เทคนิคคุยกับลูกวัยรุ่น
ที่มา : หนังสือเมื่อมีลูกสาววัยรุ่น
แฟ้มภาพ
เทคนิคต่อไปนี้จะใช้ไม่ได้ผล หากพ่อแม่ยังใช้อารมณ์และใช้ความคิดของตัวเองตัดสิน รวมไปถึงการแสดงอำนาจจนเคยชิน เช่น ข่มขุ่ ตำหนิใช้เสียงดัง เป็นต้น ดังนั้น พ่อแม่จึงต้องมีสติสำหรับการจัดการความรู้สึกตัวเองให้นิ่งและเป็นกลาง ก่อนพูดคุยกับลูกในทุกๆครั้งเสมอ
1.เริ่มต้นจากความเข้าใจ
พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจในอันดับแรกว่า เมื่อลูกเริ่มโตเข้าสู่วัยรุ่นจะมีอารมณ์ที่แปรปรวน ค่อนข้างรุนแรง ยากที่จะควบคุมอารมณ์ได้ จึงมีการถกเถียงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หากการสนทนาไม่เป็นดั่งใจ
2.เราคือเพื่อนสนิท
วัยรุ่นเป็นวัยที่ติดเพื่อน หากมีปัญหามักจะพูดคุยกับเพื่อนก่อนพ่อแม่ ให้ลองใช้วิธีสมมติว่าเราคือเพื่อนสนิท เปลี่ยนความห่วงใยมาเป็นนั่งคุยกันเล่นๆ ลูกก็จะค่อยๆกล้านำทุกเรื่องมาคุยมากขึ้น
3.เปลี่ยนจากผู้พูดเป็นผู้ฟัง
ลองสลับจากพูดก่อนมาเป็นฟังก่อนอย่างตั้งใจ เปิดหูรับฟังความรู้สึกและความคิดเห็นของลูก เพราะเมื่อพ่อแม่เข้าใจลูกจริงๆ ก็จะเป็นการปูทางการแก้ปัญหาต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.หลีกเลี่ยงการถามขึ้นต้นว่า “ทำไม”
เพราะวัยรุ่นจะพยายามหาเหตุผลเข้าข้างตนเองมากขึ้นเพื่อพยายามยืนยันว่าความคิดและการกระทำของเขาถูกต้อง เป็นการสอนให้เด็กเถียงแบบทางอ้อม แล้วพ่อแม่ก็จะโมโหเสียเอง ควรถาม ดังนี้ “พอจะบอกแม่ได้ไหมว่าลูกคิดอย่างไรก่อนที่จะทำอย่างนั้น” เป็นต้น
5.ใช้นำเสียงน่าฟัง
อย่าด่วนตำหนิ ว่ากล่าว ลงโทษก่อนที่ลูกจะพูดจบ พยายามสงบใจ ทำความเข้าใจ ให้โอกาส อย่าพูดขัด และสรุปประเด็นให้ตรงกัน โดยใช้น้ำเสียงที่น่าฟัง เพราะวัยรุ่นยังต้องการคำพูดที่อ่อนโยน ในการตักเตือนหรือชี้แนะในการปรับตัว
6.บรรยากาศคือผู้ช่วย
หากมีเรื่องสำคัญที่จะพูดคุยกับลูกไม่จำเป็นต้องจริงจัง เพราะอาจจะทำให้ลูกไม่ไว้ใจ ควรพูดคุยในท่าทีสบายๆโดยใช้บรรยากาศดีๆ ช่วยให้อารมณ์ของทุกคนผ่อนคลาย
7.หัดชื่นชมให้ชื่นใจ
วัยรุ่นต้องการชื่นชมในสิ่งที่เขารับผิดชอบได้หรือทำได้ ต้องการให้ปลอบใจและให้กำลังใจเมื่อทำสิ่งผิดพลาดหรือเกิดความท้อแท้ ต้องการความรักที่ให้อิสระและให้โอกาสเป็นส่วนตัว และยังต้องการความสะดวกในกิจวัตรประจำวันที่เกี่ยวกับการกินอยู่และค่าใช้จ่ายส่วนตัว