เทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น
ต้นแบบการจัดงานประเพณีที่ส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมประจำถิ่น
เพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยแห่งแรกของไทย
นายปราโมทย์ สัจจรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มีนโยบายให้การจัดงานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด เป็นต้นแบบการจัดงานประเพณีที่ส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมประจำถิ่น เพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย โดยประกาศห้ามดื่ม ห้ามขายบริเวณงานไหมตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ถือเป็นการประกาศนโยบายเกี่ยวกับการจัดงานประเพณีวัฒนธรรมที่ปลอดภัยครั้งแรกของจังหวัดขอนแก่น หลังจากที่มีการจัดงานไหมมาแล้ว 59 ปี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. พร้อมหนุนให้เป็นต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานและสร้างคุณค่าประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามประจำถิ่นของคนขอนแก่น ให้ปลอดภัยจากเครื่องดื่มที่เป็นอันตราย เพราะที่ผ่านมางานประเพณีวัฒนธรรมของทุกจังหวัดในภาคอีสานรวมถึงงานไหม จะมีการดื่มและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท อาชญากรรม อุบัติเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต เป็นประจำทุกปี ทำให้ประชาชนที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ซึ่งมาพร้อมครอบครัวไม่ได้รับความปลอดภัย และกลัวจะเกิดเหตุอันตรายต่างๆจากการเที่ยวงาน นอกจากนี้คุณค่าของงานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามก็กำลังเสื่อมถอยลง งานกาชาดเป็นงานวิวาท งานบุญประเพณีอีสานเป็นงานกินเหล้า จนกลายเป็นงานเทศกาลท่องเที่ยวที่เสี่ยงภัยในปัจจุบัน
นายนิรุจน์ อุทธา ผอ.ศูนย์แก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคอีสานตอนบน กล่าวในประเด็นนี้ว่า ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ที่ตัดสินใจประกาศนโยบายนี้ สอดคล้องกับผลการสำรวจความเห็นของหน่วยงานราชการและประชาชนในจังหวัดขอนแก่น พบว่าเห็นด้วยที่จะให้งานไหมเป็นงานที่มีความปลอดภัย และไม่มีการดื่มขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเกิดการทะเลาะวิวาท 87.1% เห็นด้วยที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสินค้าที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อการเที่ยวงาน ร้อยละ 89.4% เห็นด้วยที่ไม่ควรรับการสนับสนุนจากบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 78.4% และเห็นด้วยที่รัฐบาลควรส่งเสริมการจัดงานประเพณีให้เป็นการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย 75.3%
ที่ผ่านมา งานท่องเที่ยวที่มีลักษณะเป็นงานประเพณีของแต่ละจังหวัด หรือที่เรียกว่างานกาชาดประจำปี กลายเป็นงานที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย บางพื้นที่กลายเป็นงานลานเบียร์ ซุ้มยาดอง แหล่งปะลองกำลังระหว่างคนเมากับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ชาวบ้านที่พาครอบครัวไปเที่ยวก็เดือดร้อน ส่วนมากจะเลี่ยงไปเที่ยวตอนกลางวันเพราะเหตุผลความไม่ปลอดภัย วัยรุ่นส่วนใหญ่ชอบเสี่ยงภัยก็ไปเที่ยวกลางคืน กลายเป็นเทศกาลแห่งการดื่ม เมาแล้วทะเลาะวิวาท บาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี จึงเห็นว่าเทศกาลงานประจำปีกลายเป็นเวทีแห่งการขาย การดื่ม และการเที่ยว แต่เป็นการท่องเที่ยวที่เสี่ยงต่ออันตราย นายนิรุจน์กล่าวและว่า
การจัดงานไหมปีที่ 60 จึงถือเป็นมิติใหม่ที่จะส่งเสริมและสร้างคุณค่าประเพณีไทย ให้ปลอดภัยจากเครื่องดื่มอันตราย เป็นต้นแบบการจัดงานประเพณีเพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย โดยอาศัยการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 24 (3) มาตรา 31 (3) มาตรา 39 , 40 , 41 และ 42 ประกอบกับอำนาจการปกครองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของทางราชการของผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ด้วย
มาตรการควบคุมการขายและดื่มบริเวณงานไหมปีนี้ นอกจากเน้นการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนแล้ว จังหวัดขอนแก่นยังได้แต่งตั้งคณะทำงานดูแลความปลอดภัยเพื่อเฝ้าระวังตลอดบริเวณงาน มีเครือข่ายเด็กเยาวชนร่วมรณรงค์และเฝ้าระวังการฝ่าฝืน และมีทีมเฉพาะกิจปราบแอลกอฮอล์ ดำเนินการจับปรับผู้ฝ่าฝืนที่ดื่มและขายบริเวณงานไหมอย่างจริงจัง รวมถึงการควบคุมลงโทษผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในงานไหมอย่างเด็ดขาดด้วย ทั้งนี้จะมีการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ ณ จุดอำนวยการหน่วยเฉพาะกิจปราบแอลกอฮอล์ (war room) เพื่อแถลงข่าวทุกวัน
สำหรับการประเมินผลนั้น มีหน่วยงานจากโรงพยาบาลขอนแก่น ประเมินผลกระทบด้านการบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท และอุบัติเหตุ เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะประเมินความคิดเห็นของประชาชนผู้มาร่วมงาน และรูปแบบการจัดงานในอนาคต และเครือข่ายงดเหล้าเยาวชนจังหวัดขอนแก่น จะประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากการจัดงานท่องเที่ยวที่ปลอดภัย เพื่อนำเสนอให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นต่อไป
ปีนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง พาครอบครัวไปเที่ยวงานไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ เป็นต้นแบบการจัดงานประเพณีที่ส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมประจำถิ่น เพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย ไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่เป็นอันตราย ประชาชนที่มาร่วมงานจะได้รับความสุข ความประทับใจ จากการเข้าชมวัฒนธรรมอันดีงาม ซื้อสินค้า อาหาร ชมการแสดงที่หลากหลาย และร่วมกิจกรรมเสี่ยงโชคช่วยกาชาด และที่สำคัญคือทุกคนจะได้รับความความปลอดภัยจากการเที่ยวงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ระหว่างวันที่ 29 พ.ย.- 10 ธ.ค. 52 จำนวน 12 วัน 12 คืน ณ บริเวณสนาม หน้าศาลากลาง จ. ขอนแก่น เพราะนี่คืองานท่องเที่ยวที่ปลอดภัยต้นแบบแห่งแรกของประเทศไทย นายนิรุจน์กล่าว
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
update 01-12-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด