“เด็กนอกระบบการศึกษา1.7 ล้านคน”

ปัญหาที่ต้องร่วมกันแก้ไข

“เด็กนอกระบบการศึกษา1.7 ล้านคน”

          “สสค.” คำเต็มคือสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน

          ชื่อหน่วยงานนี้อาจจะไม่คุ้นเคยกันนักก็เป็นได้ เมื่อไม่คุ้นเคยจึงน่าจะไม่อาจคาดเดาถึงบทบาทที่จะผลักดันให้เกิดผลแค่ไหนเพียงใดในอนาคตอันใกล้หรืออันไกลต่อไปกับการผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาการศึกษาของเยาวชนไทยหรือคนไทยที่ตกหล่นมาจากในระบบ รวมไปถึงการจัดการศึกษานอกระบบในภาระหน้าที่ของหน่วยงานหลักคือ กระทรวงศึกษาธิการ

          พูดถึงเด็กนอกระบบการศึกษาอันเป็นปัญหาของสังคมไทยมาช้านาน ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นในห้วงเวลานี้ เป็นปัญหาที่ฉุดรั้งให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศล้าหลังด้านการพัฒนาการศึกษา คือไม่อาจก้าวไปสู่ความเป็นประเทศที่กำจัดคนไม่รู้หนังสือ ไม่ว่าจะเพียงแค่ระดับอ่านออกเขียนได้กันทุกคนก็ยังตัวเลขสูงอยู่ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไป

          วันนี้ที่องค์กรอย่าง สสค.ได้ตัวเลขมาเฉพาะเด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะขาดโอกาสอย่างสิ้นเชิงกลายเป็นเด็กนอกระบบการศึกษามีถึง 1 ล้าน 7 แสนคน

          สสค.เป็นองค์กรที่ต้องถือได้ว่าได้เกิดสำนึกแห่งความห่วงใยสังคมไทยอย่างจริงจังขึ้นมาเมื่อได้สัมผัสตัวเลขนี้  สำนึกห่วงใยนำไปสู่การขอมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาโดยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อลดช่องว่างดังกล่าวและกำจัดปัญหาให้หมดสิ้นไปให้ได้ในอนาคตอันใกล้ สสค.เริ่มบทบาทโดยการจัดเวทีเสวนา “เด็กนอกระบบการศึกษา : สถานการณ์และทางออกของปัญหา” พร้อมประกาศสนับสนุนทุน”โครงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชนในระดับท้องถิ่น (เทศบาล)”ครั้งที่ 1/2553 เผยข้อมูลล่าสุดจากรายงานสภาวะการศึกษาไทยปี 2550-2551 พบเด็กนอกห้องเรียนสูงถึง 1.7 ล้านคน ส่งผลให้คุณภาพแรงงานไทยต่ำกว่ามาเลเซียถึง 3 เท่า

          นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ สสค.กล่าวว่า หลังจาก สสค.เปิดให้การสนับสนุนทุนในรอบแรกแก่กลุ่มโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศรวม 207 โรงเรียนจาก 1,139 โรงเรียนที่ผ่านการพิจารณาพบว่า หนึ่งในปัญหาสำคัญที่พบคือ จำนวนเด็กนอกห้องเรียน ซึ่งตกหล่นไปจากระบบการศึกษาไทย  ส่วนหนึ่งเพราะยังไม่มีหน่วยงานที่เข้ามาประสานโดยตรง ซึ่งหากไม่แก้ไขเรื่องนี้ ผลเสียไม่ได้เกิดแค่ในเด็ก แต่จะลามไปทั้งสังคม เช่น ทักษะในการประกอบอาชีพ ปัญหาอาชญากรรม นอกจากนี้ ข้อมูลในสหรัฐอเมริการะบุว่า เด็กนอกระบบมีโอกาสเสี่ยงมากถึง 7 เท่า และมีชีวิตสั้นลง 9 ปี

          “การเปิดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชนในระดับท้องถิ่น(เทศบาล)” ครั้งที่ 1/2553 จึงเป็นความพยายามของ สสค.ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการที่จะประสานให้ส่วนต่างๆ ตั้งแต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) หน่วยงานเอกชน และสังคม ตระหนักถึงปัญหา”เด็กนอกระบบ” ที่มีร่วม 1.7 ล้านคน ผ่านการพัฒนาองค์ความรู้และระบบกลไกท้องถิ่นหน่วยการศึกษา เพื่อดึงเด็กนอกระบบกลับเข้ามาสู่การเรียนรู้อีกครั้ง รวมถึงการพัฒนาความรู้ที่จะนำไปประกอบอาชีพ

          โดยเน้นการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนท้องถิ่น และการจัดระบบงานเชิงรุกเพื่อส่งเสริมคุณภาพการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในท้องถิ่น และเพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ของสังคมร่วมกันทั้งระบบ ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมประมาณ 15-20 เทศบาลเทศบาลละ 5,000 คน และเด็กนอกระบบร่วมแสนคน จึงขอเชิญชวน อปท.เป็นตัวตั้งตัวตี”  นพ.สุภกรกล่าวด้าน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกล่าวว่า สำหรับบทบาทของ กศน.ในการแก้ไขเด็กนอกห้องเรียนคือการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจของผู้เรียน ซึ่งถือเป็นการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้เด็กสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตเช่น  วิธีการเลี้ยงกบ การปลูกผักทำไร่

          ด้าน น้องตึ๋ง ตัวแทนเด็กนอกระบบบ้านกาญจนาภิเษก เชื่อว่า สสค.จะเข้ามาช่วยเพิ่มต้นทุนชีวิต เข้ามาฉีดวัคซีนสร้างภูมิต้านทานในอนาคต ด้วยการใช้ความจริงใจ มอบโอกาสให้เขาได้มีที่ยืนในสังคมแม้ว่าพวกเขาจะเคยเข้าสู่อบายมุข จี้ปล้นหาเงินมาเสพยาเสพติด

          “เด็กจะทำอะไรผิด ไม่ว่าจะนอกระบบ หรือในระบบ อยากให้ดึงเด็กกลับมาให้อยู่ในสังคมได้ เพราะว่าเขายังมีคุณค่าความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นพลังสำคัญของชาติ อย่างโรงเรียนที่ปฏิเสธไม่รับผมแล้วเด็กคนอื่นๆ จะเป็นอย่างไร ผมอยากให้อนาคตดีกว่านี้ ผมคิดว่าอนาคตของชาติไม่ต้องเลิศหรูมากมาย ไม่ต้องรวย ไม่ต้องเป็นลูกนายกฯ แค่เป็นคนดีมีความรู้ในสังคมก็พอแล้ว”

          คำถามของน้องตึ๋งเป็นคำตอบอยู่ในตัวที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาเด็กนอกระบบการศึกษา ไม่ต้องวิ่งหาคำตอบสุดท้ายที่ไหนเลยครับ แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงมือทำพร้อมกันทันทีอย่างจริงจัง

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

Update: 02-08-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ

Shares:
QR Code :
QR Code