ห่วงกินชอล์กเขียนกระดาน เสี่ยงอันตรายลำไส้อุดตัน
ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์
แพทย์ห่วงพฤติกรรมกินชอล์ก เสี่ยงอันตราย ทำฟันผุ การย่อยอาหารลำบาก ท้องผูก ลำไส้อุดตัน หากหญิงตั้งครรภ์กินเข้าไป อาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ ไม่แนะนำให้ทุกวัยเลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าว
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีที่เป็นกระแสในโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับการกินชอล์กนั้น ถือเป็นพฤติกรรมการกินแบบแปลกประหลาด โดยการกินสิ่งของแทนอาหาร เช่น หิน ดิน แป้งดิบ น้ำแข็ง หรือชอล์ก พฤติกรรมนี้อาจเกิดขึ้นได้กับเด็กที่มีอายุระหว่าง 18 เดือนถึง 2 ปี แต่ถ้าในผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ ทางการแพทย์เรียกว่า Pica เป็นภาวะทางจิตเวช ถือเป็นความผิดปกติของการกินชนิดหนึ่ง และยังเชื่อมโยงกับพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ ภาวะทุพโภชนาการ และการตั้งครรภ์อีกด้วย
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวต่อว่า ถ้าพบอาการเช่นนี้ควรไปพบแพทย์ และหากพบเห็นพฤติกรรมการกินชอล์กดังกล่าว ก็ไม่ควรลอกเลียนแบบหรือทำตาม เพราะถึงแม้ว่าชอล์กขาวจะมีพิษเพียงเล็กน้อย แต่ถ้ากินในปริมาณที่มากเกินไป หรือสะสมในร่างกายเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่น ฟันสึกกร่อนหรือฟันผุ การย่อยอาหารลำบาก ท้องผูกหรือกีดขวางในลำไส้ ทำให้ลำไส้อุดตัน การติดเชื้อปรสิตเบื่ออาหาร และหากเป็นชอล์กสี ซึ่งใช้สารเคมีสีที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร อาจก่อให้เกิดอันตรายจากโลหะหนักต่าง ๆ เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู โครเมียม สังกะสี การได้รับโลหะหนักเข้าไปในร่างกายมาก ๆ หรือเป็นประจำ จะเกิดการสะสมพิษในร่างกาย อาจทำให้เกิดอันตรายทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรังได้ สำหรับในหญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร การกินชอล์กอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการของทารกได้อีกด้วย
“ทั้งนี้ ร่างกายยังคงต้องการอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเสริมสร้างพลังงาน ดังนั้น ในแต่ละวันมีอาหารหลากหลายประเภทที่จำเป็นมากกว่าการเปิบพิสดารสิ่งของหรือสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ กรมอนามัยจึงยังคงเน้นย้ำให้ทุกกลุ่มวัยกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีความหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่าง ๆ ครบถ้วนในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการ” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว