เคล็ดลับใช้ชีวิตคู่ ในยุค Work From Home
เรื่องโดย ฐิติพร โยทาพันธ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลบางส่วนจาก งานเสวนาออนไลน์ “ใช้ชีวิตคู่อย่างไรให้เวิร์ค” ในยุค Work From Home
ภาพโดย ชยวี ลิ้มถาวรรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
การทำงานอยู่ที่บ้านในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เชื่อว่าคู่รักหลายคู่ต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้ ทะเลาะเบาะแว้ง หงุดหงิดใส่กันมากขึ้น แทบจะไม่มีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง คำพูดที่ใช้คุยกันก็ไม่น่ารักเหมือนเดิม เห็นหน้ากันเกือบ 24 ชั่วโมง บางครั้งก็เริ่มเบื่อ ขัดหูขัดตากันมากขึ้น ลูกก็ต้องเลี้ยง ครอบครัวก็ต้องดูแล งานก็ต้องทำ หลาย ๆ ครั้งรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกิน
สถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดเป็นวงกว้างในครั้งนี้ ส่งผลให้พนักงานบริษัทหลายคนต้องทำงานอยู่ที่บ้าน หน่วยงาน และบริษัทต่าง ๆ ตอบรับนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ หรือที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า Work From Home บางคนก็เรียกด้วยอักษรย่อว่า WFH ทั้งนี้ก็เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อนั่นเอง แต่เมื่อการทำงานที่บ้านเป็นเวลานาน ๆ ไม่ได้ออกไปใช้ชีวิตได้เหมือนช่วงเวลาปกติ คู่รักหลาย ๆ คน อาจจะรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน เริ่มมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยขึ้น รู้สึกว่าความรักไม่เหมือนเดิม ความสัมพันธ์ในครอบครัวน้อยลง จะมีวิธีปรับ mind set อย่างไร ให้เข้าใจกันมากกว่าเดิม เพื่อให้การทำงานที่บ้านมีประสิทธิภาพ ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น
อาจารย์ปิยฉัตร เรืองวิเศษ ฟินนี่ นักจิตวิทยา นักครอบครัวบำบัด ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาครอบครัว ผู้อำนวยการศูนย์ไทรศิลป์ ได้กล่าวถึงวิธีการและให้คำแนะนำ ผ่าน Facebook Live หัวข้อ “ใช้ชีวิตคู่อย่างไรให้เวิร์ค” ในยุค Work From Home ที่จัดโดยสถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ ThaiHealth Academy ว่า หัวใจสำคัญของการสร้างสัมพันธ์ของคู่รักและครอบครัว คือ การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ เพื่อที่จะให้สัมพันธภาพเดินหน้าต่อไปได้ การมีปัญหาทะเลาะกันระหว่างคู่รัก ปัญหาความไม่เข้าใจกันเป็นเรื่องปกติในการใช้ชีวิตคู่ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่จะไม่ปกติก็ต่อเมื่อไม่หันหน้าเข้าหากัน ต่างคนต่างเรียกร้องในสิ่งที่ต้องการ หากปัญหานี้ไม่ถูกแก้ไขหรือสร้างความเข้าใจซึ่งกันละกัน อาจนำไปสู่การอย่าร้าง เลิกราในที่สุด การเลี้ยงดูในอดีตของแต่ละคน ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตคู่ได้เช่นกัน
“จากงานวิจัยในประเทศของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลร่วมกับ สสส. พบว่า ระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563 การเก็บสถิติข่าว แบ่งตามประเภทข่าวความรุนแรง ปรากฏว่าข่าวความรุนแรงทางเพศของบุคคลในครอบครัว พบ 31 ข่าว คิดเป็นร้อยละ 8.9 ซึ่ง 3 ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อความอ่อนไหวทางอารมณ์อันเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันระหว่างคู่รักหรือคู่ชีวิตในช่วง Work From Home คือ
1. บุคลิกภาพ Extrovert VS Introvert จะมีปฏิกิริยาต่อความเครียดไม่เหมือนกัน เวลาต้องอยู่ด้วยกันระหว่าง Lock down นาน ก็จะแสดงความต้องการออกมา ไม่พอใจก็เกิดอาการหงุดหงิดได้ง่าย หรือระเบิดอารมณ์ได้ในกรณีของคนที่ไม่ค่อยแสดงออก ความน้อยอกน้อยใจก็จะสะสมขึ้น บางครั้งอาจมีการตัดความหมายผิดไปจากเจตนาของคำพูดของคนรัก ทำให้ไม่เข้าใจกัน
2. การ lock down อาจทำให้อาการทางจิตแย่ลง ความวิตกจริต ความกังวลและภาวะซึมเศร้า จะมีผลส่งต่อความเครียดให้คนในบ้าน
3. Boundary หรือขอบเขตความเป็นส่วนตัวหายไป จากการที่เคยต้องออกไปทำงานและมีแค่ช่วงเย็น ๆ ที่จะได้ใช้เวลากับคนรักและครอบครัว กลายเป็นต้องอยู่ด้วยกันมากว่า 15 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้เกิดความขัดแย้งได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาครอบครัว ได้แนะนำ เทคนิคการสื่อสารความรู้สึกต่อคนที่เรารักและห่วงใย เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว และ เทคนิคการขอร้องอย่างสร้างสรรค์ 2 Stars and a wish มีอะไรบ้าง มาดูกัน
เทคนิคการสื่อสารความรู้สึกต่อคนที่เรารักและห่วงใย เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว
1. ถ้าสถานการณ์ยังตึงเครียด บอกกล่าวว่า "รักนะ แต่ขอเวลาเรียบเรียงความรู้สึกแล้วเดี๋ยวเรากลับมาคุยกันใหม่” รอให้ต่างฝ่ายต่างอารมณ์เย็นลงก่อน แล้วค่อยมาปรับความเข้าใจกัน
2. เมื่อพร้อมจะคุย ภาษากายต้องเปิดกว้าง หรือ มีสัมผัสเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราต้องการเคลียร์จริง ๆ เช่น พร้อมที่จะสบตากัน แตะไหล่เบา ๆ นั่งข้าง ๆ กัน
3. เริ่มต้นจากการบอกความรู้สึกของเราก่อน เช่น "เมื่อกี๊เราโกรธเพราะพอเราพูด เธอไม่ฟังคำอธิบายก่อน ด่วนสรุปว่าเป็นความผิดของเราแล้วใส่อารมณ์กับเราเลย เราโกรธ เราเสียใจนะ”
4. พยายามเป็นผู้รับฟังที่ดี สะท้อนความรู้สึกของคนรัก เช่น ฉันเข้าใจนะว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะกำลังเหนื่อยอยู่ใช่ไหม
5. ถ้าฝ่ายเรามี Message ที่สำคัญอยากให้คู่รักเปลี่ยนแปลง ให้ใช้ภาษาพูดที่จะทำให้เขาเข้าใจและได้ยินในสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ไม่ใช่ใช้การสั่งหรือเรียกร้อง
กิจกรรมเสริมสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว หรือเทคนิคการขอร้องอย่างสร้างสรรค์ 2 Stars and a wish
หากเราต้องการเสริมสร้างการสื่อสารให้แข็งแรง กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น แสดงออกถึงความรู้สึกและความต้องการอย่างสร้างสรรค์ ควรมีการประชุมครอบครัวอาทิตย์ละครั้งโดยใช้เทคนิคของการชมและการขอเปลี่ยนแปลง แบบนี้
2 Stars คือ คำชมต่อพฤติกรรมที่เราสังเกตระหว่างอาทิตย์ที่เราอยากชื่นชม สูตรของการชม ต้องมีความของรู้สึกของเรา + พฤติกรรมด้านบวก + บอกถึงความภาคภูมิใจในตัวเขา ตัวอย่าง "อาทิตย์นี้ฉันรู้สึกดีใจที่เห็นคุณพยายามช่วยงานบ้าน และอยากขอบคุณที่ช่วยแบ่งเบาภาระ วันก่อนขอบคุณที่ช่วยแวะซื้อกับข้าวให้นะ ทำให้เราไม่ต้องเหนื่อยออกไปอีก ช่วยเบาภาระเราได้เยอะเลย”
A wish คือ สิ่งที่เราอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวคู่รัก ตัวอย่างเช่น "เมื่อวานฉันยุ่งมากเลย ต้องทำทุกอย่าง แอบหวังว่าคุณจะพาลูกออกไปปั่นจักรยานเล่นสักครึ่งชั่วโมง ฉันจะได้มีเวลาพักหายใจบ้าง”
สสส. สนับสนุนการสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้เกิดขึ้นในครอบครัว การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สร้างเสริมสุขภาวะที่ดีทางจิตใจ เพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ในช่วงที่ต้องทำงานอยู่บ้านแบบนี้ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ เพิ่มกิจกรรมทางกายด้วยการออกกำลังกาย ทำงานบ้าน เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย เพื่อสุขภาวะที่ดี ห่างไกลจากโควิด-19
สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลการปฏิบัติตัวช่วงที่ต้องอยู่บ้าน สามารถดาวน์โหลดได้ที่ คู่มือชีวิตวิถีใหม่ ชีวิตดีเริ่มที่เรา http://ssss.network/0zxeh
และคู่มือ กิจกรรมทางกายประจำบ้าน ได้ที่ http://ssss.network/amb9m