องค์โสมฯ ทรงห่วงหญิงไทย

เสด็จเปิดงาน”ยุติความรุนแรงสตรี”

 

          เนื่องในโอกาสวันยุติความรุนแรงต่อสตรี ซึ่งตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จึงเปิดตัวโครงการ “รณรงค์ลดการประทุษร้ายต่อผู้หญิง” ซึ่งได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นประธานเปิดงาน

 

 

 

          พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เสด็จยังบริเวณงานด้วยสีพระพักต์แจ่มใส ทรงเปิดงานและทอดพระเนตรละครใบ้ สะท้อนภาพสถานการณ์ของการประทุษร้ายผู้หญิง และทางแก้ปัญหาด้วยความร่วมมือจากสังคม จากนักแสดงกลุ่มพระจันทร์เสี้ยว จากนั้นเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรงของผู้หญิง พระองค์ทอดพระเนตรนิทรรศการอย่างสนพระทัย และก่อนเสด็จกลับ ทรงมีพระราชปฏิสันถารให้กำลังใจกับผู้หญิงและเด็กผู้ประสบปัญหาที่มาเฝ้ารับเสด็จ รวมทั้งตรัสให้กำลังใจเจ้าหน้าที่บ้านพักฉุกเฉินว่า “ขอให้ช่วยกันทำงานเพื่อสังคม เพราะสงสารเด็ก”

 

          หลังจากพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เสด็จกลับแล้ว นางเมทินี พงษ์เวช ผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ เล่าถึงสถานการณ์ความรุนแรงของผู้หญิงในปัจจุบันนี้ว่า สถานการณ์ความรุนแรงของผู้หญิงยังคงเหมือนเดิม ปัญหาที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัว และปัญหาท้องไม่พร้อม ซึ่งจากการช่วยเหลือ พบว่าผู้หญิงที่ประสบปัญหาท้องไม่พร้อมจะมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ อายุน้อยที่สุดขณะนี้ อายุเพียง 11 ขวบเท่านั้น

 

          “สมาคมให้ความช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบปัญหาเดือนละ 40-50 คน ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือปัญหาครอบครัว สามีเลี้ยงภรรยาด้วยลำแข้ง สาเหตุของปัญหาเกิดจากเหล้า การหึงหวง และปัญหาทางเศรษฐกิจ”

 

          ผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ บอกอีกว่า ปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดกับผู้หญิงที่การศึกษาน้อย ยากจน และด้อยโอกาส ยังต้องพึ่งพารายได้จากสามี เมื่อถูกทำร้ายร่างกาย ผู้หญิงเหล่านี้จะยอมให้ถูกกระทำไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น หรือแจ้งตำรวจ เพราะชีวิตยืนด้วยลำแข้งตัวเองไม่ได้ ยังคงต้องการความช่วยเหลือจากสามีอยู่

 

          “ปัญหานี้ไม่มีทางหมดไปจากสังคมไทย ถ้าตราบใดสังคมยังเห็นความรุนแรงเป็นเรื่องธรรมดา ยกตัวอย่าง ละคร หรือภาพยนตร์ที่ยังเสนอภาพความรุนแรง ตบตี ทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่หล่อหลอมให้คนในสังคมมองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ดังนั้น ผู้หญิงควรหันมาป้องกันตัวเองด้วยการยืนหยัดด้วยการพึ่งตัวเองให้ได้ในทุกด้าน ดังนั้น ผู้หญิงต้องมีการศึกษาสูงๆ เพราะการศึกษาไม่เคยทำให้คนตกต่ำ”

 

          ยังคงเป็นปีที่ต้องทุ่มเทรณรงค์ให้ยุติความรุนแรงต่อสตรีต่อไป

         

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

 

 

Update : 25-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร

Shares:
QR Code :
QR Code