เปิดตัวแอปฯ “Wheel-go-round” เพิ่มพื้นที่ชีวิตสำหรับผู้ใช้วีลแชร์

สสส. จับมือ 2 พันธมิตรใหญ่ “ไมโครซอฟท์-ททท.” เปิดตัวแอปพลิเคชั่น“Wheel-go-round” เพิ่มพื้นที่ชีวิตสำหรับผู้ใช้วีลแชร์

เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว Application “Wheel-go-round” ภายใต้ “โครงการเผยแพร่ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็น”  ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเยาวชนผู้จัดทำแอปพลิเคชั่น ได้แก่ น้องๆ จากทีม wheel-go-round และทีม Microsoft Student Partner (พัฒนาแอปพลิเคชั่น)

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ในปัจจุบันสังคมไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม การให้บริการ รวมทั้งการปรับด้านความเชื่อและทัศนคติ เรื่องความแตกต่างในกลุ่มประชากร สังคมทุกภาคส่วนเริ่มมีแนวคิดเรื่องการเปิดพื้นที่การให้บริการในด้านต่างๆ อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันในทุกกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุก็เช่นกัน ทุกคนต้องการความมีอิสระในการเดินทางและการใข้ชีวิตประจำวัน สสส. ก็เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ต้องการมีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมเพื่อลดช่องว่างและเสริมสร้างความเป็นธรรมทางด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ เพื่อให้มนุษย์ทุกคนมีสิทธิและสามารถเข้าถึงสิทธิในการดำรงชีวิตได้อย่างเป็นรูปธรรมและเท่าเทียม เข้าใจในความแตกต่างของบุคคล อันจะนำไปสู่สังคมแห่งเท่าเทียม (Inclusive society) ของคนทุกกลุ่ม

 “สำหรับโครงการเผยแพร่ข้อมูลสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ใช้รถเข็น (Wheel-go-round) สสส.ได้สนับสนุนโดยเล็งเห็นว่าโครงการนี้จะช่วยจุดประกายให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานที่ต่างๆ ให้เหมาะสมกับผู้ใช้วีลแชร์ รวมถึงสร้างความตระหนักแก่สังคมให้เห็นถึงความสำคัญของ “การมีพื้นที่” ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยปราศจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอุปสรรค” ทพ.กฤษดา กล่าว

นางสาวศิริพร พัชรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ มีความยินดีที่ได้สนับสนุนและเห็นการพัฒนาที่ก้าวไปอีกขั้นของน้องๆ กลุ่ม Wheel-go-round โดยไมโครซอฟท์ ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่ชื่อ Wheel-go-round บนโทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟน เพื่อให้ผู้ใช้วีลแชร์สามารถทราบและเข้าถึงข้อมูลการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก โดยผ่านการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ  ซึ่งนอกจากผู้ใช้วีลแชร์แล้ว ข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถนำเสนอไปสู่ยังกลุ่มคนที่กว้างขึ้นและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ทีม Microsoft Student Partners ยังได้อัพเดทเว็บไซต์ Wheel-Go- Round เพื่อให้ผู้ใช้รถเข็นสามารถทราบและเข้าถึงข้อมูลการใช้รถเข็นและสามารถเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น   นับเป็นการรวมพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ มาร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคมไทย”

 “กลุ่ม Wheel-go-round เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ได้ร่วมโครงการ Innovate For Good ภายใต้ YouthSpark ซึ่งไมโครซอฟท์ร่วมกับสภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (สอ.ดย.)  ซึ่งได้จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีเยาวชนกว่า 100 คน จากทั่วประเทศเข้าร่วมงาน  ในการเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างความแตกต่างที่ดีขึ้นให้เกิดขึ้นกับชุมชนของตนเอง” นางสาวศิริพร กล่าว

ด้านนางสาวลิปดา จารุเธียร ตัวแทนเยาวชนกลุ่ม Wheel-go-round กล่าวถึงที่มาของแอปพลิเคชั่นนี้ว่า ตนมีญาติที่ใช้วีลแชร์ จะพบปัญหาเรื่องการเดินทางอยู่บ่อยครั้ง จนได้มีโอกาสร่วมกับเพื่อน คิดค้นและต่อยอดปัญหาดังกล่าว ซึ่งการออกไปเรียนรู้ ไปสำรวจปัญหาจริงๆ เราได้ไปคุยกับกลุ่มผู้ใช้วีลแชร์ที่อยู่ศูนย์ดำรงชีวิตอิสระ กลุ่มนักกีฬาวีลแชร์ และกลุ่มผู้ใช้วีลแชร์ที่ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นประจำ ได้รับฟังและแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริง พบว่าส่วนใหญ่เค้าก็มักจะไปแต่ที่เดิมๆ ที่เคยไปมาแล้ว หรือการจะไปที่ใหม่ๆ แต่ละครั้งก็มักจะสอบถามเพื่อนๆ มนุษย์ล้อกันเอง ยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะออกไปเจอกับสภาพที่ไม่แน่นอนของสถานที่

 “ในส่วนของแอปพลิเคชั่น เราได้มีโอกาสมาเข้า workshop innovate4good ของไมโครซอฟท์ในช่วงแรกที่กำลังพัฒนา จุดอ่อนที่เห็นจากการทดลองจาก facebook (www.fb.com/wheelgoround) คือการหาและส่งต่อข้อมูลการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ ยังไม่มีประสิทธิภาพ เจนได้มีโอกาสรู้จักกับทีม Microsoft Student Partners โดยน้องๆ กลุ่มนี้ได้ช่วยเปิดมุมมองของเราให้กว้างขึ้น ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยในแต่ละขั้นตอนที่น้องๆทำมา เราได้นำไปให้ผู้ใช้วีลแชร์จริงๆทดลองใช้ เพื่อนำ feedback จากผู้ใช้งานจริงมาบอกต่อให้น้องๆได้ปรับปรุงแก้ไข จนได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้แอปพลิเคชั่นนี้”  นางสาวลิปดา กล่าว    

 

 

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code