อย.จับฉีดโบท็อกซ์เถื่อนผ่านเว็บ

อย.ร่วมบก.ปคบ.จับอดีตลูกจ้างคลินิก ลักลอบฉีดโบท็อกซ์-ฟิลเลอร์ที่บ้าน โฆษณาผ่านเว็บไซต์ มีไฮโซ-ดารา ลูกค้าสาวอยากสวยทางลัด มาฉีดแล้วร่วมพันราย โดยตำรวจตั้ง 4 ข้อหา ขายยาปลอม-ไม่ใช่แพทย์ –แอบอ้างโฆษณา

อย.จับฉีดโบท็อกซ์เถื่อนผ่านเว็บ ดารา-ไฮโซ หลงกลนับพัน

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2554 ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ร่วมกันแถลงข่าวการบุกจับกุมผู้ลักลอบขาย ฉีดโบท็อกซ์และสารกลูตาไธโอน ย่านสายไหม หลังผู้บริโภคร้องเรียนให้ตรวจสอบเว็บไซต์ชื่อ www.biopharmacare.com ที่มีการโฆษณาขายยาและบริการฉีดยาชนิดต่างๆ ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจาก อย. พร้อมให้หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อสอบถามและนัดหมายเวลาฉีดยา เผย ตรวจพบลักลอบฉีดโบท็อกซ์ โดยผู้ฉีดไม่ได้เป็นแพทย์ และสถานที่ฉีดเป็นบ้านพักอาศัย พร้อมผลิตภัณฑ์ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาจำนวนมาก มูลค่าของกลางกว่า 400,000 บาท

นพ.พิพัฒน์ กล่าวว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบเว็บไซต์ชื่อ www.biopharmacare.com เนื่องจากมีการโฆษณาฉีดโบท็อกซ์ ฉีดหน้าเรียว ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม พร้อมให้หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อนัดหมายฉีดโบท็อกซ์หรือสอบถามข้อมูล จึงได้ตรวจสอบเพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายต่อประชาชน หลังจาก อย. ได้รับข้อมูล ได้ประสานไปยังตำรวจ บก.ปคบ.เพื่อสืบสวนสอบสวนและทำการล่อซื้อยาจากเว็บไซต์ดังกล่าวทันที จากการเข้าไปตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว พบว่า มีการโฆษณาฉีดโบท็อกซ์ และฉีดกลูตาไธโอนจริง ตามที่ผู้บริโภคร้องเรียน โดยมีข้อความโฆษณาว่า “บริการฉีดผิวขาวหรือฉีดกลูตาไธโอนกับหมอที่คลินิกหรือโรงพยาบาลกว่า 10 แห่งที่กรุงเทพฯ และยังมีที่ต่างจังหวัดด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียด โทร 08 7677 9552” รวมทั้งโฆษณาฉีดโบท็อกซ์ “ฉีดจมูกเติมเต็มด้วยสารฟิลเลอร์ (filler) ที่ปลอดภัยได้ อย. โดยแพทย์ชำนาญการ ปลอดภัย ไม่ใช่ซิลิโคนเหลว ฉีดเสริมหน้าผาก ฉีดเติมร่องแก้ม ฉีดลดตีนกา บริการยกกระชับหน้าด้วยไหมทองคำ พร้อมจำหน่ายยาช่วยทำให้ผิวขาว”

เลขาธิการ อย. กล่าวว่า หลังตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. ได้ทำการล่อซื้อยาฉีดโบท็อกซ์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2554 ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏบนเว็บไซต์ โดยทางตำรวจ บก.ปคบ. ได้ส่งสายสืบปลอมตัวเพื่อเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งสถานที่นัดหมายรับบริการ คือ บ้านเลขที่ 228 ถ.สายไหม ซ.สายไหม 10 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม น.ส.บุษวรรณ สุวรรณวัฒน์ หรือชื่อที่ใช้ในการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ว่า “ฝ้าย” ขณะกำลังฉีดโบท็อกซ์ด้วยตนเองให้กับผู้ล่อซื้อในบ้านพักดังกล่าว

จากการตรวจสอบ น.ส.บุษวรรณ ไม่ได้เป็นแพทย์ และบ้านพักไม่ได้เป็นสถานพยาบาลถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมทั้งจับยาและอุปกรณ์ที่ใช้ในขณะฉีดให้ลูกค้า 4 รายการ นอกจากนี้ ผลการตรวจสอบบ้านพักดังกล่าว และขยายผลต่อตรวจสอบรถยนต์ของ น.ส.บุษวรรณ (ผู้ต้องหา) พบผลิตภัณฑ์ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดต่างๆ จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมมูลค่าของกลางกว่า 400,000 บาท

“ผู้ต้องหารายนี้รับฉีดครั้งละราว 1 หมื่นบาท ฉีดมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 พันคน และจากการตรวจสอบประวัติลูกค้าพบว่ามีไฮโซ และดาราเป็นลูกค้าด้วย โดยสารโบท็อกซ์ที่นำมาฉีดเพื่อลดรอยเหี่ยวย่น เป็นสารชนิดเดียวกับพิษบูโทลินิ่มที่พบในหน่อไม้ปี๊ป ถ้าฉีดไม่ดี เช่น ฉีดใต้หนังตาเพื่อลดริ้วรอย กลายเป็นว่าหนังตาหลับไม่ลง ตาค้าง หรือฉีดมุมปาก ปากเบี้ยว เพราะโบท็อกซ์จะทำให้การทำงานของประสาทกล้ามเนื้อตรงจุดนั้นไม่ทำงาน ทำให้เกิดการดึงรั้งตรงจุดนั้นน้อยลง แต่ถ้าผู้ฉีดไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแล้วฉีดลึกไปหรือปริมาณยามากไป จะทำให้เส้นประสาทเป็นอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ หน้าเบี้ยว ตาเบี้ยว บางคนกินข้าวเคี้ยวหรือกลืนไม่ลง เพราะกล้าเนื้อตรงคอเปลี่ยนไปหมดเลย อ่อนแรง รวมถึงฟิลเลอร์ฉีดมากไป ตำแหน่งไม่ถูกต้องก็อักเสบ อาจจะเป็นผังผืดภายหลังได้ จึงฝากเตือนประชาชนว่าการรับบริการกับผู้ที่ไม่มีความรู้เพียงแต่อาศัยราคา ถูกอันนี้จะเกิดอันตรายขึ้นได้” นพ.พิพัฒน์ กล่าว

พล.ต.ต.พูลทรัพย์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้แจ้งดำเนินคดีหลายข้อหา ได้แก่ 1. ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท 2. ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. โฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท 4. ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอยู่ระหว่างการขยายผลว่าผู้ต้องหารายนี้ซื้อยาและผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย จากที่ไหน อย่างไร

 

 

ที่มา :  หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code