เคล็ดลับวิธีจัดการ กับความโกรธ
ที่มา : เว็บไซต์คมชัดลึก
แฟ้มภาพ
อารมณ์โกรธส่งผลเสียมากกว่าที่คิด ยิ่งในช่วงสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน มักจะทำให้หงุดหงิดง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้อารมณ์ความโกรธ ยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจอีกด้วย
ในช่วงสภาพอากาศที่ค่อนข้างจะร้อน แน่นอนว่ามักจะทำให้เราหงุดหงิด และ "โกรธ"ง่ายกว่าเดิมมาก ๆ ซึ่ง "อารมณ์โกรธ"เป็นอารมณ์ที่มีความสำคัญที่จะทำให้เรารับรู้ว่าเกิดความไม่ชอบมาพากล หากไม่สามารถควบคุมได้ จะกลายเป็นพลังทำลาย ทำอะไรหุนหันพลันแล่น การตัดสินใจผิดพลาดง่ายนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ทั้งความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ปัญหาที่ทำงาน ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
ความโกรธจะนำไปสู่การเพิ่มความเครียด และในทำนองเดียวความเครียดก็มักจะทำให้มีความโกรธเพิ่มมากขึ้น และอาจมีผลกระทบทางกายโดยขณะที่เราเกิดอารมณ์โกรธ
ความโกรธ เกิดจากความเครียดสะสม ประกอบกับมีสิ่งเร้าหรือตัวเข้ามากระตุ้น เมื่อรู้ตัวเองว่าโกรธ จะสังเกตได้จากอาการต่างๆ เช่น หัวใจเต้นแรงขึ้น , กล้ามเนื้อเริ่มเกร็ง , เหงื่อไหล , หน้าเริ่มร้อน เป็นต้น
ดร.สุดา วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เมื่อมีความโกรธเกิดขึ้น ขอแนะนำให้ใช้วิธีจัดการกับความโกรธ โดยเบี่ยงเบนความสนใจออกไปจากเหตุการณ์ที่ทำให้โกรธ แบบง่ายๆ 5 วิธีดังนี้
1. พยายามนับ 1 ถึง 10 ในใจ ก่อนจะพูดอะไรออกไปขณะโกรธ จะช่วยลดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำในขณะกำลังโกรธได้
2. ลองนับ 1 ถึง 10 รูปแบบใหม่ ซี่งจะทำให้ควบคุมความโกรธได้ดีขึ้น โดยนับพร้อมกับสูดลมหายใจเข้า-ออกทางช่องท้อง ลีกๆ ช้าๆ ระหว่างเลขแต่ละจำนวน วิธีนี่จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เนื่องจากสมองได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้น
3. ให้นับ 1 ถึง 10 พร้อมกับนึกถึงสิ่งของที่ตัวเองชื่นชอบหรือนึกถึงสิ่งทำให้อารมณ์ดี เช่น ไอศกรีม 1 แท่ง 2 แท่ง 3 แท่ง จะทำให้จิตใจผ่อนคลายลงและเกิดความรู้สึกที่ดีแทนที่อารมณ์โกรธ
4. ใช้วิธีนับเลขถอยหลังจาก 100 จนถึง 80 การใช้สมาธิจดจ่อกับการนับ ทำให้หยุดคิดถึงเรื่องที่กำลังโกรธได้ และ
5. ให้ลองหลับตานึกถึงเหตุการณ์หรือสิ่งใดๆในอดีตที่ได้พบเจอแล้วมีความสุขใจ สบายใจ คลายเครียด เช่นการท่องเที่ยวในที่ต่างๆ เดินเที่ยวที่วัด จะช่วยทำให้ความโกรธลดลงได้
สิ่งที่ไม่ควรทำขณะที่รู้สึกว่า ตนเองโกรธจนควบคุมตัวเองได้ยาก ได้แก่
1. ไม่ควรโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบายอารมณ์ขณะยังมีความโกรธรุนแรง เพราะจะทำให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ ขาดสติ เผลอตัวเขียนระบายอารมณ์ในสิ่งที่ไม่สมควร และต้องมานึกเสียใจภายหลังที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
2. ห้ามขับรถ เพราะอารมณ์โกรธจะทำให้เราหุนหันพลันแล่น ขาดสติ
3. ไม่ระบายอารมณ์ด้วยการดื่มเหล้า
4. หลีกเลี่ยงการทะเลาะ เพราะจะลุกลามใหญ่โตได้ง่าย เนื่องจากการควบคุมตนเองไม่ได้
5. ห้ามคิดหมกมุ่นอยู่กับคนหรือเรื่องที่ทำให้โกรธ เนื่องจากจะทำให้ความรู้สึกโกรธเพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้เกิดความรุนแรงได้
จะเกิดอะไรขึ้นหากเราไม่ดูแล หรือจัดการความโกรธที่เกิดขึ้นได้ หากไม่จัดการความโกรธ ความโกรธมีแนวโน้มแสดงออกได้ทั้งแบบก้าวร้าวต่อตนเองและก้าวร้าวต่อผู้อื่น
ความโกรธมักไปแสดงออกในแบบที่ทำร้ายตนเองได้หากคุณไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับความโกรธที่เกิดขึ้นและเก็บกดไว้ ความโกรธยังไม่หายไปไหนและกลับมาเป็นความก้าวร้าวกับตนเองได้ เช่น คุณอาจไม่พอใจเจ้านาย คุณอาจแสดงพฤติกรรมในทางที่ทำให้เกิดผลเสียต่อตนเองได้ เช่น การมาทำงานสาย การไม่ส่งงาน การนอนมากเกินไปจนมาทำงานไม่ทัน หรือการแสดงออกในแบบก้าวร้าว ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกออกจากงานได้ หรือทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน ซึ่งทำให้เป้าหมายในชีวิตไม่เป็นตามที่ตั้งใจไว้
แต่หากก้าวร้าวกับผู้อื่นมีผลให้สูญเสียความสัมพันธ์ เสียภาพพจน์หรือเสียชื่อเสียง ขาดความน่าเชื่อถือ หรือหากรุนแรงมาก เกิดทำร้ายกันก็ทำสูญเสียทั้งร่างกายและทรัพย์สินได้ จริงๆ เรื่องความโกรธก็มีผู้รู้เขียนไว้จำนวนมาก แต่ในสภาพสังคมปัจจุบัน ดูเหมือนเราได้รับการกระตุ้นให้เกิดความโกรธได้ง่าย การที่อ่านแล้วระลึกถึงบ่อยๆ ช่วยให้เรารู้ตัวและฉุดตนเองออกจากวงจรความโกรธได้