“เซ็กส์เสี่ยง”ครองอันดับ 1 ปัญหาสาธารณสุขไทย

“เซ็กส์เสี่ยง”ครองอันดับ 1 ปัญหาสาธารณสุขไทย

 

นักวิชาการ เผย เซ็กส์เสี่ยงครองอันดับ 1 ปัญหาสาธารณสุขไทยนานกว่า 10 ปี หนุนร่างพรบ.คุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์ มั่นใจแก้ปัญหาเซ็กส์ไม่ปลอดภัยทั้งระบบ ไม่ใช่แค่เรื่องแม่วัยใส  พิสูจน์ชัดในต่างประเทศลดอัตราติดเอดส์-ท้องวัยเรียน เตรียมจับมือกรมอนามัยจัดประชาพิจารณ์ 16 ส.ค.นี้ 

 

น.ส.ณัฐยา บุญภักดี มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง กล่าวถึงกรณีที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมผลักดันร่างพรบ.คุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์ พ.ศ. … ว่า นับตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยเป็นปัญหาสาธารณสุขอันดับ 1 ของประเทศไทย นำไปสู่ปัญหาต่างๆ มากมาย อาทิ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ การป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และความรุนแรงทางเพศ ซึ่งหัวใจสำคัญของร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองอนามัยการเจริญพันธุ์ กำหนดให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัยมีความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยทั้งระบบ ไม่เพียงแต่เรื่องการท้องก่อนวัยอันควรเท่านั้น

 

น.ส.ณัฐยา กล่าวต่อว่า การให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างรอบด้านครอบคลุมทั้งเรื่องการพัฒนาการของสรีระทางร่างกาย ความสัมพันธ์ระหว่างเพศ ทักษะการตัดสินใจหรือการต่อรองเมื่อจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ทั้งเพศหญิงและชาย ทักษะการเอาตัวรอดเมื่อถูกกระทำด้วยความรุนแรงทางเพศหรือถูกละเมิดทางเพศ การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยเมื่อต้องมีเพศสัมพันธ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากตั้งครรภ์โดยที่ไม่พร้อมจะต้องทำอย่างไร เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่วัยรุ่นเท่านั้นที่จำเป็นต้องรู้ แต่คนไทยทุกเพศทุกวัยต้องมีความรู้ด้วย 

 

พรบ.ฉบับนี้ครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย ความสัมพันธ์ การป้องกันและการแก้ปัญหา จะเป็นการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ ซึ่งสำคัญมากไม่อยากให้ยึดติดเพียงแค่เรื่องของการแก้ปัญหาแม่ในวัยเรียนอย่างเดียว และในร่างพรบ.ฉบับใหม่ล่าสุดได้มีการตัดเรื่องของการทำแท้งออกไปแล้ว จะเน้นเรื่องการป้องกันปัญหาด้วยการให้ความรู้เพศศึกษาที่ถูกต้องกับประชาชน ทั้งนี้ ในหลายประเทศที่มีการออกกฎหมายในลักษณะเช่นนี้ มีการพิสูจน์แล้วว่าอัตราเด็กท้องและการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ลดลงน.ส.ณัฐยา กล่าว

 

น.ส.ณัฐยา  กล่าวอีกว่า ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ กรมอนามัย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จะร่วมกันจัดประชาพิจารณ์เกี่ยวกับร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้ ที่โรงแรมทีเค พาเลซ โดยจะเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่ทำงานด้านเพศศึกษาและเอดส์ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วม โดยจะนำความคิดเห็นที่ได้จากการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนมาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายรอบสุดท้าย ก่อนนำเข้าสู่ขั้นตอนการออกกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

 

ที่มา: สำนักข่าว สสส.

 

 

 

Update: 19-07-53

อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code