เด็กเกเร พลิกชีวิตสู่ “ทูตความดี”

ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ วัยรุ่นอารมณ์ร้อน ผมไม่เรียนหนังสือ เป็นเด็กเกเร เป็นนักเลงระดับหัวหน้าแก๊ง “เอราวัณ” ยกพวกตีกัน มั่วสุมเสพยา ซิงมอเตอร์ไซค์ป่วนเมืองเชียงใหม่ สร้างความปวดหัวทุกข์ใจให้พ่อแม่ และสังคม

ฤทธิพันธุ์ วิจิตรพร หรือเป้ย วัย 23 ปี ชาวเชียงใหม่ เจ้าของรางวัล “ทูตความดีแห่งประเทศไทย” ปี 2556 ฉายภาพในอดีต และเล่าจุดเปลี่ยนชีวิต ชนิดหลังมือเป็นหน้ามือ ที่สำคัญมีบทบาทมาช่วยเหลือสังคม ว่า ตลอด 2 ปีที่เกเรป่วนเมือง จู่ๆ วันหนึ่งก็มานั่งคิดว่า พ่อแม่คงไม่ได้เลี้ยงเราไปตลอดชีวิต วุฒิ ม.3 จะไปทำงานอะไรได้ คงไม่แคล้วไปนั่งขอทาน

นี่คือจุดเปลี่ยนชีวิตของเป้ย จึงตัดสินใจเรียกสมาชิกในแก๊งเกือบ 200 ชีวิต แล้วประกาศปฏิวัติว่า แก๊งของเราจะเป็นคนดี จะทำความดีให้สังคม จะไม่ตีกับใครแล้ว ซึ่งสมาชิกในแก๊งมีทั้งรับได้และรับไม่ได้ คนไหนรับไม่ได้ก็เดินออกไป

นับจาก เป้ย และสมาชิกในแก๊ง เลือกเดินทางสายใหม่ เป้ยนำน้องๆ ร่วมทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ พัฒนาสังคม เข้าค่ายทำความดี นั่งสมาธิปฏิบัติธรรม ทำความสะอาดวัด สร้างห้องน้ำ นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสั้นสะท้อนปัญหาวัยรุ่น เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเข้าใจเด็กเหล่านี้มากขึ้น รวมทั้งช่วยกันหาทางป้องกันไม่ให้เด็กเดินหลงทาง ส่วนตัว เป้ย ศูนย์อำนวยการประสานงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภาคเยาวชน (ศอ.ปส.ย ภาค 5) ชวนเป้ยมาเป็นวิทยากรยาเสพติด ซึ่งการไปบรรยายแต่ละครั้งจะใช้วิธีการเล่าประสบการณ์จากชีวิตจริง แล้วจะพยายามสรุปว่า อย่าไปข้องแวะกับยาเสพติด มันเป็นสิ่งไม่ดี ทำลายชีวิตและอนาคตได้

“ในการบรรยายผมจะเล่าประสบการณ์ว่า ผมเป็นวัยรุ่นเป็นวัยอยากลองอยากรู้ และสิ่งที่ผู้ใหญ่ห้ามว่ามันไม่ดีนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งผมได้สัมผัสทุกอย่าง ผมรู้แล้วว่ามันสามารถทำลายอนาคตได้ ก็ถอยหลังออกมา แล้วก็บอกน้องๆ ว่า อย่าริลองเสพยา” เป้ย บอกว่า แรกๆ ที่เป็นวิทยากร ยังถ่ายทอดไม่ค่อยดีนัก ตอนหลัง ศอ.ปส.ย ภาค 5 ส่งไปเข้าคอร์สอบรมยาเสพติด ได้ความรู้ด้านวิชาการเพิ่มมากขึ้น นำความรู้เหล่านี้มาสอดแทรกการบรรยายผสมผสานกับประสบการณ์ตรง เพื่อไม่ให้ดูเป็นวิชาการมากนัก แต่ลึกๆ ในใจ ไม่อยากให้มียาเสพติดอยู่ในประเทศไทย

“ขณะนี้ยาเสพติดระบาดในกลุ่มวัยรุ่น อยากให้ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำจัดพวกค้ายา ส่วนใหญ่ มักจะนำยาเสพติดมาตามตะเข็บชายแดน ทลายแหล่งผลิตให้สิ้นซาก รวมถึงขจัดปัญหาคอร์รัปชันด้วย”

ตอนนี้ เป้ย กลับมาเรียน กศน.ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งใจว่าเรียนจบแล้วจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย น้องๆ หลายคนก็กลับมาเรียนหนังสือ อย่างไรก็ตาม พวกเราไม่ได้ละเลยกิจกรรม เรายังรวมกลุ่มตระเวนเล่นละคร  แสดงในชุมชนต่างๆ ถนนคนเดิน สำหรับเงินทุนที่ใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนหนึ่งมาจากน้ำพักน้ำแรงของพวกเรา นอกจากนี้ยังมีเงินที่พ่อแม่ผู้ปกครอง งบจาก อบจ. หรือภาคเอกชน สนับสนุน

ค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมแต่ละครั้งใช้เงินเยอะพอสมควร เป้ย จึงเตรียมเสนอโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมตลอดปี 2557 ให้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พิจารณาเพื่อสนับสนุนเงินในการทำกิจกรรม

หลังจากที่แก๊งของเราทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคม ละครสะท้อนปัญหาวัยรุ่น ได้มีผู้ปกครองหลายคนดูแล้วเข้ามาคุยกับเราว่า เขาไม่เคยรู้ว่าเด็กๆ วัยรุ่นคิดแบบนี้ พอเขาเข้าใจแล้วกลับไปพูดคุยกับลูกมากขึ้น ทำให้ครอบครัวมีความสุข

“เด็กๆ อยากเป็น “คนดี” ของพ่อแม่กันทุกคน อยากให้พ่อแม่ภูมิใจ ถ้าหากเด็กเดินหลงทางไปบ้าง ก็อยากให้พ่อแม่ สังคมให้อภัย แล้วเปิดโอกาสให้เขามีที่ยืนในสังคม เหมือนผมได้รับโอกาสนั้น”  เป้ย ฝากทิ้งท้าย

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน  โดย สุกัญญา แสงงาม

Shares:
QR Code :
QR Code