เตือนภัยฟาร์มหมู รับมือไวรัสหวัดสุกร
ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ เม็กซิโก บางส่วนสามารถยืนยันได้ว่า…มีการติดเชื้อไวรัสชนิด H1N1 ซึ่งมีลักษณะทางพันธุกรรมคล้ายคลึงกับเชื้อไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่ ที่พบระบาดในสุกร
ทำให้ผู้เลี้ยงสุกร ตลอดจนผู้สัมผัสเนื้อสุกรหลายคน มีหลายคำถามตามมา…โรคไข้หวัดสุกรคืออะไร? มีการระบาดได้อย่างไร? พบโรคนี้ได้บ่อยแค่ไหน?
ที่สำคัญ…คนสามารถติดโรคจากสุกรได้หรือไม่ และจะบริโภคเนื้อสุกรอย่างมั่นใจได้อย่างไร?
กลุ่มวิชาสัตวแพทย์สาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ให้ข้อมูลว่า โรคไข้หวัดสุกรเป็นโรคที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินหายใจ จะแสดงอาการไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร ไอ จาม มีน้ำมูก และจะหายป่วยอย่างรวดเร็วใน 5-7 วัน
โรคนี้มีอัตราการป่วยสูงเกือบถึง 100% มักไม่พบการตาย ถ้าไม่มีการติดเชื้อแทรกซ้อน
ปัญหามีว่า โรคไข้หวัดสุกร มีผลกระทบทางเศรษฐกิจต่ออุตสาหกรรมการผลิตสุกรค่อนข้างมาก เนื่องจากทำให้สุกรป่วยไม่เจริญเติบโต ต้องใช้ระยะเวลาขุนนานขึ้น กรณีสุกรตั้งท้องอาจเกิดการแท้งลูกได้
ถามถึงสาเหตุของการเกิดโรค…ไข้หวัดสุกรมาจากการติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ Type A ตระกูลออโธมิกโซไวริดี (Orthomyxoviridae)
ที่พบส่วนใหญ่เป็นชนิด H1N1 และ H3N2
แต่ในระยะหลัง เริ่มมีรายงานการตรวจพบ H1N1 ในประเทศต่างๆเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะมีการระบาดแทนสายพันธุ์ H1N1 และ H3N2
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นเชื้อไวรัสที่มีสารพันธุกรรมลักษณะเป็นท่อน จำนวน 8 ท่อน ทำให้มีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์ มีการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมระหว่างไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่มาจากมนุษย์ สัตว์ปีก และสุกรได้ง่าย
โดยที่สุกรทำหน้าที่เป็นตัวกลางการผสมระหว่างไวรัสของคน…สัตว์ปีก
ไวรัสสุกรมีตัวรับ (receptor) ที่ผิวเซลล์ที่เหมือนกับไวรัสของคน… สัตว์ปีก จึงทำให้สุกรสามารถติดไวรัสไข้หวัดใหญ่ในคนหรือสัตว์ปีกได้ และเพิ่มโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสในขณะที่อยู่ในตัวสุกรได้สูง
สภาวะโดยทั่วไป โรคไข้หวัดสุกรสามารถติดต่อระหว่างสุกรด้วยกันเอง จากน้ำมูก น้ำลาย ที่ติดเชื้อปะปนอยู่ในอากาศ อาหาร น้ำ แต่ไม่พบการติดต่อจากสุกรไปยังมนุษย์ หรืออาจพบได้บ้าง ในคนที่อยู่ใกล้ชิดกับสุกร…แต่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก
ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่า โรคไข้หวัดสุกรสามารถติดต่อสู่คนได้ทางการบริโภคเนื้อสุกรที่ติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม การบริโภคเนื้อสุกรปรุงสุกที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสก็สามารถแน่ใจได้ว่า…เนื้อสุกรปลอดจากเชื้อไวรัส
ฟาร์มสุกรใดยังมีความกังวล กรมปศุสัตว์ให้คำแนะนำเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร เพื่อป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดสุกรไว้ดังนี้…
ข้อแรก…จัดการระบบการเลี้ยงและการสุขาภิบาลให้ถูกสุขลักษณะ เช่น คอกสะอาด ไม่ชื้นแฉะ มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อยู่ในที่อากาศหนาว ร้อน หรือถูกฝนมากเกินไป
ข้อต่อมา…ให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ปีกในบริเวณเดียวกันกับที่เลี้ยงสุกร เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการรวมพันธุกรรมระหว่างเชื้อไวรัสไข้หวัดนก และไข้หวัดสุกร
ข้อที่สาม…แนะนำผู้เลี้ยงสุกรที่เป็นไข้หวัดให้หลีกเลี่ยงการเลี้ยงหรือสัมผัสสุกรในฟาร์ม
ข้อที่สี่…ให้เกษตรกรสังเกตอาการสัตว์ป่วยของสุกร หากแสดงอาการมีไข้ ซึม น้ำหนักลด หายใจลำบาก ไอ จาม น้ำมูกไหล ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์โดยเร็ว
ต้องย้ำว่า…ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกที่กำลังระบาดในปัจจุบัน เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบอยู่ในประเทศเม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา มีสาเหตุจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1
เริ่มระบาดครั้งแรกในประเทศเม็กซิโก จากคนสู่คน เรียกว่า…ไข้หวัด หมู เพราะเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุ เป็นเชื้อที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดหมู
สถานการณ์ล่า…พบว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 มีลักษณะทางพันธุกรรมที่ไม่เคยพบมาก่อน เป็นสายพันธุ์พิเศษที่มีสารพันธุกรรมในแบบที่พบทั้งในคน นก หมู
เชื่อว่า…เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีการกลายพันธุ์
ไวรัสกลายพันธุ์ ถึงจะเป็นเรื่องน่ากลัว แต่ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติที่ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ในคน
ศ.นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ประจำองค์การอนามัยโลก และประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ กล่าวไว้ว่า เชื้อที่เป็นสาเหตุของการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่แต่ละครั้งในอดีต ส่วนใหญ่เป็นเชื้อที่กลายพันธุ์มาจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสัตว์ เช่น เชื้อไข้หวัดนก
มักจะเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลกเป็นระยะๆ ทุกรอบ 10-30 ปี
คุณหมอประเสริฐ บอกว่า ไข้หวัดใหญ่ เคยระบาดรุนแรงไปทั่วโลกหลายครั้ง ครั้งที่รุนแรงที่สุดน่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) ในปี 2461 ปีสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเริ่มระบาดในยุโรป ก่อนที่จะขยายวงไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
“ในบางพื้นที่ ผู้คนป่วยกันทั้งหมู่บ้าน และตายเป็นใบไม้ร่วง”
ตามบันทึกในประวัติศาสตร์การแพทย์ โรคที่จัดว่าระบาดรุนแรงมีหลายโรค ซึ่งหากจะแยกระดับความรุนแรงของการระบาด อาจแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
ถ้าระบาดเฉพาะในท้องถิ่นอาจเป็นจังหวัดหรือประเทศ เรียกว่า Endemic เช่น ไข้กาฬหลังแอ่น ไข้จับสั่น หรือไทฟัส
ถ้าระบาดออกไปเป็นวงกว้างในระดับภูมิภาค หรือหลายๆประเทศ เรียกว่า Epidemic เช่น ไข้ทรพิษ อหิวาตกโรค
กรณีระบาดรุนแรง แพร่ไปทั่วโลก เรียกว่า Pandemic ซึ่งมีเพียงไม่กี่โรค และหนึ่งในจำนวนนั้น คือ ไข้หวัดใหญ่ (Influenza of Flu)
“ไข้หวัดใหญ่” เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส ที่เกิดได้รุนแรงและรวดเร็ว เมื่อผู้ป่วยไอ หรือจาม ก็จะปล่อยเชื้อไวรัสในละอองน้ำมูก น้ำลาย ล่องลอยในอากาศนับเป็นชั่วโมง รอเหยื่อรายใหม่ที่จะสูดเอาเชื้อโรคเข้าไปในร่างกาย
“เหยื่อที่ว่านี้ ไม่ใช่เพียงคนเท่านั้น แต่รวมถึงสัตว์หลายชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์บ้านอย่างไม่มีข้อยกเว้น”
คุณหมอประเสริฐ บอกว่า เมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย จะเข้ารุกรานเซลล์ผนังทางเดินอากาศ ทำให้เกิดการอักเสบ ไออย่างรุนแรง มีไข้สูงหนาวสั่นปวดเมื่อยทั้งตัว ที่เป็นรุนแรง…อาจถึงขั้นปอดบวม
ผู้มีสุขภาพแข็งแรงมีภูมิต้านทานโรคดี อาการอาจเพียงคล้ายไข้หวัดธรรมดา แต่ก็สามารถเป็นพาหะ นำเชื้อไวรัสไปแพร่ให้กับคนอื่นๆได้
ประเด็นที่เป็นข้อเตือนใจสำคัญ ไข้หวัดใหญ่เป็นปัญหาสาธารณสุข ที่แก้ไขยาก เพราะติดต่อจากคนสู่คนได้ง่ายมาก
เพียงแต่คนที่เป็นพาหะไอหรือจามโดยไม่ปิดปากปิดจมูก ก็แพร่กระจายเชื้อออกมาเป็นฝอยเล็กๆ เรียกว่า Droplet nuclei ไปไกลถึง 10 ฟุต
“ถ้ามีคน 10 คน ในห้องแล้วมีผู้เป็นพาหะไอหรือจาม 8 ใน 10 คนที่อยู่ในห้อง ก็จะได้รับเชื้อจนทำให้ป่วยได้ ผิดกับเชื้ออีโบลาที่ถือว่าร้ายแรง แต่โอกาสที่จะติดโรคนั้นมีน้อยกว่ามาก” คุณหมอประเสริฐ ว่า
ความน่ากลัวไวรัสไข้หวัดหมูในยุคนี้ หรือในชื่อใหม่…ไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก คือความเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่…เป็นอันตรายใกล้ตัว ที่เป็นง่าย หายช้า และมีโอกาสติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
Update 06-05-52