เติมความรัก สกัดภัยออนไลน์
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
แฟ้มภาพ
เปิดสถานการณ์เด็กไทยติดเกม เผชิญหน้าภัยออนไลน์ทั้งพนัน กลั่นแกล้ง คุกคามทางเพศ สช. – สสดย. – สสส. จัดเวทีปลุกสังคมตื่นตัว ดึงครอบครัวช่วยเติม "ความรัก" ด้วย "ความรู้" สร้างภูมิคุ้มกันรู้ทันสื่อให้เด็กและเยาวชน
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (สสดย.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ร่วมกันจัดเวที "เติมความรักด้วยความรู้…อยู่อย่างไรในโลกออนไลน์" เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สร้างการเรียนรู้เท่าทันสื่อ เพื่อปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากภัยออนไลน์
รศ.จุมพล รอดคำดี ที่ปรึกษา สสดย. และผู้ทรงคุณวุฒิแผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา สสส. เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุน สสส. คนที่ 1 เข้าร่วมปาฐกถาพิเศษ "สานพลัง เสริมความรู้ อยู่ปลอดภัยในโลกออนไลน์" ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา สสส. กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์มีความสัมพันธ์กับสังคมเป็นอย่างมาก จนเสี่ยงเกิดผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มของเด็กและเยาวชนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์ หากขาดความรู้หรือทักษะในการรู้เท่าทัน เวทีนี้ถือเป็นโอกาสที่ สสส. และภาคีทุกภาคส่วนร่วมสื่อสาร เพื่อสานพลังครอบครัวรวมไปถึงบุคคลที่อยู่รอบตัวเด็ก ในการผลักดันและสร้างสรรค์สังคมดิจิทัลไปสู่สังคมสุขภาวะเพื่อเด็กและเยาวชนต่อไป
ด้าน 'หมอโอ๋' ผศ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ร.พ.รามาธิบดี เจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'เลี้ยงลูกนอกบ้าน' สะท้อนปัญหาว่า เวลาเราเห็นพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของเด็กใน 'โลกออนไลน์' มันเหมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะจัดการแค่สิ่งที่ตนเองเห็น แท้จริงแล้วมันมีสาเหตุที่อยู่ข้างใต้นั้น
สาเหตุที่เด็กติดโลกออนไลน์ เพราะสิ่งนั้นสามารถตอบสนองความต้องการบางอย่างในชีวิต เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ต้องการพัฒนาอัตลักษณ์ เด็กบางคนเมื่อชีวิตจริงไม่ได้รับการยอมรับจึงไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนหรือในโลกออนไลน์ เพราะที่ตรงนั้นเขาสามารถมีตัวตนหรือเป็นที่รู้จัก แต่ก็มีเด็กบางคนเช่นกันที่เข้าไปเพราะความสนุก สาเหตุจากชีวิตจริงไม่สนุกอย่างที่เขาคาดหวัง เมื่อบ้านไม่มีใครอยู่ พ่อแม่ทำงานเป็นหลัก เด็กจึงใช้โลกออนไลน์เป็นพื้นที่สร้างความสุขและความสนุกด้วยตนเอง
"การติดโลกออนไลน์จนเกินไปของเด็ก อาจเพราะไม่มีกติกาในบ้าน พ่อแม่เข้าใจว่าเด็กจะจัดการตนเองได้ เพราะโตแล้ว ข้อแนะนำคือต้องสร้างกติกา เช่น ทำสิ่งที่ต้องทำก่อนค่อยไปเล่นเกม ที่สำคัญไม่แพ้กันคือพ่อแม่จะต้องรับฟังความคิด ความต้องการของเด็กแล้วให้คำแนะนำ ฝึกให้เขาควบคุมตัวเอง รู้จักหน้าที่ว่าสิ่งใดควรทำก่อนทำหลัง ไม่ใช่รับฟังเพื่อดุด่าว่ากล่าว นั่นจะยิ่งทำให้เด็กต่อต้านมากขึ้นไปอีก" หมอโอ๋ กล่าว
ขณะที่ ครูร่มเกล้า ช้างน้อย ครูผู้นำกระบวนการ HACKATON นวัตกรรมการศึกษาไทย กล่าวว่า โลกออนไลน์หรือโทรศัพท์มือถือ คือพื้นที่ปลอดภัยของเด็กที่เขามีอิสระในการแสดงความคิดเห็น ระบายความรู้สึก มีสิ่งที่สร้างความบันเทิง โรงเรียนจำเป็นต้องมีพื้นที่ให้นักเรียนได้ระบายปัญหาคับข้องใจ ครูต้องพูดคุยและให้ความรู้ว่าข้อมูลประเภทใดสามารถเผยแพร่ได้ พยายามเข้าใจและรับฟังเด็ก เมื่อนั้นเขาจะรู้สึกว่าโรงเรียนคือพื้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่ในโลกออนไลน์
ดร.นพ.ไพโรจน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สถาบันครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการดูแล ผู้ปกครองต้องมีความรู้และสอนเด็กได้ ส่วนตัวเด็กก็ต้องพัฒนาศักยภาพให้รู้เท่าทันสื่อ โดย สสส. จัดทำ "คู่มือการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างพลเมืองเท่าทันสื่อ" และนำไปใช้กับโรงเรียนในสังกัดสพฐ. ซึ่งจะช่วยให้ครูจัดกิจกรรม ออกแบบการเรียนการสอนทำให้เด็กรู้จักตัวตน รู้จักเรียนรู้จากสื่อในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ต้องผลักดันนโยบายสร้างกฎหมายดูแลสื่อออนไลน์ ไม่ต้องรอให้มีเหยื่อ เพียงแค่เกิดสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงให้เกิดอันตรายต่อเด็ก ก็สามารถเอาผิดได้เลย อีกทั้งทุกภาคส่วนจำเป็นต้องสานพลังกัน เพื่ออนาคตของเด็กไทย และผลักดันสังคมให้ดีขึ้นกว่าเดิม