ออฟฟิศซินโดรม ภัยใกล้ตัว

ที่มา : เดลินิวส์


ออฟฟิศซินโดรม ภัยใกล้ตัว thaihealth


แฟ้มภาพ


จากพฤติกรรมการเล่นมือถือ ที่นานขึ้นกว่าเดิมของคนไทย ส่งผลให้หลายคนมีโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ในส่วนต่างๆ มากขึ้น ซึ่งการป้องกัน โดยยืดเส้นยืดสาย ในการใช้ชีวิตก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ


รศ.พญ.กฤษณา พิรเวช หัวหน้าฝ่ายเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ให้ข้อมูลว่า "สมาร์ทโฟนซินโดรม" และ "ออฟฟิศซินโดรม" ทั้งสองโรคมีอาการคล้ายคลึงกันบางส่วน เนื่องจากปัจจุบันคนนิยมใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ตั้งแต่เด็กเล็ก วัยรุ่น คนทำงานหนุ่มสาว หรือผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ที่เห็นได้เกือบทุกวัย


โดยผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษากับทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู จะมีลักษณะอาการปวดที่เกิดจากการใช้ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ส่วนใหญ่คือ จะอยู่ในท่าก้ม หรือบางคนก้มมาก จนจอแทบติดหน้า การก้มแบบนี้ทำให้กระดูกต้นคอรับแรงกดมากขึ้น แต่ถ้าศีรษะตั้งตรง จะเห็นว่าแรงกดที่ต้นคอน้อยมาก แต่ถ้าเราก้มมากขึ้นประมาณ 10-15 องศา แรงกดที่ต้นคอจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 4-5 กิโลกรัม และถ้าก้มมากขึ้นถึง 30 องศา แรงกดอาจมากถึง 25 กิโลกรัม แต่ถ้าก้มมากถึง 45 องศา แรงกดจะมากถึง 20 กิโลกรัม ถ้ายิ่งโก้งโค้งทั้งคอและบ่า จะพบว่าแรงกดมีมากถึง 30 กิโลกรัม การที่เราอยู่ในท่านี้นานๆ ทำให้กระดูกต้นคอทำงานเยอะ รวมทั้งกล้ามเนื้อที่อยู่รอบต้นคอ และบ่าต้องทำงานตลอดเวลา มีอาการเมื่อยล้า ทำให้ไม่สามารถทำงานต่อได้


การใช้สมาร์ทโฟนไม่ใช่แค่ก้มอย่างเดียว ยังจะมีใช้มือกด หรือยกขึ้นมา การที่เราต้องยกมือนาน ๆ เช่น เล่นเกม ดูซีรีส์ หรือแชตเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน จะทำให้กล้ามเนื้อเอ็น หรือที่แขน และข้อมือมีอาการปวดได้ รวมทั้งบางรายอาจมีอาการชามือได้ เนื่องจากการกดทับของพังผืดข้อมือ ดังนั้น ควรป้องกันไม่ให้เกิดอาการพวกนี้ โดยการใช้สมาร์ทโฟนอย่างถูกวิธี ไม่ควรก้มมาก การใช้แต่ละครั้งไม่ควรเกิน 1-1.30 ชั่วโมง และไม่ควรที่จะต้องถือตลอดเวลา แต่ควรใช้ขาตั้งแทน ซึ่งแทนที่จะใช้นิ้วโป้งตลอดเวลา อาจเปลี่ยนเป็นนิ้วชี้จิ้มบ้าง หรือควรวางบนโต๊ะ แล้วใช้นิ้วอื่น ๆ ที่ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือเอ็นอักเสบได้


สำหรับการป้องกัน สามารถบริหารกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ บ่า หัวไหล่ โดยยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เช่น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อรอบต้นคอ คือ การก้มคอไปข้างหน้าสูดลมหายใจ นับ 1-10 เอียงไปทางด้านซ้ายและขวา นับ 1-10 และแหงนมองไปข้างหลัง นับ 1-10 อย่างช้า ๆ ให้มีการออกกำลังกล้ามเนื้อรอบต้นคอ นอกจากนี้ ถ้าเกิดแถวบ่ามีอาการตึงมาก ก็ใช้มือฝั่งตรงข้ามมายืดกล้ามเนื้อบ่าให้คลายตัว ในส่วนของแขนเราสามารถยืดกล้ามเนื้อแขนได้ โดยที่เราเหยียดแขนออกไปให้ตรง และใช้มือดันข้อมือ นับ 1-10 และการกระดกนิ้วขึ้น เพื่อเป็นการบริหารนิ้ว ส่วนมือจะเป็นการงอเหยียดนิ้วมือ กางพับออก จะช่วยให้คลายกล้ามเนื้อที่ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และถ้าเราออกกำลังกายแล้ว ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว รายที่มีอาการมากก็ต้องมาพบแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู อาจจะต้องใช้ยา หรือวิธีการทำกายภาพ รวมทั้งการสอนวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง


สำหรับผู้ที่มีอาการ ที่ควรพบแพทย์คือ เอ็นอักเสบเรื้อรัง มีปัญหาเรื่องนิ้วล็อก มีอาการชาจากคอลงมาที่แขน จะสันนิษฐานได้ว่า มีเรื่องของหมอนรองกระดูกหลังส่วนคอมีอาการเสื่อม หรือพังผืดกดทับ ซึ่งควรไปพบแพทย์โดยเร็วในเรื่องของการฝังเข็มช่วยลดอาการปวด หรือการนวดแผนไทย ในบางรายที่กล้ามเนื้อตึงเป็นเวลานานจะสามารถช่วยได้ แต่สิ่งสำคัญคือการป้องกัน และใช้สมาร์ทโฟนให้ถูกวิธี เพราะแม้จะรักษาหายแล้ว แต่หากกลับไปใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมอาจจะต้องกลับมารักษาอีก

Shares:
QR Code :
QR Code