสนอเรื่องราวที่สร้างความตระหนักถึงอันตรายบุหรี่ไฟฟ้า ด้วยการสื่อสารผ่านภาพวาดกราฟิกดีไซน์รูปปอดหน้าตาทะมึน เข้มข้นในแนวสตรีทสไตล์ โดยหลายคนอาจมองว่ามีความน่ากลัว ดูหม่นหมอง ทั้งนี้เพื่ออยากให้เป็นสิ่งที่สะท้อนถึง “พิษภัย” ด้านสุขภาพที่ได้รับจากบุหรี่

                    “ผลงานของเรา หลายคนอาจมองว่า มันดูดาร์กน่ากลัว หนูอยากให้มันสื่อสารผ่านลายเส้นว่าบุหรี่ไฟฟ้ามันน่ากลัวด้วยค่ะ”

                    “อีกอย่างหนึ่งคืออยากจะเจาะถึงประเด็นเรื่องนายทุน กระบวนการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งในไทยเราก็รู้กันอยู่แล้วว่ามันผิดกฎหมาย แต่ว่าเขายังเลือกที่จะมาทําอาชีพนี้แล้วขายออกมาให้คนให้เด็กเยาวชน แถมพยายามทำให้ล่อใจ เช่นแต่งกลิ่น ซึ่งพอเข้าโครงการนี้ เราได้ฟังข้อมูลว่ามันมีถึง 3,000-5,000 กลิ่น หนูตกใจเลยทีเดียว กลิ่นน้ำหอมยังไม่เยอะขนาดนี้เลย”

                    “ที่จริงก่อนมาเข้าโครงการ เราไม่ได้เรามีความรู้เรื่องบุหรี่ไฟฟ้าหนูยังไม่รู้ด้วยว่าทอยพ็อทคืออะไร เพิ่งได้ยินครั้งแรก พอมาเวิร์คช็อป เราก็โอ้โหเลย ได้รู้มากขึ้น มันไม่ใช่แค่นิโคตินแล้ว แต่ยังมีสารอื่นอีกสารพัด เป็นธุรกิจที่ถูกพัฒนาสร้างสรรค์ในทางที่ผิดไปหน่อยคะ เขาอยากจะได้เงิน แต่เขาหากินกับเด็ก โดยทำให้เข้าถึงได้ง่าย”

                    ทุกคนในทีมมีความเห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัย และไม่ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้จริง และมองว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่อันตรายและมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักสูบหน้าใหม่ โดยเฉพาะเยาวชน

                    “พวกหนูก็จะเป็นหนึ่งกระบอกเสียงของการรณรงค์ในเรื่องของการไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เราอยากให้มันลดลงในสังคมไทยมากขึ้น” สิมิลัณเอ่ยแทนเพื่อน ๆ

Design Hero 2024: ปั้นนักสื่อสารสุขภาวะรุ่นใหม่ ปกป้องเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า

                    โครงการ Design Hero 2024 มีเป้าหมายหลักในการสร้างนักสื่อสารสุขภาวะรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ และความกล้าที่จะลุกขึ้นมาสื่อสารประเด็นสุขภาพในสังคม โดยเฉพาะประเด็นบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังเป็นภัยคุกคามต่อเยาวชน

                    ด้าน ญาณี รัชต์บริรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส. กล่าวถึงปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีความน่ากังวล เพราะกำลังเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ผลิตและผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้า

                    “จะเห็นว่าการซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่ในความเป็นจริงกลับพบการซื้อขายกันในโซเชียลมีเดียอย่างอิสระเลย ทำให้เข้าถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนง่ายมาก ซึ่งปัจจุบันเราพบว่ามีคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น แต่หากโฟกัสมาฉพาะเด็กเยาวชน วัย 15 ถึง 24 ปี เราพบว่าประมาณ 24,000 คน ที่ติดบุหรี่ไฟฟ้าสูบบุหรี่ไฟฟ้า”

                    ซึ่งจากการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์ของผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้า ญาณีเผยว่าคือการใช้กลยุทธ์แทรกซึมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และโซเชียลมีเดีย อีกด้านคือการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความเข้าถึงเด็กแบบกลมกลืน  ทำให้เด็กกว่า50% เข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะสารในบุหรี่ไฟฟ้ามีกว่า 200  ชนิดที่เป็นสารพิษ และยังมีเด็กอีกกว่า 61% ที่เข้าใจว่าเอาบุหรี่ไฟฟ้าเอาไว้ใช้ทดแทนเพื่อเลิกบุหรี่

                    “เรามองว่าเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก แม้แต่พ่อแม่ผู้ปกครองหรือโรงเรียนเองไม่เข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้ามันมีอันตราย เราจึงต้องพยายามรณรงค์ แล้วก็พัฒนาศักยภาพของเด็กเยาวชน ผ่านกลไก “นักสื่อสารสุขภาพ” ญาณี กล่าวต่อว่า

                    “ถามว่าทำไมเราต้องปั้นนักสื่อสารสุขภาวะเยาวชนกลุ่มนี้ เพราะเขาคือกลุ่มคนที่มีศักยภาพ ในแง่การเข้าถึง ความอินเทรนด์ทันสมัย การสื่อสารในภาษาวัยรุ่น หรือพูดคุยในภาษาเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยบอกต่อสื่อสารได้ หรือเด็กรุ่นใหม่ที่จะพูดภาษาเดียวกัน  ทำให้ดูไม่เป็นการยัดเยียดเขา  ดังนั้นโครงการนี้เป็นมากกว่าการประกวด แต่เป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้เป็นนักสื่อสารที่มีคุณภาพ สสส. เชื่อว่าพลังของเยาวชนจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้สังคมไทยเป็นสังคมปลอดบุหรี่ไฟฟ้า” ญาณีกล่าวเสริม

                    ไม่เพียงแต่เป็นเวทีในการประกวดผลงาน แต่ Design Hero 2024 ยังเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้ พัฒนาทักษะ และแสดงให้เห็นว่าเยาวชนมีพลังและความสามารถในการสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม และเป็นความหวังในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมปลอดบุหรี่ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน

Shares:
QR Code :
QR Code