เปิดโปง 6 บริษัทน้ำเมาตั้งสมาคมธุรกิจหาผลประโยชน์

ใช้กลยุทธ์สอนวิธีดื่มอย่างรับผิดชอบเพื่อหวังผลประโยชน์

              “ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา” เผย 6 บริษัทเหล้ายักษ์ใหญ่  ลงขันตั้งสมาคมบังหน้า  อ้างทำตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก  ที่แท้แค่กลุ่มลอบบี้ยิสต์ ใช้กลยุทธ์สอนวิธีดื่มอย่างรับผิดชอบเพื่อหวังผลประโยชน์

             นพ. ทักษพล ธรรมรังสี  ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.)  กล่าวถึงกรณีผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย 6 บริษัท จัดตั้งสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA)  ขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชีย เพื่อรณรงค์ให้คนไทยดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีความรับผิดชอบโดยอ้างว่าเป็นคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ว่า  สิ่งที่บริษัทเหล้าอ้างไม่เป็นความจริง องค์การอนามัยโลกไม่เคยแนะนำประเทศสมาชิก เพราะรายงานของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาแอลกอฮอล์ขององค์การอนามัยโลก ปี 2550 ระบุว่า มาตรการในลักษณะดังกล่าวไม่มีผลในการป้องกันปัญหาได้  และยังเตือนประเทศสมาชิกระมัดระวังบทบาทของอุตสาหกรรมสุราที่ต้องการขัดขวางการแก้ปัญหาในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  อีกทั้งงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์  ระบุว่า มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่หันมาดื่ม และดื่มมากขึ้นหลังมีการรณรงค์ ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมสุราเกิดความพึงพอใจตามที่ตั้งเป้าให้เยาวชนและประชาชนเกิดความคุ้นเคย ยอมรับการดื่มมากขึ้น เกิดค่านิยมว่าการดื่มเป็นเรื่องปกติ  เข้าใจผิดคิดว่าการดื่มสุราตามปริมาณถือว่าปลอดภัย

             “สุราเป็นสินค้าชนิดเดียวที่ผู้ประกอบการออกมารณรงค์ให้บริโภคอย่างรับผิดชอบ แต่ข้อมูลวิชาการกลับชี้ให้เห็นว่าการดื่มส่วนใหญ่ ผู้บริโภคดื่มเกินกว่าที่ตั้งใจไว้  จนทำให้ขาดสติ ไม่สามารถมีความรับผิดชอบได้ หากเปรียบเทียบคงเหมือนการขับรถแล้วมีคนมาตัดสายเบรก แล้วบอกให้ขับต่อไป ดังนั้นผู้กำหนดนโยบายคงต้องรู้ให้เท่าทันกลยุทธ์ของบริษัทเหล้า เพราะการตั้งสมาคมขึ้นมาก็เพื่อใช้ต่อรองนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะด้านภาษี แสดงให้เห็นว่าเป็นการตั้งสมาคมขึ้นมาเพื่อบังหน้า เพราะที่ผ่านมาอุตสาหกรรมสุราพยายามทำทุกช่องทางในการรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจรูปแบบใหม่ๆเสมอ ” นพ. ทักษพล กล่าว

            ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี  ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า  กล่าวว่า การที่บริษัทเหล้าสอนให้เยาวชนดื่มอย่างรับผิดชอบ แสดงว่าต้องการสอนให้เยาวชนประมาท และเป็นนักดื่มหน้าใหม่ให้เร็วขึ้น เห็นได้จากธุรกิจแอลกอฮอล์ พยายามเข้าไปให้ทุนตั้งชมรม “กลุ่มรักกันเตือนกัน” ในมหาวิทยาลัย เพื่อสอนให้เยาวชนดื่มอย่างมีสติ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องให้ผู้ใหญ่มาควบคุม ซึ่งเป็นเรื่องที่หลอกลวงทั้งสิ้น เพราะน้ำเมาเป็นสิ่งเสพติด ผิดกฎหมาย ทำร้ายสุขภาพ  เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งการตั้งสมาคมดังกล่าวถือเป็นการเพิ่มนักดื่มหน้าใหม่ที่อายุต่ำลงเรื่อยๆ

ที่มา: สำนักข่าว สสส.

Update: 15-02-53

อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร