เตือนโรคหัดระบาด
ที่มา: ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
คร.เตือนพ่อแม่พาลูกแรกเกิด-4 ขวบ ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด เผย 5 ปีที่ผ่านมามีคนป่วยเพิ่มขึ้น 2 เท่า และมีแนวโน้มเกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ แค่ต้นเดือน ม.ค.ปีนี้ระบาดในภาคอีสานและภาคเหนือ ในเรือนจำ ค่ายทหาร แม้แต่ใน รพ.
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบ คุมโรค เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์ของโรคหัดในประเทศไทย พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556-2560) อัตราป่วยของโรคหัดสูงขึ้นถึง 2 เท่า โดยกลุ่มอายุแรกเกิด-4 ปี เป็นกลุ่มที่มีอัตราป่วยสูงสุด รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 15-24 ปี และมีแนวโน้มการเกิดโรคสูงใน ประชากรทั้ง 2 กลุ่มอายุ โดยในปี 2560 พบผู้ป่วยโรคหัด 2,938 ราย เฉพาะต้นเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อน 2 ครั้ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 23 ราย และภาคเหนือ 28 ราย นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยเป็นกลุ่มก้อนอีกจำนวนหนึ่งในเรือนจำ สถานที่ทำงาน ค่ายทหาร และโรงพยาบาล และคาดว่าสัปดาห์นี้จะพบผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูหนาว ซึ่งอากาศที่เย็นลงทำให้เสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า โรคหัดเป็นโรค ติดเชื้อที่สามารถติดต่อได้ ง่าย พบได้ทุกวัย แต่ที่พบ บ่อยคือในกลุ่มเด็กเล็ก โดยเฉพาะในสถานที่ที่เป็นพื้น ที่ปิดหรือผู้อาศัยร่วมบ้าน โรคหัดเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อ ไวรัส พบว่ามีอัตราการติด ต่อสูงถึงร้อยละ 90 ซึ่งสูงกว่าโรคไข้หวัดใหญ่ อาการที่พบบ่อยคือไข้ออกผื่น โดยมักมีอาการไข้ประมาณ 3 วัน แล้วจึงเริ่มมีผื่นสีแดงขึ้นตามตัว อาจมีอาการคัน ได้บ้าง โดยมักเริ่มขึ้นจากศีรษะ ก่อนที่จะขยายลงมา ที่ใบหน้า ลำตัว และแขนขา ตามลำดับ ในรายที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ไข้จะ ค่อยๆ ลดลง และผื่นก็จะค่อยๆ หายไป ผิวหนังบริเวณที่เป็นผื่นมากอาจจะลอกหรือเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้นได้ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ ได้แก่ ท้องเสีย หูชั้นกลางอักเสบ ไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ อาการชัก ซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งแบบที่มีไข้และไม่มีไข้ ไข้สมองอักเสบ และอาจเสียชีวิตได้
"กรมควบคุมโรคขอแนะนำว่า โรคหัดเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน โดยผู้ปกครองพา เด็กเล็กไปรับวัคซีนรวมป้อง กันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) ตามกำหนดให้ครบ 2 ครั้ง เมื่ออายุ 9-12 เดือน และ 2 ปีครึ่ง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย"