อ่านเถิดเด็กไทย…ถวายเจ้าฟ้านักอ่าน
โค้งสุดท้ายแล้วในการคัดเลือกหาสุดยอดโรงเรียนส่งเสริมการอ่านรับถ้วยรางวัลพระราชทานฯ พร้อมเงินรางวัล และการศึกษาดูงานต่างประเทศในวันที่ 7 เมษายน 2557 นี้
หากพูดถึงความสำคัญของการอ่าน ถือว่าเป็นหัวใจของการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกด้าน แม้การอ่านจะมีความสำคัญอย่างมากก็ตาม แต่สำหรับคนไทยส่วนใหญ่แล้วยังมองถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการอ่านน้อยมาก ที่เป็นเช่นนี้ปัญหาหลักน่าจะมาจากเจตคติที่ถูกถ่ายทอดต่อ ๆ กันมาว่าการอ่านเป็นเรื่องของการเรียนรู้ในสถานศึกษาเท่านั้น เมื่อจบการศึกษาแล้วก็ถือว่าจบกัน เจตคติที่ว่านี้ยิ่งมาถึงยุคเทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตเด็กและเยาวชนยิ่งขาดความตระหนักในเรื่องการอ่านมากยิ่งขึ้น
โดยจะหันไปให้ความสนใจกับการดูหนัง ฟังเพลง สนทนา มากกว่าการหาโอกาสเรียนรู้วิทยาการโลกยุคใหม่ และอาจทำให้ตามไม่ทันต่างชาติได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ได้ส่งผลถึงคุณภาพบุคลากรชาติในภาพรวมไปด้วย ทั้งที่ศักยภาพคนไทยว่าไปแล้วก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศใดในโลกนี้ และที่สำคัญคนไทยก็มีต้นแบบด้านการอ่านและการเรียนรู้ที่สุดแสนเลิศล้ำค่าอย่างหาที่สุดมิได้ให้เห็นและปฏิบัติได้อย่างดียิ่งอยู่แล้ว ด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระอัจฉริยภาพอย่างยิ่งกับการอ่านและการเรียนรู้ที่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าก็ได้เห็นเป็นเชิงประจักษ์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจใดหรือสถานที่ไหน พระองค์จะสนพระทัยใฝ่ศึกษาอย่างละเอียดลึกซึ้ง พร้อมจดบันทึก ถ่ายภาพ แล้วนำมาขยายผลกลายเป็นพระราชนิพนธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นสื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างหลากหลายเรื่องราวและรูปแบบ เมื่อคนไทยมีต้นแบบที่มีคุณค่าอนันต์สูงสุดอยู่เช่นนี้แล้ว ควรจะต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ด้วยการน้อมนำและดำเนินตามรอยพระยุคลบาท ให้เกิดนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้อย่างถาวรให้ได้
จากความสำคัญที่ว่ามานี้ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการอ่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมผู้จัดพิมพ์หนังสือรวมถึงองค์กรภาครัฐและเอกชน จึงได้ร่วมกันคิดและจัดเป็นโครงการ “ อ่านเถิดเด็กไทย…ถวายเจ้าฟ้านักอ่าน” ขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้เด็กและคนไทยทั้งชาติได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณโดยใช้การอ่านเป็นสื่อร่วมเฉลิม พระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ในปี 2558 และใช้โอกาสปีมหามิ่งมงคลนี้สร้างแรงกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านและเริ่มต้นอ่านกันอย่างจริงจัง จนกลายเป็นวิถีปกติประจำวัน จึงให้มีการคัดเลือกหาสุดยอดโรงเรียนส่งเสริมการอ่านรับถ้วยรางวัลพระราชทานฯ พร้อมเงินรางวัล และการศึกษาดูงานต่างประเทศขึ้น โดยได้เริ่มดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2556 จนขณะนี้มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกับการคัดเลือกหาโรงเรียนสุดยอดส่งเสริมการอ่านในระดับชาติที่กำหนดขึ้นในวันที่ 7 เมษายน 2557 แต่ก่อนจะถึงวันนั้นก็อยากจะฉายภาพความสำเร็จของโครงการนี้ให้ทุกฝ่ายได้เห็นว่าได้เกิดความสุดยอดขึ้นแล้วอย่างไรบ้าง
สุดยอด กับจำนวนนักเรียน โรงเรียนจากทุกสังกัดเข้าร่วมโครงการนี้ที่มีมากกว่า 3,000 แห่ง ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาะ แก่ง บนดอย ในเมืองหรือพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้มีหลายสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่โรงเรียนในสังกัดเข้าร่วมโครงการทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด อาทิ สพป.ขอนแก่น เขต 5 สพป.พระนครศรีอยุธยา เขต 2 สพป.นครราชสีมา เขต 4 สพป. ศรีสะเกษ เขต 3 เป็นต้น
สุดยอด วิธีดำเนินการแบบครบวงจร ด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกที่ครอบคลุมกับการส่งเสริมพัฒนาทั้งระบบตั้งแต่การบริหารจัดการ วิธีการและรูปแบบการจัดกิจกรรม สื่อและหนังสือใหม่ ๆ ที่ให้เด็กได้มีอ่านโดยเฉพาะหนังสือพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะเป็นสื่อสร้างความรู้ และจิตสำนึกความดีงามให้เกิดขึ้นในจิตใจ และสามารถนำความรู้สร้างเป็นผลงานในรูปแบบของโครงงาน หนังสือเล่มเล็ก ภาพวาด บทละคร การแสดง ได้
สุดยอด จากการมีส่วนร่วม ทั้งนักเรียน บุคลากรในโรงเรียน ผู้ปกครองที่ได้ร่วมกันส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นกับเด็ก และในส่วนของหน่วยจัดก็เกิดภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เข้ามาให้การสนับสนุน ด้านสื่อ หนังสือ แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือร่วมเป็นกรรมการคัดเลือก ตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่การศึกษา จนถึงระดับชาติ
สุดยอด กับผลงานของนักเรียนที่นอกจากจะมากด้วยจำนวนผู้อ่านในครั้งนี้แล้ว ยังช่วยทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ในกลุ่มสาระต่าง ๆ เพิ่มขึ้น และช่วยทำให้เด็กอ่านไม่ได้ อ่านไม่คล่อง ให้อ่านได้ อ่านคล่องตามมาอีกด้วย
สุดยอด ผลที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนแม้จะไม่ได้รับรางวัลใด ๆ แต่โรงเรียนเหล่านั้นก็ถือว่าเป็นเกียรติประวัติที่ได้ร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติฯในครั้งนี้ ส่วนโรงเรียนที่สามารถผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นแต่ละระดับจนมาถึงระดับชาติ ก็ถือว่าสุดยอดความสามารถเป็นต้นแบบให้โรงเรียนอื่นศึกษาดูงานได้ จึงขอนำรายชื่อมาให้ทราบกัน ดังนี้ ประเภทขนาดเล็ก รร.บ้านหนองนาว จ.ลำปาง รร.บ้านถ้ำน้ำบัง จ.เพชรบูรณ์ รร.วัดท่าแค จ.ลพบุรี รร.วัดราษฎร์บำรุง จ.พระนครศรีอยุธยา รร.ไผ่แถวอนุสรณ์ จ.ปราจีนบุรี รร.วัดหนองตาแก้ว จ.สุพรรณบุรี รร.หนองกุ้งสมเด็จ จ.กาฬสินธ์ุ รร.วัดหนองบัวศาลา จ.นครราชสีมา รร.ประชารัฐวิทยา จ.อำนาจเจริญ รร.วัดปากปรน จ.ตรัง รร.วัดหินเกลี้ยง จ. สงขลา ประเภทขนาดกลาง รร.แม่ก๋งวิทยา จ.ลำปาง รร.วัดยางเอน (ประชานุเคราะห์) จ.พิษณุโลก รร.บ้านนกเขาเปล้า จ.ลพบุรี รร.วัดคลองขุนศรี จ.นนทบุรี รร.บ้านดอนสูง จ.ตราด รร.วัดบ้านสระ จ.สุพรรณบุรี รร.ร่มเกล้า 2 จ.อุดรธานี รร.บ้านหนองม่วงหวาน จ.นครราชสีมา รร.บ้านโนนทับช้าง จ.สกลนคร รร.บ้านท่าเรือ จ.ภูเก็ต รร.ชุมชนบ้านบ่อประดู่ จ.สงขลา ประเภทขนาดใหญ่ รร.เรยีนาเชลีวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ รร.อนุบาลอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ รร.บรรจุงรัตน์ จ.ลพบุรี รร.ปัณณวิชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา รร.บ้านเกาะโพธิ์ (วันครู 2550) จ.ชลบุรี รร.ชุมชนวัดใหญ่โพหัก จ.ราชบุรี รร.ชุมชนบ้านหนองเรือ จ.ขอนแก่น รร.จัตุรัสวิทยานุกูล จ.ชัยภูมิ รร.อุบลวิทยาคม จ.อุบลราชธานี รร.อนุบาลภูเก็ต จ.ภูเก็ต และ รร.บ้านตะบิงติงงี จ.ยะลา ซึ่งแต่ละขนาดจะคัดหาสุดยอด รับถ้วยรางวัลพระราชทานฯต่อไป
สุดยอด แห่งรางวัล ชนะเลิศแต่ละขนาดจะได้รับ คือ ถ้วยรางวัล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลและการศึกษาดูงานต่างประเทศ ส่วนลำดับรองลงไปจะได้รับถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ TK Park ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นเกียรติประวัติที่ยิ่งใหญ่ของโรงเรียนที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ทั้งสิ้น
สุดยอดของสุดยอด ก็คือ ความปลื้มปีติที่เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายที่ได้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในศุภวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในปี 2558 โดยใช้การอ่านเป็นสื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ท่านที่มีคุณอเนกอนันต์ต่อประชาราษฎร์รวมถึงการเป็นต้นแบบการอ่านและการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีคุณค่าหาที่สุดมิได้นั่นเอง
สำหรับการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นการสร้างความตระหนักและส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีการที่ล้ำค่าอย่างหาที่สุดมิได้ อย่างไรก็ตามการอ่านยังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพราะเปรียบเสมือนรากแก้วของต้นไม้ หากไม่แข็งแรงแล้วส่วนอื่นก็คงหาความมั่นคงได้ยาก เหมือนกับเด็กหากยังอ่านไม่ได้ อ่านไม่คล่อง หรือไม่ใส่ใจกับการอ่าน ปัญหาคงไม่ได้อยู่แค่เฉพาะตัวบุคคลหรือแค่คุณภาพการศึกษาตกต่ำเท่านั้น แต่ปัญหาชาติ “โง่ จน เจ็บ” ที่เกิดขึ้นในอดีตกาลก็จะยังเป็นดินพอกหางหมูวนเวียนให้เห็นอยู่ต่อไปแม้โลกจะหมุนไปสู่ยุคโลกไร้พรมแดนแล้วก็ตาม
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต