ออกกำลังกาย’วิถีพุทธ’ มหกรรมกีฬามหามงคล

กายและใจเป็นเรื่องที่แยกกันแทบไม่ออก เรียกว่ากายดี ใจก็ดีไปด้วย ใจดีแน่นอนว่ากายก็ดีตามมา มหกรรมกีฬามหามงคลในปีนี้ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 จึงยึดแนวคิด “กายใจเป็นหนึ่งเดียว” โดยใช้พื้นที่บริเวณหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เพื่อจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักกีฬา

ออกกำลังกาย'วิถีพุทธ' มหกรรมกีฬามหามงคล

งานนี้ได้ผนวกแนวคิดในการส่งเสริมใจ เพราะในปีนี้ถือเป็นปีพุทธชยันตี ครบรอบ 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จึงเกิดเป็นมหกรรมกีฬามหามงคลที่ผนวกกิจกรรมการปฏิบัติธรรม ทั้งการทำบุญ รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา เพื่อเป็นพุทธบูชา งานนี้นอกจากอบอวลไปด้วยบรรยากาศของการออกกำลังกายให้เกิดสุขภาพดี จึงมีกิจกรรมที่ส่งเสริมใจให้แข็งแรงอีกด้วย ภายในงานได้แบ่งเป็น 4 โซนกิจกรรมได้แก่

โซนกีฬาเทิดพระเกียรติ ประกอบด้วยนิทรรศการพระอัจฉริยภาพด้านกีฬา ในฐานะทรงเป็นกษัตริย์นักกีฬา และนิทรรศการจริยวัตรด้านพระพุทธศาสนา พร้อมการสาธิตกีฬาเทิดพระเกียรติ อาทิ เรือใบ เปตอง จักรยาน โดยจะมีการสาธิตกีฬาเปตอง ซึ่งเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ทำให้ผู้เล่นได้ออกกำลังกายและฝึกการกำหนดจิตใจไปควบคู่กัน

โซนออกกำลังกายใจวิถีพุทธ กิจกรรมการออกกำลังกายแนวใหม่เพื่อฝึกใจควบคู่กับกาย อาทิ การออกกำลังกายวิถีพุทธ โดยเสถียรธรรมสถาน และการเดินอย่าง มีสติ โดยหมู่บ้านพลัม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

โซนรู้ตื่นและเบิกบานกิจกรรมเพื่อการปฏิบัติทำความดี ถวายเป็นพุทธบูชาถวายแด่ในหลวงและฉลองปีพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ อาทิ การสวดมนต์ ตักบาตรแบบพุทธกาล และการฟังธรรมเพื่อการรู้ตื่น และเบิกบาน พร้อมทั้งการร่วมพิธีปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ และต้นสาระ

โซนสุขกาย สุขใจ อัดแน่นด้วยกิจกรรมของบรรดาภาคีเครือข่าย อาทิ ยางยืดพิชิตโรค ตาราง 9 ช่องพัฒนาสมอง นวดปรับสมดุลสร้างเสริม สุขภาพ ทั้งนี้ยังพบกับกิจกรรมสุขภาพสร้างสรรค์ โยคะภาวนาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เสียงธรรมจากสวนโมกข์ การร่วมเสวนา “ร้อยคน ร้อยธรรม ร้อยห้าปีพุทธทาส” โดย พระพยอม กัลยาโณ การให้ความรู้เรื่องการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี และการให้บริการตรวจวัดไขมัน การสาธิตการออกกำลังกายสำหรับคนทุกวัยอีกด้วย

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ สาเหตุที่กายกับใจแยกจากกันไม่ได้ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อธิบายว่า เมื่อคนเราออกกำลังกายก็จะหลั่งสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุขทำให้จิตใจเบิกบาน สงบ และสามารถจัดการกับปัญหาได้ดีขึ้น โดยแนวคิดการจัดการในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าเมื่อคนเรามีความสุขทั้งกายและใจ ก็จะนำไปสู่ความสุขอย่างแท้จริง เพราะทั้งสองสิ่งเป็นของที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะสังเกตความรู้สึกของตัวเองได้ว่า เมื่อได้ออกกำลังกายจิตใจจะเบิกบานขึ้น ความเครียดน้อยลง มีสมาธิมากขึ้น หรือหากมีความเครียดมากระทบก็จะสามารถจัดการต่อความกังวลในปัญหาได้ดี

ในปีนี้สสส.คาดหวังว่า เมื่อสามารถเชิญชวนให้คนร่วมออกกำลังกาย ถวายเป็นพระราชกุศลได้แล้ว ก็ยังต้องเสริมสร้างในเรื่องการทำความดี ด้วยกิจกรรมด้านต่างๆ ที่เน้นทำให้เกิดความสุข ความสงบขึ้น เพื่อให้ความสุขกายและสุขใจเกิดขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน

นายณรงค์ เทียมเมฆนายณรงค์ เทียมเมฆ ผู้จัดการแผนส่งเสริมการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อสุขภาพ สสส.อธิบายเพิ่มเติมว่า ในการจัดกิจกรรมปีนี้ แตกต่างจากปีที่ผ่านมา เพราะนำเอาหลักคำสอนของศาสนาเข้ามาเสริมจากการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว เพื่อมุ่งหวังเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมกันทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล

นอกจากกิจกรรมที่ทุกคนที่เข้าร่วมงานสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้แล้ว ยังมีการคัดเลือกตัวแทน 100 คน ที่จะมาปวารณาตัวเพื่อทำความดีนับตั้งแต่วันที่จัดกิจกรรม ซึ่งตรงกับวันฉัตรมงคล ไปจนถึงวันวิสาขบูชา โดยจะมีสมุดคู่มือทำความดีแจกให้กับตัวแทนทั้ง 100 คนเพื่อเป็นแนวทางว่า อะไรบ้างคือความดี เพราะเชื่อว่าคนเราเมื่อเริ่มต้นทำความดีก็จะติดการทำดีกลายเป็นพฤติกรรมถาวร

ในสมุดคู่มือทำความดี จะมีเรื่องราวต่างๆ ที่ให้ตัวแทนได้นำไปปฏิบัติตาม ทั้งการทำความดีต่อตนเอง เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การลดพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ด้วยการลดหวาน มัน เค็ม การลดใช้การสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการใช้โทรศัพท์ให้น้อยลงใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีการทำความดีต่อสังคมโดยรวม เช่น การลดขยะโดยการลดใช้ถุงพลาสติก การเดินขึ้นบันได การปั่นจักรยาน ใช้รถสาธารณะ นอกจากจะได้ออกกำลังกายยังช่วยลดการใช้พลังงาน ซึ่งคู่มือทำความดีจะเน้นไปในเรื่องที่สามารถทำได้จริงทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน

ตัวแทนทั้ง 100 คนหลังจากได้คู่มือไปปฏิบัติจะมีการกลับมาพบกัน 2 ครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนปัญหาที่พบ การแก้ปัญหาว่าทำอย่างไร เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดก็จะนำเรื่องราวเหล่านี้มาถอดเป็นบทเรียนเพื่อจัดทำเป็นสื่อเพื่อเผยแพร่ต่อไป ซึ่งในระหว่างที่ตัวแทนทั้ง 100 คนเดินทางไปทำความดีก็จะมีการเผยแพร่เรื่องราวที่พบเจอผ่านเฟซบุ๊กเพื่อให้คนอื่นๆ ได้ติดตาม โดยเมื่อครบกำหนดเวลาก็จะมีการเลือกตัวแทน 20-30 คน นำเรื่องราวและความรู้สึกที่เกิดขึ้นถอดเป็นบทเรียนเพื่อจัดพิมพ์เผยแพร่เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้อื่นได้ฉุกคิดและอาจนำไปทำตาม

“การทำความดีไม่ใช่เรื่องยาก” เป็นคำที่คุณณรงค์ เชื่อมั่นว่าทุกคนจะสามารถทำได้ เพราะจิตใจของคนเรามีกลไกในการตัดสินดีชั่ว เมื่อเราฝึกทำแต่เรื่องที่ดีๆ แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นพฤติกรรมที่เราทำเป็นประจำในที่สุด ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกคิดขึ้น เป็นเหมือนเครื่องมือที่นำมาทำให้ กาย และใจ เชื่อมโยงกันโดยสมบูรณ์ได้

ในสังคมยุคนี้ที่เราพบปัญหาหลายรูปแบบ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเกิดทุกข์ได้ การฝึกให้จิตใจและร่างกายเข้มแข็งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะทำให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้จริง

เรื่อง: เมธาวี มัชฌันติกะ
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Shares:
QR Code :
QR Code